บท
ตั้งค่า

บทที่สาม

พิษจากแมงมุมไร้ความรู้สึก

เช้าวันนี้เซี่ยจินเย่ตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงไก่ของข้างบ้านขัน แสงจากดวงอาทิตย์ยังสว่างไม่มากเพราะโผล่เพิ่งเคลื่อนโผล่พ้นขอบฟ้ามาแค่ครึ่งดวงเท่านั้น

ที่เซี่ยจินเย่ตื่นเร็วเป็นเพราะวันนี้นางมีหลายสิ่งหลายอย่างต้องทำ ก่อนลุกขึ้นมาจากเตียงนอนไม้หลังเก่าหญิงสาวตะแคงหันข้างมองเจ้าก้อนแป้งตัวผอมกำลังนอนหลับตาพริ้ม สองแขนสั้นเกาะแขนมรดาอย่างนางแน่น

รอยยิ้มละมุนอ่อนโยนปรากฎบนใบหน้างามของเซี่ยจินเย่โดยไม่รู้ตัวขณะสายตาอันเต็มไปด้วยความรักนางจับจ้องบุตรชายผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของร่างนี้

แวบแรกที่เซี่ยจินเย่เห็นเด็กชายตัวนน้อยผู้น่าสงสาร นางรู้สึกว่านี่เป็นของขวัญที่สวรรค์ประทานให้ยามนางต้องมาอยู่ในที่โดดเดี่ยวเช่นนี้

บุตรชายหน้าตาส่อแววหล่อเหลาตั้งแต่สี่หนาวเพียงแค่นี้ สงสัยว่าบิดาของเจ้าก้อนแป้งคงหน้าตาดีมิน้อย ทว่าอีกฝ่ายคงโชคร้ายที่มิได้มีโอกาสเห็นเจ้าก้อนแป้งแสนน่ารักนี้

“งืม ท่านแม่”

สงสัยนางเผลอลูบหัวเด็กน้อยหนักมือไปหน่อยจึงทำให้อีกฝ่ายเริ่มรู้สึกตัวตื่น ดังนั้นต่อจากนี้เซี่ยจินเย่จึงค่อยๆดึงมือตนเองออกจากการเกาะกุมอย่างแผ่วเบาที่สุดและลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาแปรงฟันก่อนออกจากห้องนอนไปทำสิ่งอื่นต่อ

สองชั่วยามผ่านไป ช่วงเช้าเซี่ยจินเย่จัดการนำสมุนไพรที่ได้จากการเก็บมาเมื่อวานเอามาเตรียมสมุนไพรให้อยู่ในรูปแบบพร้อมใช้ในการปรุงยา หากสมุนไพรที่มีสรรพคุณตรงบริเวณรากหรือลำต้น เนื้อแข็งต้องตัดให้เล็กหรือไม่ก็บางลงเพื่อทำให้สมุนไพรแห้งง่ายเวลานำไปตากแดด

ส่วนสมุนไพรตัวไหนที่มีคุณในการรักษาโรคในขณะเดียวกันก็มีส่วนเป็นโทษหรือเป็นพิษอันนี้นางแยกเอาไว้ก่อนเพราะต้องหาเวลามาเตรียมแบบพิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโทษจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

พอทำขั้นตอนส่วนที่ยากเสร็จ ส่วนที่เหลือเซี่ยจินเย่สอนวิธีให้เฟยซาทำต่อเพราะนางมีสิ่งสำคัญที่ต้องออกไปทำข้างนอกบ้านต่อนั่นเอง

เนื่องจากข่าวลือว่านางเป็นฆาตกรวางยาพิษคุณชายเกาซีหมิงทำให้เซี่ยจินเย่ติดปัญหาเรื่องกลัวชาวบ้านจำหน้าได้แล้วพากันมามุงลงโทษนางแบบศาลเตี้ยอย่างคราวที่แล้ว เซี่ยจินเย่จึงใส่หมวกและสวมผ้าคลุมหน้าโปร่งแสงอำพรางตัวตนก่อนออกมาข้างนอก

ใช้เวลาไม่นานเซี่ยจินเย่ก็สามารถเดินทางมาถึงหน้าจวนโอ่อ่าของตระกูลพ่อค้าผู้ร่ำรวยทั้งเงินทองและน้ำใจอย่างตระกูลเกา

ในความทรงจำอันแสนเรือนรางของร่างนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ววันที่เกิดเรื่องนางและลูกชายโดนชาวบ้านรุมทำร้าย วันนั้นพวกนั้นเพิ่งเดินออกมาจากจวนเพราะก่อนหน้านี้ร่างนี้โดนท่านหมอชราคนรู้จักของนางเรียกตัวให้เข้าไปช่วยเป็นที่ปรึกษาเรื่องพิษนี่แหละ

ร่างเก่ามีสหายเป็นหมอชราหนึ่งคน นานๆเจอกันหนึ่งหนเพราะหมอชราคนนี้ชื่นชอบพเนจรรักษาคนป่วยยากไร้ไปทั่ว

แคว้นลามไปอีกหลายดินแดนหลายแคว้น

ทว่าขาเดินออกมาจากจวนไหงกลับมีข่าวลือเรื่องนางวางยาพิษแล้วโดนประมุขตระกูลเรียกตัวไปสอบสวนอย่างพอเหมาะพอเจาะราวกับมีคนบางคนจับวางเช่นนี้ก็ไม่รู้

มีคนตั้งใจ

เซี่ยจินเย่ต้องหาตัวคนเบื้องหลังผู้นั้นให้ได้ หากแต่ตอนนี้นางหาญกล้ามาเหยียบที่นี่อีกหนเป็นเพราะต้องการมาพิสูจน์ความจริงและแสดงความบริสุทธิ์ใจตนเอง อีกนัยหนึ่งนางสามารถใช้วิกฤตครั้งนี้มาเป็นโอกาสพลึกชีวิตตกต่ำของตนเองได้อีกด้วย

เซี่ยจินเย่เดินเข้าไปหาผู้คุ้มกันหน้าประตูใหญ่ทั้งสองคนด้วยท่าทีนิ่งสงบ

“พี่ชายทั้งสอง ข้าฝากท่านไปเรียนท่านประมุขตระกูลเกาว่ามีคนขอเข้าพบได้หรือไม่”

“เจ้าเป็นผู้ใด เอ่ยแซ่และนามมาได้เลย”

“ข้านามว่าเซี่ยจินเย่ วันนี้มาขอเข้าพบเพราะต้องการช่วยเหลือคุณชายเกาซีหมิงที่โดนพิษเจ้าค่ะ”

“เจ้า! เจ้าคือคนที่วางยาพิษคุณชายของเรา เหิมเกริมยิ่งนัก ยังมีหน้ามาเอ่ยวาจาเรื่อยเปื่อยเช่นนี้อีก....”

“ใจเย็นก่อนสหาย นางเป็นสตรีนะ เจ้าจะลงมือกับสตรีตัวเล็กเช่นนี้รึอาเฟย”

“หากข้าเป็นคนวางยาพิษจริงจะมีหน้ามาเหยียบถึงถิ่นเจ้านายพวกเจ้ารึ เฮ้อ อย่างไรข้าฝากไปแจ้งเจ้านายพวกเจ้าที หากมิอยากให้คุณชายของพวกเจ้าอาการหนักจนรักษามิหาย”

เซี่ยจินเย่มองพวกเขาด้วยสายตาว่างเปล่าจนกระทั่งหนึ่งในผู้คุ้มกันเดินเข้าไปในจวนเพื่อเข้าไปรายงานเรื่องการมาของนาง

ท้ายที่สุดเซี่ยจินเย่ก็สามารถเข้าไปในจวนตระกูลเกาได้อย่างปลอดภัย

เวลานี้หญิงสาวจึงกำลังเดินตามพ่อบ้านหลิ่งเหวิน หัวหน้าพ่อบ้านที่คอยดูแลรับใช้บ่าวในจวนแห่งนี้ ชายชราเดินนำโดยไร้การสนทนาใดๆทว่าก็มิได้ดูไร้มารยาทต่อนาง ชายชราเดินเงียบๆพาเซี่ยจินเย่ไปยังเรือนขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ถัดไปข้างในสองเรือน ที่หน้าเรือนมีสตรีวัยประมาณยี่สิบปลายๆยืนรอเคียงคู่กับบ่าวข้างกายสองคน

ยืนรอต้อนรับนางหรือก็มิน่าใช่

เซี่ยจินเย่ขมวดคิ้วและทำความเคารพตามมารยาทอย่างที่ท่านพ่อบ้านข้างหน้านางทำ

“ทำความเคารพฮูหยินรองขอรับ ข้าน้อยขอพาตัวแม่นางเซี่ยจินเย่เข้าไปพบนายท่านข้างในก่อน”

ได้ยินมาว่าตระกูลเกาเป็นตระกูลร่ำรวยทว่ามิได้มีสมาชิกเยอะมากมายเท่าไหร่นัก

เวลานี้สมาชิกที่เหลืออยู่มีเพียงฮูหยินผู้เฒ่า เกาชี่ยา บุตรชายสองคนคนโตสืบทอดตำแหน่งเป็นประมุขตระกูลมีภรรยาหนึ่งคนคือฮูหยินใหญ่นามว่า เจ๋อฟาง มีบุตรชายผู้เก่งกาจเพียบพร้อมหนึ่งคนซึ่งคือคนโดนพิษนามว่า ซีหมิง

ส่วนบุตรชายคนรองคอยช่วยดูแลกิจการค้าขายร้านในตลาดเป็นส่วนใหญ่มีภรรยาหนึ่งคนเช่นกันหรือก็คือฮูหยินรองผู้นี้ นามว่าจุนซี มีบุตรชายไม่เอาถ่านหนึ่งคนคือ เกาชิ่งเชา

ในขณะที่เซี่ยจินเย่กำลังไล่เรียงข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลเกาในหัวจู่ๆขณะที่นางกำลังเดินผ่านพวากนางไปสิ่งที่มิคาดคิดก็เกิดขึ้น

เพี๊ยะ!

ฮูหยินรองจุนซีง้างมือขึ้นหมายตบใบหน้าของเซี่ยจินเย่ ครั้นโชคดีที่เซี่ยจินเย่ระมัดระวังตัวตลอดเวลาจึงยกแขนขึ้นมาขวางเอาไว้ทันดังนั้นเสียงตบที่เกิดขึ้นจึงเป็นเสียงฝ่ามือกระทบแขนของนางแทน

แรงเยอะชะมัด

“ฮะ ฮูหยินระ รอง....”

“เจ้า! นังแม่มด เจ้าตั้งใจทำร้ายหลานของข้า เจ้ามันสตรีร้ายกาจ มิรู้จักบุญคุณ ขนาดนายท่านของตระกูลพวกเราเคยแบ่งข้าวแบ่งน้ำให้ขอทานอย่างเจ้ายังใจทรามทำร้ายหลานข้าได้ลง”

“ฮูหยินรองได้โปรดใจเย็นก่อนขอรับ นายท่านบอกว่าพวกเรามิมีหลักฐาน มิควรตัดสินคนจากวาจาล่องลอยนะขอรับ”

“....”

เซี่ยจินเย่ถอยหลังออกมาให้ห่างจากฮูหยินรองตระกูลเกาด้วยเกรงว่าตนเองจะมือลั่นสวนกลับคนที่มาทำร้ายตนเองก่อน เดี๋ยวจากที่คิดว่าจะมาดีจะกลายเป็นเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทโดนไล่ออกจากจวนเสียก่อน

“พ่อบ้านหลิ่ง เจ้ากล้าปกป้องนังงูพิษนี่รึ เหอะ ทำมาเป็นบอกว่ามีวิธีช่วยเหลืออาหมิง นางต้องการมาเยาะเย้ยมากกว่ากระมัง พ่อบ้านหลิ่งท่านเชื่อนางรึ!”

“ได้โปรดระงับโทสะด้วยขอรับ จะเชื่อมิเชื่อให้นายท่านกับฮูหยินใหญ่ตัดสินด้วยตนเองเถิด”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel