
บทย่อ
เมื่อสายลับทะลุมิติมาเกิดในร่าง คุณหนูจวนขุนนางที่.... มารดาผู้ให้กำเนิดตาย บิดาหมางเมิน แม่เลี้ยงรังแก ผู้คนด่าว่าเป็นนางแม่มดเพราะเลือกเรียนวิชาพิษ และสุดท้ายดันท้องไม่มีพ่อ! จนถูกตระกูลขับไล่ออกมาอยู่จวนบ้านนอก! หมดกัน ชาติก่อนเป็นสายลับไร้ครอบครัว มาชาตินี้ดั๊นข้ามขั้นมามีลูกเลยหรือนี่!!! ___________________________________________________ ปล. เรื่องนี้เป็นจินตนาการของไรท์ไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์ใดทั้งสิ้น เป็นเรื่องยาวค่ะ เรื่องนี้ไรท์ติดเรท 18 เพราะเนื้อหาในช่วงครึ่งหลังถึงนะคะ ฝากติดตาม กดใจ กดเข้าชั้นด้วยนะคะ?
บทนำ
ฟิ้ว! ตุ้บ! พลั่ก! เผละ!
ทั้งไข่เน่า หัวผักกาดขาว สิ่งของสกปรกทั้งหลายต่างลอยพุ่งเข้าไปกระทบร่างบอบบางของหนึ่งสตรีที่กำลังจูงมือเด็กน้อยผู้เป็นลูกชายในสายเลือดของตนเองเดินออกมาจากประตูจวนตระกูลเกาอันแสนโอ่อ่า
“นางนี่แหละเป็นคนวางยาพิษคิดร้ายต่อบุตรชายของท่านเกาเซินรุ่ย พวกเรา....จัดการนางให้หนักเลย”
“คุณชายเกาซีหมิงเป็นคนดี ไยนางแม่มดผู้นี้จึงจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตรังแกคนดีได้ลงคอ”
“นางแม่มดชั่วร้าย”
“สตรีจิตใจดำมืด”
“พวกเรา จัดการนางให้หนัก ตอบแทนนายท่านผู้มีพระคุณของพวกเรา”
“ฆ่านางให้ตายเลยยิ่งดี”
เสียงตะโกนด่าทอสาดดังออกมาจากทุกสารทิศทำเอาสองแม่ลูกผู้น่าสงสารพร้อมใจกันก้าวถอยหลังหนี หากแต่ข้างหลังโดนชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งดักล้อมป้อนเอาไว้หมดสิ้นหนทางรอดแล้ว
ด้วยความรักสุดหัวใจของสตรีผู้เป็นมารดา เมื่อมิสามารถหนีฝ่าวงล้อมออกไปได้เพราะชาวบ้านล้อมปิดพวกนางทุกหนทาง นางจึงคว้าบุตรชายตัวน้อยของตนเองเข้ามากอดฝังไว้ในอ้อมอก หันแผ่นหลังป้องกันอันตรายลูกน้อยของตนเองอย่างสุดความสามารถ
“ฮึก ท่านแม่ ข้า...ฮึก กลัว”
ตุ้บ! พลั่ก! เผละ!
ไม่รอผู้ถูกกระทำทั้งสองได้ทันตั้งตัว บริเวณหน้าประตูใหญ่ของจวนเนืองแน่นไปด้วยเหล่าชาวบ้านหลายสิบคนที่พวกเขาต่างแห่กันเข้ามาเรื่อยๆ
บรรดาไข่ไก่ ผักเน่า สิ่งเหม็นเน่าปฏิกูลทั้งหลายถูกโยนเข้ามาอย่างแม่นยำ
“พวกท่านทุกคน....อุ้บ”
สตรีผู้ที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่าแม่มดร้ายกาจยังพูดไม่ทันจบ ไข่ไก่ฟองหนึ่งก็พุ่งเข้ามาในปากนาง รสคาวคละคลุ้งทั่วปาก ของเหลวไหลยืดเลอะไปทั่วทั้งใบหน้าและทั้งตัว สภาพน่าเวทนายิ่งกว่าขอทานข้างถนนในเมืองเสียอีก
อีกทั้งอึสุนัขแห้งอีกหลายก้อนพุ่งเข้าใส่หน้าเต็มๆ หญิงสาวจึงทำได้มากสุดเพียงร่ำไห้หันกลับไปกอดลูกน้อยเพื่อปกป้องสุดฤทธิ์
ตอนแรกสิ่งที่ใช้โยนยังมิอันตรายเท่าไหร่ ทว่าพอเวลาผ่านไปนานเข้าหน่อยทั้งของแข็ง ก้อนหินเล็กใหญ่ต่างก็ถูกโยนเข้าไปประทบร่างบอบบางนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า
ตามศีรษะ ตามอาภรณ์ชุดเก่าที่ถูกนำมาปะซ่อมแซมครั้งแล้วครั้งเล่าเต็มไปด้วยโลหิตไหลรินออกมาจากบาดแผล ทว่าสองแขนเรียวยังคงกอดลูกน้อยในอกแน่นมิยอมปล่อย
ซู่~ ซู่~
“เฮ้ย พวกเราแยกย้ายกันเถอะฝนตกแล้ว”
“ไป ไป แยกย้ายเร็วฝนตกแรงแล้ว”
“ฝนมาตกอันใดยามนี้เนี่ย ข้ายังมิได้ปาหินก้อนนี้ไปเลย”
“เจ้าปาไปที่นางก่อนกลับเถอะ เอาให้แม่นนะ”
“ได้”
พลั่ก!
ราวกับหินก้อนนั้นเป็นอาวุธร้ายฆ่าคนตาย ยามหินก้อนนั้นกระทบศีรษะของสตรีบอบบาง ราวกับเป็นการตอกย้ำไปบนรอยแผลเดิมๆ ส่งผลให้นางที่เสียเลือดมากจนเกินขีดจำกัดของร่างกายผนวกกับร่างกายขาดสารอาหาร ผอมแห้งไร้เรี่ยวแรงทำให้นางมิอาจอดทนได้อีกต่อไป
ร่างบางล้มลงตามแรงโน้มถ่วงกระทบพื้นเช่นเดียวกับเม็ดฝนที่กำลังร่วงหล่นมาจากฟากฟ้า
ดวงตาทั้งสองข้างมีน้ำตาไหลรินออกมาเคียงคู่ไปกับเม็ดฝน
“ท่านแม่! ท่านแม่!”
เด็กชายตัวน้อยลุกขึ้นจากอ้อมกอดของมารดาผู้เสียสละปกป้องเขาจนกระทั่งแรงเฮือกสุดท้ายของชีวิต
ชาตินี้นางทำสิ่งใดผิดหรือ ไยสวรรค์จึงรังแกกลั่นแกล้งกับถึงเพียงนี้
โดนตระกูลทอดทิ้งไม่พอใจพวกท่านหรือ
มารดาสิ้นใจไร้ที่พึง
คลอดบุตรชายทว่ามิทราบแม้กระทั่งตัวตนบิดา
ถูกไล่มายังบ้านนอกของมารดาเลี้ยง
ไร้เบี้ยหวัดรายเดือน
มีชีวิตอยู่พอเลี้ยงปากท้องบุตรของตนไปวันๆ
....เท่านี้สวรรค์ยังมิเห็นใจนางอีกหรือ
ไยสิ่งที่ตนเองมิได้กระทำจึงต้องมารับกรรมของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย
ชาตินี้นางมิขออยู่มีชีวิตมิต่างกับหมาจรจัดตัวหนึ่งเช่นนี้อีกต่อไป.....กังวลก็แต่
บุตรชายตัวน้อยผู้น่าสงสารของนางผู้นี้....
แม่ขอโทษนะ อี๋เอ๋อ แม่ผู้นี้ช่างอ่อนแอไร้พละกำลังปกป้องเจ้าอีกต่อไปเสียแล้ว
หากสวรรค์มีจิตใจจริง ได้โปรดเห็นใจช่วยส่งใครมาปกป้องลูกน้อยของนางผู้นี้ทีเถิด....
เปลือกตาปิดลงพร้อมกับวิญญาณลอยหลุดออกจากร่างหายไป ในขณะเดียวกันนั้นมีแสงสว่างเรืองรองจากดวงวิญญาณอีกดวงลอยมาจากที่อันห่างไกล
วิญญาณดวงนั้นลอยเข้ามาในร่างดังกล่าวทำให้นางฟื้นคืนชีวิตจากความตายให้มีลมหายใจใหม่อีกครั้งหนึ่ง
เปลือกตาแสนหนักอึ้งลืมขึ้น
ความทรงจำแปลกประหลาดมากมายไหลพรูเข้ามาในสมอง สร้างความสับสนมึนงงให้กับเจ้าของร่างคนใหม่ยิ่งนัก
“นี่เราตายแล้วมาเกิดในยุคโบราณหรือนี่”
