1
การเปลี่ยนแปลง
เช้าตรู่แล้ว เจ้าของตำหนักหลังเล็กอย่างเจียวจินยังไม่ตื่นเลย แม้ตอนที่นางกำนัลสหายห้องเครื่องเคาะเรียกแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น จนต้องยอมแพ้ วางอาหารไว้และจากไปในเวลาต่อมา
เหนือสิ่งอื่นใดมีสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่สามารถปลุกเจ้าของห้องได้เสมอ
นั่นก็คือ...
จิ้บๆๆๆ
“อืม โอ๊ย หยุดเดี๋ยวนี้เจ้าเฮยบ้า ผมข้าจะหมดหัวแล้ว”
เฮยเอ๋อร์ นามของนกตัวน้อยขนาดเท่ากำปั้นสตรีขนดำแซมขาวเล็กน้อย อันเป็นสัตว์เลี้ยงของเจียวจิน
มันกลับมาจากออกไปเที่ยวเล่นทีไร ไม่นำไส้เดือนมาปลุกก็ต้องจิกหน้าจิกผมให้เจ้าของเจ็บจี๊ดจนทนไม่ไหวต้องตื่นขึ้นมาทักทายเสมอ
“จิ้บๆๆ”
เจียวจินตื่นเต็มตาแล้ว แต่กายยังเอนพิงหมอนอันเดียวในห้องอยู่ สายตาจดจ้องไปที่เจ้านกสีดำสนิทที่กระโดดไปมา หมุนรอบตัวและส่งเสียงไม่หยุด
มันกำลังตื่นเต้นกับอะไรบางอย่างน่ะสิ
“เจ้ามีอันใดมาอวดข้า เอามาดูสิ”
เฮยเอ๋อร์หยุดนิ่งแล้ว มันอ้าปากชั่วครู่ ขย้อนบางอย่างออกมาและปล่อยลงตรงหน้าเจียวจินในเวลาต่อมา
...เป็นหนอนสีขาวอวบอ้วนตัวหนึ่ง
โอะ เหมือนไม่ใช่ เฮยเอ๋อร์ขย้อนอีกรอบออกมาเป็นพลอยเม็ดหนึ่งสีชมพูใสสะท้อนแสง
“เก่งมาก เฮยเอ๋อร์ที่รัก อยากได้อะไรในอนาคตข้าจะซื้อให้นา”
คำพูดของเจียวจินไม่ได้ทำให้เฮยเอ๋อร์ดีใจแต่อย่างใด มันงับเนื้อแขนนางเบาๆ จากนั้นคาบหนอนของมันไป แล้วก็บินออกจากห้องไปเกาะบนกิ่งต้นดอกท้อ
เจียวจินบอกว่าจะให้รางวัลมันหลายคราแต่ก็ไม่เห็นเคยได้สักที มันหมดความตื่นเต้นไปนานแล้ว
เมื่อหลายเดือนก่อนเจียวจินเจอเจ้านกตัวดำนี้บาดเจ็บอยู่บนพื้น นางจึงช่วยไว้ นับจากนั้นนกตัวดำนี้ก็กลายเป็นสหายนางอีกคนโดยไม่รู้ตัว มันหาอาหารกินได้เอง อีกทั้งกลับมาแต่ละทีก็มักมีของขวัญมามอบให้เจียวจินเสมอ
มีอยู่ครั้งหนึ่งมันคาบถุงเงินที่หนักมากกว่าตัวมันหลายเท่ามาให้นาง ดีไม่มีใครเห็นมิเช่นนั้นสนมตกยากต้องกลายเป็นสนมขี้ขโมยไปแล้ว หลังจากนั้นเจียวจินก็สั่งสอนให้มันเอาของเล็กๆ ที่ไม่น่ามีเจ้าของมาแทน มิใช่เอามาทั้งถุงปักเสี่ยงให้คนเลี้ยงอย่างนางมีภัยได้ นับจากนั้นมันก็มักเอาพวกพลอยเม็ดเล็กๆที่น่าจะหลุดจากชุดของเหล่าพระสนม หรือบางวันก็คาบขนมมาให้นางก็มี
มันทั้งแสนรู้ และขี้เอาใจเจ้านาย จนเจียวจินที่อยู่คนเดียวไม่รู้สึกเหงาก็เพราะมันนี่ล่ะ
ในอนาคตหากนางออกไปใช้ชีวิตนอกวังหลวงได้ ไว้ตอบแทนมันให้สาสมใจก็แล้วกัน
อืม วันนี้ดอกท้อผลิบานมากเชียว สุราที่นางวานให้นางกำนัลก้นครัวผู้นั้นซื้อมาก็ยังเหลืออยู่หนึ่งไหได้ วันนี้ทำสุราดอกท้อเพิ่มอีกดีกว่า
กิจกรรมยามว่างช่วงที่ผ่านมาของนางอีกอย่างคือ แอบเข้าไปในหอสมุดของวังหลัง นางหมกตัวอ่านอยู่ในนั้นได้เป็นวัน เคยได้ลิ้มลองสุราเลิศรสจากในห้องเครื่องมาก็มาก ติดใจรสชาติของสุราดอกท้อเป็นที่สุด แล้วยิ่งอ่านเจอตำราการทำสุราและประวัติความเป็นมาของสุราทั้งหลายก็ยิ่งอยากสร้างสูตรของนางเอง
วันนี้เจียวจินจะทำสุราดอกท้อใส่น้ำผึ้งและใส่เก๋ากี้ ลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับรสชาติสุรา จากนั้นขุดหลุมใต้ต้นท้อบ่มไว้อยากกินตอนไหนก็ค่อยขุดขึ้นมากิน
กว่าจะทำเสร็จดวงอาทิตย์ก็ขึ้นกลางท้องฟ้าเสียแล้ว...
เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวันนางกำนัลร่างอวบคนเดิมก็เดินมาพร้อมสำรับอาหารในมือ วันนี้ดูมีเยอะกว่าปรกติจนเจียวจินสงสัย แม้นางจะจ้างนางกำนัลผู้นี้ด้วยเงินมากพอตัวแต่ไม่น่าทำให้นางเอามาเยอะเพียงนี้ได้
“วันนี้ของในครัวเหลือเยอะหรือ?”
“ไม่เลยๆ เอ่อ เจียวกุ้ยเหรินข้ามีเรื่องมาแจ้งแก่ท่านน่ะ นับจากนี้ข้าคงไม่สามารถนำสำรับมาส่งที่นี่ได้อีกต่อไปแล้วนะ ขออภัยด้วย เอ่อ ข้าไปแล้วนะ...”
“เดี๋ยว!”
เจียวจินมองท่าทางเหมือนหวาดกลัวบางอย่างของสตรีตรงหน้าไหนจะคำกล่าวที่ว่าอีกล่ะ
“เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ หรือว่าเจ้าถูกคนจับได้ว่าเอาของมาให้ข้า...”
เจียวจินเป็นคนให้นางกำนัลห้องเครื่องผู้นี้แอบแบ่งอาหารมาให้นางทุกมื้อแลกกับเงินที่นางจะให้ทุกเดือนเอง หากมีคนพบว่านางแอบแบ่งอาหารมาย่อมถูกลงโทษ เช่นนั้นเจียวจินย่อมไม่สามารถทำให้คนที่ช่วยตนถูกลงโทษได้โดยนางไม่ทำอันใดหรอก
“ไม่เลยๆ สนมเจียววางใจ วิธีที่ท่านแนะนำข้านั้น ปลอดภัยไร้คนรู้เรื่อง ตะแต่ว่า...ข้ากลัวผีน่ะ!”
“ผี? ผีที่ไหนหรือ?”
นางอยู่มาเป็นปีนางกำนัลตรงหน้าก็เอามาให้ได้ไม่ขาด ไยมากลัวผีเอาตอนนี้กัน แปลกจริงเชียว?
นางรู้จักนิสัยของนางกำนัลตรงหน้าดี นางไม่ใช่คนโกหกพร่ำเพรื่อ ไม่น่าเป็นเพียงข้ออ้างแต่ต้องมีอันใดเกิดขึ้นเป็นแน่
“ในวังหลังมีคนตายอีกแล้วหรือ?”
และหากเดาไม่ผิดต้องเป็นแถวตำหนักนางด้วยแน่ๆ
“ใช่เพคะ สนมเจียวคงยังไม่ทราบข่าว ฉางจ้ายที่ประทับอยู่ตำหนักไม่ไกลจากที่นี่ทรงฆ่าตัวตายเมื่อหลายวันก่อนเพคะ อีกทั้งเมื่อวานนี้นางกำนัลที่เคยรับใช้ก็พลอยล้มป่วยและตายตาไม่หลับไปตามๆ กันเพคะ”
ฉางจ้ายตำหนักไม่ไกลนั้นเป็นสนมชั้นล่างไม่ต่างจากเจียวจิน นางถูกเลื่อนขั้นจากไทเฮาจากนางกำนัลเป็นสนม ด้วยความโดดเด่นเรื่องความงามจนถูกตาไทเฮานี้ทำให้พระสนมคนอื่นกลั่นแกล้งไม่เว้นวัน เจียวจินอยู่ตำหนักตนเองพอเห็นสนมคนนี้บ้าง ยังวัยอ่อนอยู่แท้ๆ ไม่น่าคิดสั้นเลย ทว่าเรื่องที่นางกำนัลของฉางจ้ายตายนั้นดูประหลาดไม่น้อย
เจียวจินไม่คิดว่าอยู่ดีดีแหล่งอาหารของนางจะมลายหายไปได้ หรือว่าสวรรค์จะลงโทษที่นางได้เกิดใหม่แล้วทำตัวสบายเกินไปหว่า...
“เจ้าไปเถอะ”
ก่อนนางกำนัลห้องเครื่องตรงหน้าจะเดินกลับไปไม่ลืมเอ่ยเตือนสนมตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย
“สนมเจียวก็อย่าเข้าไปใกล้ตำหนักนั้นนะเพคะ เอ่อ นางกำนัลแถวนั้นลือกันว่า ผีสนมผู้นั้นแค้นที่ตนถูกกลั่นแกล้งตอนมีชีวิตอยู่จึงพาลทำร้ายทุกคนที่อยู่ด้วยตอนมีชีวิตเพคะ”
พูดสิ่งที่ตนอยากพูดจบก็เดินหนีไปอย่างไวแล้ว
เรื่องผีสางนั้นไม่ว่าชาติก่อนหรือชาตินี้เจียวจินผู้นี้ก็ไม่เคยสัมผัสได้กับตัว นางจึงไม่รู้สึกกลัวอันใด ทว่านางก็คงอยู่เฉยไม่ได้เช่นกัน เมื่อผีสนมตนนี้ทำให้เจียวจินเดือดร้อนเสียแล้ว
...นางคงต้องแวะไปดูที่มาของสิ่งที่ทำให้นางลำบากขึ้นเสียหน่อยแล้วล่ะ
