บท
ตั้งค่า

บทนำ

หากเข้ามายังเขตวังหลังอันเป็นที่ประทับพักผ่อนของเจ้านายชั้นสูง ตำหนักหน้าสุดนับจากเดินผ่านประตูกั้นแบ่งพรมแดนระหว่างวังหน้าและวังหลังมาจะพบกับตำหนักเฉียนชิงกง ที่ประทับพักผ่อนของฮ่องเต้แคว้น

เดินลึกไปส่วนหลังของวังหลังที่ยิ่งใหญ่หรูหราไม่แพ้กันคือตำหนักคุนหนิงกง ที่ประทับของฮองเฮา มารดาหนึ่งเดียวของแคว้น ตอนนี้แม้เป็นเพียงตำหนักไร้เจ้าของพักอาศัยแต่ก็มีคนดูแลรักษาเป็นอย่างดี

ทว่าขึ้นชื่อว่าวังหลังแล้วย่อมขาดสีสันไปไม่ได้ นอกจากสองตำหนักของเจ้านายสูงสุดแล้วระหว่างนั้นขนาบข้างสองฝั่งมีตำหนักน้อยใหญ่ที่มีไม่ต่ำกว่าสิบสองตำหนักอันเป็นที่ประทับของเหล่าพระสนม ภรรยาหลายชนชั้นของฮ่องเต้

...ท่ามกลางพระสนมผู้สร้างสีสันในวังหลังนั้น ลึกไปทางปีกฝั่งตะวันออก เดินผ่านสวนน้อยใหญ่คราแล้วคราเล่าไม่พบยังต้องเพ่งให้ดีจะพบกับตำหนักลึกลับแทรกอยู่

ตำหนักแห่งนี้เชื่อเถอะว่าใครไม่ตั้งใจมองหาย่อมไม่อาจพบได้ ท่ามกลางดอกท้อสีชมพูสดใสบานในวสันตฤดู ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย มองลึกเข้าไปจะพบตำหนักเล็กหลังหนึ่งตั้งอยู่

ตำหนักที่เข้าไปแล้วเจอเพียงหนึ่งห้อง โครงสร้างทำจากไม้อย่างดีติดที่เก่าและโทรมไปเสียหน่อย ยามเย็นที่ดวงอาทิตย์ใกล้ลาลับ ท้องฟ้าสีส้มทองเช่นนี้ บรรยากาศ ณ ที่แห่งนี้ช่างไม่น่าอยู่เสียจริง

“สนมเจียว สนมเจียว หม่อมฉันนำอาหารมื้อเย็นมาให้แล้ว...”

นางกำนัลชุดสีชมพูเนื้อผ้าหยาบเอ่ยไป มือก็เคาะที่บานหน้าต่างของตำหนักโทรมไปด้วย รอไม่นานบานหน้าต่างเก่าที่เปิดทีมีเสียงแกรกๆก็ถูกเปิดออก พร้อมมือเรียวขาวซีดลอดช่องเปิดออกมารับถาดที่มีหนึ่งถ้วยข้าวและหนึ่งชามกับข้าวกลับเข้าไป

“ขอบใจ”

น้ำเสียงยานครางอย่างคนเพิ่งตื่นจากการนอนเอ่ยตอบ ไม่นานก้อนเงินขนาดเล็กก็ลอยออกไปยังทิศที่นางกำนัลอยู่ มือหยาบที่ทำงานหนัก อยู่แต่ในครัวมานานรับอย่างแม่นยำ ไม่พูดพร่ำทำเพลง นางกำนัลตัวอวบรีบเก็บจานเปล่าที่หน้าประตูและเดินจากไปทันที

ที่แห่งนี้หากไร้แสงจากดวงอาทิตย์แล้ว ไม่ต่างอันใดกับสุสานคนตายเลย

ทั้งเงียบ สงบ และมืดจนน่าขนลุก...

สนมเจียว หรือ เจียวกุ้ยเหริน เป็นสนมชั้นล่างที่มียศเหนือนางกำนัลในวังเพียงนิดเดียว ตามจริงเจ้าของร่างนี้คนเก่าตายไปเมื่อหนึ่งปีที่แล้วเพราะขาดสารอาหารและป่วยตาย ด้วยความที่เจียวจินผู้นี้เป็นสนมชั้นล่างที่ไร้อำนาจและไร้ครอบครัวคอยหนุนนำ ร่างนี้เป็นบุตรสาวคนเล็กของตระกูลเจียว มีพี่ชายอายุสิบเจ็ดปีส่วนเจียวจินอายุสิบหกปี พี่ชายตามบิดาที่เดิมมีตำแหน่งเป็นตูตู อยู่มณฑลติดชายแดนไปออกศึกใหญ่ในปีที่ผ่านมา ตอนนี้ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ ส่วนมารดาตายไปแล้ว ด้วยเหตุนี้เจียวจินจึงตัดสินใจขอเข้าเมืองหลวงร่วมคัดเลือกเป็นนางใน ผ่านการคัดเลือกเป็นสนมได้เพราะหน้าตางดงามน่าเอ็นดู แต่ก็เป็นได้เพียงสนมยศกุ้ยเหรินที่ยังไม่เคยถูกฮ่องเต้เรียกไปปรนนิบัติรับใช้สักครา เมื่อเวลาผ่านไปสนมไร้ปากเสียงก็เริ่มถูกลืมเลือน นางกำนัลดูแลตายเพราะถูกกลั่นแกล้งและเจ้านายไม่มีความสามารถปกป้อง ในที่สุดก็เหลือเพียงเจียว

จินคนเดียวในตำหนักเล็กนี้และป่วยตายในที่สุด

สายลับเอเชียในหน่วยข่าวกรองของคณะความมั่นคงแห่งรัฐที่บ้างานหนักในช่วงวัยก่อนสามสิบจนป่วยด้วยหลายโรครุมเร้าเพราะไม่ดูแลตนเองจึงมีโอกาสเกิดใหม่ในร่างสนมเจียวผู้นี้

ความทรงจำของเจียวจินตั้งแต่เกิดจนอายุสิบหกไม่มีอันใดซับซ้อน นอกจากช่วยบิดาทำงานเลี้ยงตนเองแล้วก็ไร้เรื่องราวหวือหวาน่าจดจำ

ไม่รู้เหตุใดวิญญาณจากยุคสองพันจึงได้มาเกิดในร่างสนมผู้น่าสงสารนี้ แต่เมื่อมีโอกาสมีชีวิต มีลมหายใจอีกครา ไม่ว่าจะเกิดชาติไหน ยุคไหน นางก็ขอใช้ชีวิตอย่างที่ตนไม่เคยมีโอกาสได้ใช้เสียที

...เจียวจินคนใหม่นี้ไม่ขออันใดมาก นางขอมีอาหารประทังชีวิต และมีที่นอนหลับ เรื่อยเปื่อยโดยไม่จำเป็นต้องทำงานชดเชยที่ชาติก่อนพลาดสิ่งเหล่านี้ไปก็พอแล้ว

อยู่ในร่างนี้มาครบหนึ่งปีแล้ว เจียวจินตื่นจากนอนกลางวันในชุดสีขาวสะอาดเรียบง่ายสบายตา เครื่องประดับของเจ้าของร่างถูกเจียวจินขายไปแล้วส่วนใหญ่ ที่เหลืออีกประมาณนึงเก็บไว้อย่างดีรอขายไว้กินไว้ใช้ในอนาคต

การเป็นสนมที่ถูกลืมผู้นี้ไม่ง่ายเลย จากที่ควรได้รับอาหารสามมื้อ เงินรายเดือนตามปกติในตำแหน่งสนมคนหนึ่งกลับถูกละเลยหมด เจียวเจินหาสหายไม่นานจนได้นางกำนัลทำงานฝ่ายห้องเครื่องร่างอวบคนนี้มา เจรจาด้วยเงินไม่มากก็สามารถมีอาหารสามมื้อกินไม่ขาดได้แล้ว

แม้มื้อนี้จะน้อยไปเสียหน่อยก็เถอะ ดีที่นางวางแผนจะไปขุดของดีคืนนี้อยู่แล้ว รองท้องไปหน่อยเตรียมพร้อมรับของดีของเด็ดก็เป็นพอ...

เมื่อดวงอาทิตย์ตกดินดวงจันทร์ดวงโตโดดเด่นท่ามกลางท้องฟ้าว่างเปล่าไร้ดาว ช่างเป็นยามดีที่เจียวจินดื่มสุราดอกท้ออายุเกือบปีที่นางเป็นเจ้าของสูตรคิดค้นเอง ฝังเอง ด้วยดอกท้อหน้าตำหนักเอง

...ถือว่าชมจันทร์เคล้าสุรารสหวานก็แล้วกัน

เป็นการเฉลิมฉลองที่นางเกิดใหม่ครบหนึ่งปีเต็ม ดื่มฉลองให้กับความสบายกายไม่ต้องทำงานในตอนนี้ เจียวจินคำนวณแล้วว่าในอนาคตอันใกล้นางอาจต้องลงแรงหาเงิน แต่นั่นล่ะ นางขอใช้ชีวิตอย่างที่ไม่เคยได้ใช้ก่อนแล้วกัน

บนหลังคาของตำหนักว่างไม่ไกลจากตำหนักนอนของนาง หลังคานี้หลังใหญ่กำลังดี อีกทั้งอยู่ใต้ต้นไม้บดบังสายตาจากองครักษ์เฝ้าเวรได้พอดี เป็นที่ประจำของเจียวจินเอง หากสุราดอกท้อไหเลิศรสนี้เปรียบเสมือนสหายสนิท หลังคาตำหนักนี้ก็คงเปรียบเสมือนคนรู้ใจที่นางต้องมาพบยามต้องการดื่มด่ำความสุขชื่นชมธรรมชาติในที่นี่แห่งนี้นั่นแล

สุราหวานล้ำหอมหวนชวนให้หลับตาเคล้าสายลมเย็นพัดโชย เสียงดอกท้อร่วงหล่น ใบไม้ไสวช่างชวนให้จิตใจเบาสบายพร้อมทิ้งกายเสียจริง

เพ้ย!

ดูเหมือนว่าเจียวจินจะปล่อยกายมากเกินไป หลังคาที่เป็นดั่งคนรู้ใจวันนี้ดื้อเสียแล้ว ไม่รู้เพราะวันนี้หนาวกว่าวันไหนน้ำค้างยามค่ำคืนมากเกินไปหรืออย่าไร ร่างบางในชุดขาวบางตัวเดียวขัดกับอากาศเย็น ไถลลงจากหลังคาที่สูงจากพื้นราวสองคนต่อกันเสียแล้ว!

“ระวังพะยะค่ะ! ฝ่าบาท!”

เสียงแหลมแต่ไม่ถึงขั้นเป็นเสียงของสตรีดังอยู่เบื้องล่างนี่เอง ดังจนเรียกให้เจียวจินลืมตาตื่นจากสวรรค์ในใจได้เป็นอย่างดี

ร่วงจากหลังคาคู่ใจไม่พอ วันนี้เป็นฤกษ์งามอันใดมีคนเดินผ่านมาแถวนี้ด้วยหรือ!?

เจียวเจินรับรู้ว่าแผ่นหลังของตนเองไม่ได้ตกถึงพื้นอย่างที่คิด นางตกลงในอ้อมกอดของใครบางคน!

สิ่งสำคัญตอนนี้ไม่ใช่นางต้องรู้ว่าตนตกลงในอ้อมกอด ใคร ?

แต่คือนางต้องทำอย่างไรก็ได้ให้คนพวกนั้นไม่รู้ว่านางคือใครต่างหาก!

สนมชั้นล่างที่ถูกลืม หากมีคนพบว่าตกลงในอ้อมแขนบุรุษแล้ว ชีวิตอิสระอาจกายเป็นไร้ชีวิตได้เลยนะ!

เจียวจินรีบพลิกตัวหนีจากอ้อมแขนของใครไม่รู้ ผมเผ้าไร้การจัดทรงใดปิดปรกเต็มใบหน้า เป็นประโยชน์ในการบิดบังหน้าตาของนางได้เป็นอย่างดี

เจียวจินใช้เวลาอันน้อยนิดไม่ถึงสิบชั่วอึดใจพลิกกายลงเท้าแตะพื้นได้ก็ดีดตัวลงหายไปกับความมืดยามค่ำคืนทันที

“มะเอ่อ ฝ่าบาททรงบาดเจ็บอันใดไหมพะยะค่ะ”

ว่านกงกง หัวหน้าขันทีควบตำแหน่งขันทีคนสนิทของฮ่องเต้แคว้นฉู่ ราชวงศ์จ้าวรีบเข้ามาสอบถาม เหตุการณ์เมื่อครู่เขายังไม่ทันประมวลผลเข้าใจดี ตอนนี้ก็กลายเป็นเหมือนไม่มีอันใดเกิดขึ้นเมื่อครู่เสียแล้ว

ไม่ต่างกับคนเจอกับตัวอย่างจ้าวจื่อหาน บุรุษวัยยี่สิบปีแต่ดำรงตำแหน่งฮ่องเต้องค์ปัจจับัน เขารับสตรีที่ตกจากด้านบนมาไม่ทันรู้เรื่องใดนอกจากกลิ่นดอกท้ออ่อนหอมเจือจาง เจ้าของกลิ่นหอมก็หายไปเสียแล้ว

มันเกิดขึ้นรวดเร็วจนแม้แต่องครักษ์เงาที่เร้นกายยังเข้ามาจัดการไม่ทัน...

“ไม่เป็นอันใด เราสบายดี”

“ให้ส่งคนติดตามสตรีเมื่อสักครู่ไหมพะยะค่ะ?”

สตรีเจ้าของสัมผัสนุ่มมือแม้นจับผ่านเนื้อผ้า สตรีเจ้าของกลิ่นกายดอกท้ออ่อนชวนเคลิ้มฝัน เมื่อครู่น่ะหรือ...

เขายังคิดอยู่เลยว่านางคือคนหรือว่าเป็นนางเซียนตกจากสรวงสวรรค์ สัมผัสทั้งหมดเมื่อครู่เริ่มจางหายไปเสียแล้ว

“ไม่ต้อง ไม่ใช่นักฆ่าไม่จำเป็นต้องทำให้เกิดเรื่องใหญ่”

เอ่ยจบจ้าวจื่อหานก็ออกเดินอีกครา

ใครจะรู้กันเล่าว่าการเดินย่อยหลังมื้อเย็นในครานี้ เดินออกมาไกลมากหน่อยแล้วได้เจอกับสิ่งแปลกใหม่ชวนให้จิตใจด้านชาสั่นไหวเพียงนี้...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel