3.4 ช่วยว่าความสืบคดี
“จับมันผู้นั้นเสีย !!! เขาคือคนฆ่านายตู้ตัวจริง”
ผู้คนตื่นตระหนกจากเสียงทรงอำนาจและทหารของชินอ๋องที่เคลื่อนพลทั่วทิศทาง คนที่มาเข้าดูการตัดสินต่างตกใจและสงสัยใครรู้จนจ้องมองมาที่ชินอ๋องเพื่อต้องกามองว่าเขาชี้ให้จับมาที่คนไหน แต่กลับเห็นว่าชินอ๋องนั่งนิ่งอย่างเดิมไม่มีการชี้ตัวแต่อย่างใด
เขามองไล่ทั่วทุกคนที่เป็นผู้มาร่วมฟังจนสายตาไปสะดุดที่บุรุษคนหนึ่งในหมู่ผู้คนนั้น
เขาคือคนเดียวที่มองหันซ้ายขวาไปมาทำราวกับกำลังมองว่าเหล่าทหารเคลื่อนมาจับตนเองหรือไม่กัน พอเห็นว่าเสียงเงียบไปจึงค่อยมองกลับมาที่ชินอ๋องและได้สบตากับสายตาดำเยี่ยงสัตว์นักล่ากำลังจ้องเหยื่อพอดี ขนทั่วกายลุกชันพร้อมกับร่างทั้งร่างหมดแรงจะสู้แล้ว
เขาไม่ใช่คนร้ายที่ถูกฝึกมาเสียหน่อย มานั่งนิ่งในนี้ได้แบบสติไม่แตกก็ถือมาเก่งกล้าเกินคนทั่วไปแล้ว
เฟยเมี่ยวเดิมพันถูกต้องจริงด้วย แต่ที่นางคาดเดาไม่ถูกคือการกระทำของชินอ๋องเมื่อสักครู่ต่างหาก เขาไม่เพียงเชื่อใจเฟยเมี่ยวทันทีแบบไม่ถามเหตุผลใด แต่เขายังใช้วิธีที่แม้แต่นางก็คิดไม่ถึงด้วยซ้ำ
...นางคาดว่าเขาอาจพอเดาบางอย่างได้ไม่ต่างจากนางกระมัง
คิดแล้วก็ยังหายหวาดกลัวในน้ำเสียงทรงพลังเมื่อสักครู่ไม่หาย นางอยู่ใกล้สุดย่อมรับรังสีเมื่อครู่ไปเต็ม ๆ นั่นล่ะ ดีที่ผลลัพธิ์ดีเกินคาดสามารถเปิดเผยตัวคนร้ายได้ภายในเสี้ยวเวลา ไม่ต้องเสียกำลังคนตรวจสอบทีละคนอีกต่างหาก
เมื่อชายคนที่ชินอ๋องระบุให้จับออกมายืนอยู่กลางลานก็ถึงตาเฟยเมี่ยวอธิบายสิ่งที่นางคิดแล้ว
“เจ้าเคยให้เงินแก่นายตู้ยืมใช่หรือไม่ !?”
“เอ่อ ขะขอรับ ข้าไม่ได้ตั้งใจฆ่าเขานะขอรับ อย่าจับข้าน้อยเลยขอรับ ขะ...”
เฟยเมี่ยวก็สงสารบุรุษผู้นี้นะ...แต่อย่างไรเสียฆ่าคนก็ต้องรับโทษนั่นล่ะ
“ข้ามีข้อสงสัย หากคนผู้นี้เป็นเจ้าหนี้ของผู้ตายแล้วเหตุใดจึงต้องฆ่าเขาด้วย หากลูกหนี้ตายไปย่อมไม่มีใครจ่ายหนี้ไม่ใช่หรือ ?”
คำถามของเสนาบดีหลิงไม่ผิดเลย ใครในที่นี้ต่างก็สงสัยไม่แพ้กัน เฟยเมี่ยวคิดหาเหตุผลน่าจะเป็นแล้วถึงได้หลุดขบขันออกมาอย่างไรเล่า
“ตามจริงแล้วคนผู้นี้ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่านายตู้หรอกเจ้าค่ะ ใช่หรือไม่ ?”
เขาร้องไห้โศกเศร้าเสียใจจนพูดไม่รู้เรื่องแล้ว แต่ก็เห็นไปในทางเดียวกันว่าเขาพยักหน้าให้ อีกทั้งยังพร่ำบ่นว่าเขาต่างหากที่จะถูกฆ่า เขาเพียงป้องกันตนเองเท่านั้น
เมื่อเฟยเมี่ยวมั่นใจในความคิดตนมากจากการจับประเด็นสิ่งที่ได้ยินนางจึงขอเป็นตัวแทนเอ่ยไขข้อข้องใจทุกคนเองเสีย
“คนผู้นี้มิได้มีเจตนาจะฆ่านายตู้แต่อย่างใด จากการคาดเดาจากหลักฐานทั้งหมดที่พวกท่านมือปราบไปสืบค้นมานั้น ทำให้ข้าคิดว่าตามจริงแล้ว หากไม่เกิดเหตุผิดพลาดอันใด คนที่จะจบสิ้นชีวิตคงเป็นคนผู้นี้มากกว่าเจ้าค่ะ นายตู้นั้นวางแผนจะฆ่าเจ้าหนี้ที่ตนติดไว้มาอย่างดี อีกทั้งยังคิดจะขโมยเพิ่มจากเจ้าหนี้อีกเสียด้วยซ้ำ
คืนก่อนวันตายของนายตู้ เขาได้นัดเจ้าหนี้ผู้นี้ในช่วงเวลาที่เข้าตาย ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับการจ่ายหนี้หรืออื่นใดไว้ และคิดจะฆ่าเจ้าหนี้ด้วยมีดที่เขาเตรียมไปนั่นเอง แต่ข้าคาดว่าคงเพราะเขาเมาสุรามาไม่น้อยพอเกิดการต่อสู้กันจึงเป็นฝ่ายพลาดพลั้งเสียได้ สุดท้ายก็ถูกฆ่าเสียเองด้วยมีดที่ตนเตรียมไปเจ้าค่ะ”
นางสังเกตว่าชุดที่เจ้าหนี้ของนายตู้สวมใส่นั้นดูเนื้อผ้าดีพอควรเลย อีกทั้งเขาก็มีเครื่องทองติดตัวพอเหมาะ คงให้คนยืมเงินเป็นนิจไม่ผิดแน่
“หากถึงขนาดเตรียมการไว้อย่างดีไยต้องนัดนายซางดื่มสุรา ก่อนวันด้วยเล่า เขามิน่าจะต้องการทำให้ตัวเองเมาเช่นกันนะ”
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ เรื่องอาการเมานี้อยู่เหนือความคาดหมายของนายตู้ไป เขารู้ว่าหากฆ่าคนต้องถูกลงโทษแต่เขามีเป้าหมายจะแต่งเมียเข้าบ้านย่อมไม่ยอมรับโทษแน่ นายตู้จึงคิดแผนฆ่าคนแล้วให้ตนรอดโดยการนัดหมายนายซางที่เป็นสหายห่าง ๆ และขาดแคลนเงินมาเพื่อเป็นพยานเรื่องที่อยู่เจ้าค่ะ แต่เขาคงคาดไม่ถึงว่าสหายผู้นี้ดื่มเก่งยากเมาจนไม่ได้สติ จึงทำให้ตนเมาไปด้วยไม่น้อยเจ้าค่ะ”
ภายในศาลเงียบสงบลงทันใด ความจริงที่ถูกเปิดเผยล้วนทำให้ใจคนสับสนยากตัดสินว่าควรเข้าข้างฝั่งใดดี ในเรื่องนี้มิใช่สิ่งที่เฟยเมี่ยวจัดการได้ นางมีความเห็นใจบุรุษที่ร้องไห้โฮอยู่ตรงหน้าจึงทำได้เพียงช่วยเปิดเผยความจริงเท่านั้น
“ส่วนที่ข้าพูดจะจริงแท้อย่างใดนั้นรบกวนท่านเสนาบดี
หลิงตรวจสอบก็ได้แล้วเจ้าค่ะ และหากเป็นจริงดังว่า ข้าขอให้พิจารณาโทษของคนผู้นี้อย่างเหมาะสมด้วยเจ้าค่ะ...”
