3.1 ช่วยว่าความสืบคดี
ศาลยุคโบราณนี้ไม่ต่างจากยุคปีค.ศ.สองพันมากนัก มีตำแหน่งนั่งของคนเข้าดูบรรจุได้หลายสิบคน ตรงกลางเว้นไว้เป็นลานโล่งมีที่นั่งของจำเลย และทุกตำแหน่งนั่งหันไปทางตำแหน่งผู้พิพากษาและเหล่าเจ้าหน้าที่ตัดสินต่าง ๆ ซึ่งจัดไว้ในที่ปิดอย่างเหมาะสม
เมื่อกลุ่มของชินอ๋อง องค์รัชทายาทและเฟยเมี่ยวมาถึงก็มีคนอยู่เต็มศาลว่าคดีแล้ว พวกนางมาถึงก็ไปอยู่ตรงตำแหน่งหลังที่นั่งของชินอ๋องอันนั่งแทนตำแหน่งของเสนาบดีหลิงทันที
“เริ่มเลย”
สิ้นคำของเต๋อรุ่ย บุรุษเคราย้อยผู้หนึ่ง ก็เดินออกมาข้างหน้าพร้อมหนังสือในมือเตรียมเปิดอ่านรายละเอียดคดีให้ทุกคนในศาลว่าคดีรู้กันถ้วนทั่ว
เขาคือบิดาของเหลียงซู สหายใหม่ที่โดนไล่ออกจากการเป็นพระสหายของเหล่าองค์หญิงองค์ชายไปแล้วนั่นเอง เขามีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเสนาบดีกรมตุลาการ หรือที่คนเรียกกันว่า ผู้ช่วยเลี่ยง
“คดีนี้มีผู้ตายคือ นายตู้ อายุสี่สิบห้าปี อาชีพเก็บของป่าไปขาย ไม่มีภรรยา บิดามารดาตายหมดแล้ว เขาอาศัยอยู่ในบ้านเช่าคนเดียว ในวันเกิดเหตุนั้นมีนายซางที่เป็นสหายมาร่วมดื่มสุราด้วยที่บ้าน เช้าวันต่อมามีชาวบ้านแถบนั้นพบศพนายตู้นอนสิ้นใจอยู่ที่ท้ายหมู่บ้านในที่ลับตาคน ไม่ไกลมีมีดที่น่าจะเป็นอาวุธในการฆ่าผู้ตายตกอยู่ ส่วนนายซางที่อยู่กับผู้ตายคนสุดท้ายพักอยู่ในบ้านของผู้ตายเอง นายซางให้การว่า เขาเมามากกลับไม่ไหว นายตู้จึงให้พักอยู่บ้านด้วยกันในคืนนั้นเอง ส่วนนายตู้ตายได้อย่างไรไม่ใช่ฝีมือเขา เขารู้เรื่องนี้พร้อมทุกคนเช่นกัน”
จำเลยตรงกลางที่นั่งหน้าหมดอาลัยตายอยากคือนายซางนั่นเอง เฟยเมี่ยวสังเกตท่าทางโดนรวมของจำเลยดูแล้วก็ไม่น่าจะฆ่าใครได้ ทว่าเพียงภาพลักษณ์ภายนอกนั้นมิสามารถตัดสินจิตใจคนเราได้หรอก ต้องอาศัยหลายอย่างประกอบกัน
จากรายละเอียดคดีที่ผู้ช่วยเลี่ยงเอ่ยมานั้นมองเผิน ๆ อาจดูไม่น่ามีอันใด เพราะทุกอย่างก็ดูว่าน่าจะชี้ชัดว่าคนฆ่าน่าจะเป็นนายซางที่อยู่กับผู้ตายคนสุดท้าย แต่หากเป็นเช่นนั้นกรมตุลาการและมือปราบย่อมมิรบกวนให้ชินอ๋องมาช่วยตัดสินคดีหรอก
ในความไม่มีอันใดนี่ล่ะ มันเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลมากมาย จนพวกเจ้าหน้าที่ศาลไม่สามารถสรุปคดีได้
“จำเลยลองเล่าเหตุการณ์วันก่อนหน้าอีกรอบ...”
เสนาบดีหลิงมองชินอ๋องอย่างฉงนทันที หากเป็นปรกติแล้วชินอ๋องจะถามรวดลัด มิมาถามในเรื่องคำให้การเหล่านี้แน่นอน เพราะล้วนมีให้ชินอ๋องอ่านหมดแล้วในหนังสือที่วางตรงหน้า ไฉนคำถามเมื่อครู่ออกจากปากชินอ๋องได้กัน !
“เสด็จอาคงกลัวข้าไม่รู้กระมัง ต้องไปอวยเสด็จอาให้เสด็จพ่อฟังเสียแล้ว ว่าพามาข้าเรียนรู้ไม่พอ ยังใส่พระทัยมากอีกด้วย ”
เฟยเมี่ยวพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของหวงลู่ที่หันมาพูดกับนาง เพราะดูเหมือนว่าชินอ๋องคงอยากให้คนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่กรมตุลาการรู้ถึงกระบวนการด้วยนั่นล่ะ
เฟยเมี่ยวชอบมาก นางอยากรู้รายละเอียดที่เขียนในหนังสือตรงหน้าเขามากแต่จะขอเอามาอ่านดูก็คงไม่ได้ ดีที่สามารถได้ยินจากปากของจำเลยเลยนางจะได้วิเคราะห์ความเป็นไปได้ถูกยิ่งขึ้น
“วันนั้นข้าไปดื่มสุราที่บ้านพี่ตู้เพราะเขาชวนข้า อีกทั้งยังบอกข้าอีกว่าจะเลี้ยงสุราทั้งหมด ข้าก็ไปตั้งแต่เย็นวันนั้น ดื่มกันจนดึกดื่น ดวงจันทร์เลยกลางฟ้าไปแล้วข้าเมาหนักมากจนยืนแทบไม่ไหว พี่ตู้จึงบอกข้าว่าให้นอนด้วยกันเสียเลยคืนนี้ ด้วยความที่ข้าเองก็รู้สึกว่าไม่ไหวจริง ๆ จึงตอบตกลง เราทั้งสองนอนในห้องเดียวกัน ข้าหลับไปเดี๋ยวเดียวตื่นมาลุกไปฉี่ก็เห็นพี่ตู้นอนอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน ช่วงสาย ๆ ข้าพอสร่างเมาบ้างก็พบว่าถูกปลุกโดยมือปราบที่มาล้อมจับข้าเสียแล้ว”
“จากคำให้การของจำเลยขัดกับที่เราตรวจสอบได้ขอรับ หมอบอกว่าผู้ตายน่าจะตายตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เพราะศพเริ่มแข็งตัวหมด น้ำค้างก็เกาะจนเสื้อผ้าเปียกชุ่ม แต่นายซางบอกไว้ว่าเขายังเห็นนายตู้นอนอยู่ที่เดิมตอนกลางดึก”
“ข้าสาบานได้ว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ฆ่าพี่ตู้จริง ๆ ขอรับ ท่านอ๋องต้องช่วยข้าน้อยนะขอรับ”
เสียงพูดคุยของคนที่มาเข้าดูดังขึ้นกว่าเดิมแต่ก็ไม่ดังขนาดไปรบกวนเจ้าหน้าที่ระหว่างคุยเรื่องคดี
นายซางอาศัยเพียงคำพูด ไม่มีหลักฐานคนเห็นย่อมไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานว่าตนไม่ได้ฆ่ามิได้อยู่แล้ว
สำหรับเหล่ามือปราบหรือคนที่อยู่ในวงการนี้ย่อมรู้ว่าหากคนจะตั้งใจฆ่าใครนั้นย่อมไม่ทำให้หลักฐานทุกอย่างพุ่งเป้าไปที่ตนเองเพียงนี้หรอก อีกทั้งจากการสืบของเหล่ามือปราบก็พบว่าจำเลยไม่มีเหตุจูงใจให้ฆ่าผู้ตายเลย
“ผู้ตายมีปัญหาอันใดบ้างหรือไม่ ในช่วงนี้”
ชินอ๋องผู้มีหน้าที่สืบความดำเนินเรื่องต่อ ซึ่งคราวนี้เป็นผู้ช่วยเลี่ยงที่มีหน้าที่สาธยายสิ่งที่เหล่ามือปราบไปสืบมาแล้วก่อนหน้าให้ทุกคนในที่นี้ฟัง
“ผู้ตายเป็นคนตั้งใจทำมาหากินมาโดยตลอดไม่ค่อยมีปัญหากับใคร ด้วยความที่เขาไม่มีภาระใด ต้องหาเลี้ยงเพียงตนเองจึงพอมีพอใช้มาตลอด จากคำให้การของชาวบ้านแถวนั้น นายตู้มักไปทำงานแล้วก็กลับมาบ้าน จะมีก็แต่ช่วงหลายเดือนมานี้ที่มีไปร้านขายชุดบ้าง ร้านขายเครื่องประดับบ้าง มีไปที่ตลาดฝั่งตะวันออกบ้าง เท่านั้น ไม่เคยมีใครเห็นเขาทะเลาะกับใครเลย”
อา ข้อมูลสำคัญนอกเหนือจากผลการชันสูตรก็คือคำพูดของคนรอบข้างนี่ล่ะ แต่ฟังแล้วดูไม่น่าช่วยหาคนฆ่าได้เลย นอกจากพฤติกรรมที่แปลกไปของนายตู้ช่วงที่ผ่านมานี้ ซึ่งเฟยเมี่ยวก็คิดว่าทางมือปราบย่อมสืบหาต่อแล้วเช่นกัน
