บท
ตั้งค่า

2 มารดาของพวกเจ้าตายแล้ว

จิ่วเม่ยเดินขึ้นเขามาพร้อมมีดตะขอไว้ตัดสมุนไพร และตระกร้าสะพายหลัง ตามจริงในบ้านมีกองวัสดุสำหรับใช้ล่าสุดด้วยแต่ส่วนใหญ่มันเก่ามากแล้ว มีผุบ้างหักบ้างจึงไม่ได้เอามา

ภูเขาหลังบ้านจิ่วเม่ยนี้อุดมสมบูรณ์สุดๆ เลย ตลอดทางที่เดินมามีเห็ดทั้งกินได้ทั้งเห็ดพิษขึ้นเต็มสองข้างทาง ซึ่งจิ่วเม่ยก็เก็บไปทั้งสองอย่างนั่นล่ะเผื่อไว้กินและใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ ไหนจะมีต้นไผ่อ่อนที่ข้างๆ เป็นหน่อไม้น่าเอาไปทำอาหารเมนูแกงหรือต้มอีกเล่า

จ่อกๆ

อ่า นางไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่เมื่อคืนวานร่างกายประท้วงเสียแล้ว ด้วยนางถือคติว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง จึงหยุดอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งจัดการจุดไฟและเผามันที่ขุดมาได้กินสองสามหัวประทังความหิว

ป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยหินที่ใชจุดไฟได้ อีกทั้งมีต้นไม้ให้ผลผลิตเป็นผลไม้ที่กินได้หลายชนิดอีกด้วย นางรู้สึกว่าตนเจอขุมทรัพย์อย่างไรอย่างนั้นเลย ต้องขอบคุณความประสงค์ร้ายของแม่นางซูอิ๋งที่กลายเป็นเกิดประโยชน์แก่จิ่วเม่ยขั้นสุดเยี่ยงตอนนี้

นางรู้ว่าแม่นางผู้นั้นไม่ถูกกับจิ่วเม่ยคนก่อน เพราะความงามของร่างนี้เป็นเหตุเลย ด้วยความที่จิ่วเม่ยได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของหมู่บ้านนี้จึงเป็นที่หมายปองมากของเหล่าบุรุษ และก็ไม่แปลกที่สตรีด้วยกันจะชังหน้า

อา ใบสีเขียวตรงหน้านี้ของจิ่วเม่ยคือสมุนไพรชนิดหนึ่งมีชื่อว่า จินอิ๋นฮวา ใช้ในการขับร้อนได้ และต้มกินเป็นชาเพื่อสุขภาพได้ด้วย นางต้องนำกลับไปตากแห้งและต้มให้สามีที่มีไข้กินแล้ว ทว่าเจอสมุนไพร ตัดไม้เลื้อยชนิดนี้มาก็แล้ว ติดปัญหาที่นางไม่มีตะกร้าสำหรับใส่ของกลับแล้วน่ะสิ! ขนาดยังไม่ล่าสัตว์เลยนะ

วาบ!

ทันใจคิดสมุนไพรที่ตัดไว้ตรงหน้า และของในตะกร้าทั้งหมดก็หายวาบไปต่อหน้าต่อหน้า พร้อมกันนั้นจิ่วเม่ยมีความรู้สึกว่าตนเองมีที่ว่างเกิดขึ้นในหัวพร้อมกับของที่หายไปปรากฎในนั้นหมดเลย

นี่มัน มิติว่างนี่!!

นางมีที่ว่างในมิติแบบไม่เห็นขอบเขตสิ้นสุดเลยหรอนี่ อย่างนั้นเรื่องที่ใส่ของกลับไปบ้านก็ไม่มีปัญหาแล้ว นางต้องกอบโกยสิ่งที่มีประโยชน์ตรงหน้าและที่พบเจอให้หมดเท่าที่จะทำได้

เก็บสมุนไพรเสร็จก็ถึงเวลามองหาโปรตีนไปบำรุงเจ้าก้อนแป้งน้อยทั้งสองบ้างแล้ว ดูเอาเถอะจากก้อนแป้งน้อยซูบผอม จิ่วเม่ยคนใหม่นี้จะขุนให้กลายเป็นก้อนแป้งตัวอ้วนกลมเลย

“นี่พวกป้าๆ จะพาท่านพ่อของเมี่ยวเอ๋อร์ไปไหนน่ะ”

เด็กแฝดทั้งสองวิ่งตามผู้ใหญ่สามคนที่สองคนแบกบิดาของพวกเขาออกจากบ้านมาทันที มุ่งตรงไปบ้านของตนเองที่อยู่ถัดไปไม่ไกล คนที่นำหน้าเปิดประตูและจัดการสิ่งกีดขวางทั้งหมดคือซูอิ๋นนั่นเอง ส่วนคนที่ช่วยกันแบกอารุ่ยมาบ้านก็คือบิดาและมารดาตระกูลหวัง

ส่วนเจ้าเด็กน้อยสองคนนั้นวิ่งตามมาก็ตรงตามแผนการพวกเขาเอง พอเด็กๆ เข้ามาในรั้วบ้านตระกูลหวังหมดก็ปิดลงกลอนประตูทันใด

“นี่คือบ้านใหม่ของพวกเจ้า ส่วนข้าคือมารดาใหม่ของพวกเจ้า เข้าใจไหม อาหมิง อาเมี่ยว”

ซูอิ๋นพูดไปก็เดินผ่านเด็กทั้งสองไปหาร่างของบุรุษใบหน้าหล่อเหลาที่หลับตาพริ้มนอนบนเตียงของนางเอง นางนั่งอยู่ข้างกายเขามือก็ลูบไล้ใบหน้าที่นางวาดฝันอยากได้เป็นสามีมานานอย่างหลงใหล

“ข้าไม่เข้าใจ ท่านป้าพูดเรื่องใด พวกข้ามีมารดาคนเดียวเท่านั้นคือ ท่านแม่จิ่วเม่ย!”

“ใช่แล้วๆ เมี่ยวเอ๋อร์จะไปฟ้องแม่จ๋า...”

“มารดาของพวกเจ้าตายแล้ว จะไปตามหานางคงเหลือแต่กระดูกนั่นแหละ เหอะๆ”

“พูดอันใดไร้สาระ! ปล่อยพวกเราเสีย”

อาหมิงวิ่งกลับไปทุบประตูจนมือแดงไปหมด เขาไม่สามารถเปิดประตูเพื่อไปตามหามารดาได้ แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าคำพูดของป้าๆ จริงหรือไม่ ในใจของเขานั้นนึกถึงก่อนที่มารดาถือของจากไป นางบอกว่าจะขึ้นเขาไปล่าสัตว์ ทว่าหากนางถูกสัตว์ป่าดุร้าย...

“ฮือๆ ไม่จริงหรอก แม่จ๋ารักพวกเราไม่ทิ้งพวกเราไปไหนหรอก เมี่ยวเอ๋อร์ไม่เชื่อ ฮือๆ”

“ปล่อยข้าไปหาท่านแม่นะ ปล่อย!...”

อ่า ตอนนี้ดวงอาทิตย์ลอยค่อนฟ้าแล้วน่าจะเป็นยามเว่ย นางออกมาจากบ้านตั้งแต่ดวงตะวันยังไม่ขึ้นดี ไม่รู้อาการไข้ของอารุ่ยจะเป็นอย่างไรแล้ว แต่ได้เจ้าก้อนแป้งน้อยที่รู้ความทั้งสองเช็ดตัวให้คงทุเลาบ้างกระมัง จิ่วเม่ยเก็บของป่ารวมถึงล่าไก่ป่ามาได้สามตัว และกวางหนึ่งตัวได้จากการทำกับดักง่ายๆ ก็คงเพียงพอให้กินได้สองสามวันแล้ว ไว้คราวหน้าเตรียมอุปกรณ์มาครบกว่านี้นางค่อยเข้าไปลึกขึ้นจะดีกว่า

“อาเมี่ยว อาหมิง มาดูเร็วแม่นำอะไรมาให้พวกเจ้า”

นางว่าบ้านมันเงียบเกินไปกระมัง ดูจากนิสัยของสองก้อนแป้งน้อยแล้วต้องรีบกลับมาต้อนรับนางทันทีที่กลับมาสิ ไฉนเงียบราวไม่ได้อยู่บ้านได้

พอเดินเข้าไปในบ้าน เห็นข้าวของเละเทะกว่าตอนนางเข้าป่าไป อีกทั้งมีรอยลากคนผ่านพื้นดินหน้าบ้านด้วย!!!

มีคนมาลักพาตัวสามีและลูกน้อยทั้งสองอีกแล้วหรือ!?
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel