บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 เฝ้ามอง

3

เฝ้ามอง

นักรบโผล่มาภายในเวลาห้านาทีตามที่ปราณนต์ต้องการ เพราะว่าคอนโดมิเนียมของเขานั้นอยู่ใกล้กับย่านนี้ ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่ง โบกมือเพียงนิดเดียวบาร์เทนเดอร์ก็รู้แล้วว่าเขาจะดื่มอะไร เพราะที่นี่ก็คือที่ประจำของเขาเช่นกัน

“เรียกมามีอะไรครับ?” คนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกน้อง เลิกคิ้วถามเจ้านายพร้อมน้ำเสียงไม่พอใจ

“นายยังไม่รายงานเรื่องวันนี้เลย คิดว่าฉันจะปล่อยให้หลับไปง่ายๆเหรอ?”

“...” นักรบเงียบไป เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขายังไม่ได้รายงาน

“มีอะไร?” พอเห็นว่าคู่สนทนาเงียบไป ปราณนต์ก็อดสงสัยไม่ได้

“เด็กคนนั้นสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดัง คณะวิศวกรรมโยธา เหมือนกับพ่อของเธอ คุณอิรา เคยทำงานให้ KID Construction ผมไม่รู้ว่านายรู้เรื่องนี้อยู่แล้วหรือเปล่า”

“รู้สิ คุณอิรา เป็นคนโปรดของพ่อฉัน ทำงานดี ซื่อตรงและไว้ใจได้ ฉันเคยเจอหน้าเขาอยู่หลายครั้งก่อนที่เขาจะตาย...แล้วทิ้งสมบัติชิ้นสุดท้ายไว้ให้ลูกสาวตัวเอง โดยที่ลูกสาวของเขาไม่รับรู้อะไรเลย”

“แต่เด็กคนนั้นต้องทำงานมากมายเพื่อหาค่าเทอม นายจะช่วยเธอไหมครับ?”

“...” ปราณนต์นิ่งคิด แววตาและสีหน้านั้นกำลังไตร่ตรองอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะหยิบถ้วยชาขึ้นจิบ “ไม่ มันยังไม่ถึงเวลา” และนั่นคือคำตอบ

“ผมถามได้ไหมว่าทำไม? ในเมื่อนายเฝ้าดูเด็กคนนั้นมาตลอดสองปี รับรู้มาตลอดว่าเธอลำบาก แล้วทำไมนายถึงไม่คิดจะช่วย?”

“เพราะฉันไม่อยากเปลี่ยนชีวิตใคร”

“ใจดำ!”

“?”

“นายใจดำมากครับ ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆแต่ผมคิดแบบนั้นจริงๆ”

“ไม่ใช่แค่นายหรอกที่คิดแบบนั้น”

บ้านวศินากร เวลา 22.45 น.

เด็กสาวเดินเข้ามาบ้านในหลังขนาดกลาง ซึ่งตั้งอยู่ท้ายซอย วันนี้เธอเหน็ดเหนื่อยกับการทำงาน พอถึงบ้านก็อยากจะพัก...ยังมีการบ้านที่เธอต้องทำ ยังมีบางวิชาที่ต้องอ่าน ทว่าพอมาถึงบ้านเธอกลับพบว่ามีใครบางคนรอใช้งานเธออยู่

“ทำไมแกกลับมาช้าจังวะ? ฉันรอตั้งนาน!” ม่านฟ้า หรือพี่ฟ้า พี่สาวต่างพ่อต่างแม่ของแสนรักเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ดี เธอคนนี้ไม่เคยพูดดีกับน้องสาวที่คอยรับใช้มาตลอดหลายปีเลยแม้สักครั้ง

“หนูทำงานน่ะ ก็เลิกเวลานี้ตลอด พี่ฟ้ามีอะไรเหรอ?”

“นี่...” ม่านฟ้าใช้ปลายเท้าเขี่ยรองเท้าผู้ใบสีขาวของตัวเอง “ เอาไปซักให้หน่อย พรุ่งนี้ฉันต้องใช้”

“แต่นี่มันดึกแล้วนะพี่ฟ้า เหนื่อย”

“เหนื่อยแล้วไง?! ฉันสั่งอะไรแกก็ต้องทำ! เพราะที่แกมีที่ซุกหัวนอนอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะแม่กับฉัน!” พลันในใจของแสนรักนั้นฉุกคิดขึ้นมาในทันที ว่าที่จริงแล้วบ้านหลังนี้มันเป็นของเธอ มันคือบ้านของพ่อ...เมื่อพ่อจากไปแล้ว บ้านก็ต้องตกเป็นของเธอที่เป็นลูกสาว แต่ทำไมม่านฟ้าถึงกล้าพูดแบบนั้นออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

“งั้นหนูจะตื่นขึ้นมาซักให้พรุ่งนี้ก่อนไปโรงเรียนก็แล้วกันนะ” แต่ถึงอย่างไร เธอก็ต้องยอม เพราะหากไม่ยอมก็มีแต่จะเจ็บตัว

“ไม่ได้! แกต้องซักให้ฉันคืนนี้! โง่หรือไง? ฉันต้องใช้มันพรุ่งนี้นะ ถ้าซักพรุ่งนี้แล้วมันจะแห้งทันได้ยังไง?”

“...” เด็กสาวถอนหายใจ มองหน้าพี่สาวที่อายุห่างกันสี่ปีแล้วรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับชีวิต เธอไม่คิดจะเถียงต่อ ขืนเถียงต่อไปก็มีแต่จะทำให้เสียเวลา ก้มลงคว้ารองเท้าผ้าใบคู่นั้น แล้วเดินไปยังหลังบ้าน หยิบกะละมังมารองน้ำ แล้วเริ่มซักรองเท้าทั้งน้ำตา

รอยยิ้มสดใสไม่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว จากที่ใครๆก็คิดว่าเธอเป็นคนที่ร้องไห้ยาก แต่ไม่มีใครเคยรู้เลยว่าแสนรักเพียงฝืนยิ้มออกไปเพื่อบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร แต่กลับมาแอบร้องไห้อยู่คนเดียวเสมอ

เด็กสาวใช้เวลาราวๆยี่สิบนาทีในการซักรองเท้า เมื่อจัดการเอามันไปตาก ก็เตรียมจะอาบน้ำเพื่อไปอ่านหนังสือ ทำการบ้านแล้วเข้านอน ทว่าเวลานั้น...หลังจากที่เธอออกมาจากห้องน้ำในชุดนอน ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงก็กลับเข้ามาในบ้าน...นี่เป็นเวลาประจำที่ลดาจะกลับมาจากข้างนอก เธอบอกทุกคนว่าไปทำงาน ทว่าที่จริงแล้ว...เธอไปเล่นพนันอยู่ที่บ่อน

“แกยังไม่นอนอีกเหรอแสนรัก?” ลดาที่ดูเหมือนจะเมาเล็กน้อยเอ่ยถาม

“ยังค่ะ เดี๋ยวทำการบ้านเสร็จแล้วก็จะเข้านอน”

“ในตู้เย็นมีอะไรบ้าง? หาอะไรมาให้กินหน่อยสิ ฉันหิว”

“คะ?” รับใช้ลูกเสร็จก็ต้องมารับใช้แม่ต่อ นี่แหละคือชีวิตของเธอ

“ฉันบอกว่าหิว!”

“แต่...”

“ยังจะมีแต่อะไรอีก?! แกจะไม่หาอะไรให้ฉันกินหรือไง?!” ลดาจ้องหน้าแสนรักอย่างเอาเป็นเอาตาย จนสุดท้ายเด็กสาวก็ได้แต่เดินคอตกไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรออกมาทำ ทว่า...ตู้เย็นนั้นว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เศษผักหรือไข่สักฟอง

“แม่คะ ไม่มีอะไรในตู้เย็นเลย”

“งั้นแกก็ออกไปซื้อ! อย่าลีลา ฉันหิว”

“หนูขอเงินหน่อยค่ะ”

“ใช้เงินแกไปนั่นแหละ วันนี้ฉันไม่มีเงินแล้ว!”

“...” แสนรักเก็บกดความขุ่นเคืองเอาไว้ หันหลังกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองที่อยู่ชั้นล่าง หยิบเสื้อคลุมมาสวมตามด้วยกระเป๋าเงินและมือถือ ก่อนจะออกมาเผชิญหน้ากับลดาอีกครั้ง

“เอาเบียร์มาด้วยนะ”

“...” เธอไม่ตอบรับ ทุกอย่างเกิดขึ้นบนความเงียบงัน เด็กสาวเดินออกมาจากบ้าน ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ามีรถโรลส์ รอนซ์สีดำมาจอดที่หน้าบ้านของเธอ ร่างสูงที่เฝ้ามองอยู่ เมื่อเห็นร่างบางออกมาจากบ้าน เขาก็ลงจากรถแล้วแอบเดินตามเธอไปอย่างเงียบๆทันที

แสนรักเดินไปตามซอยในจังหวะที่เชื่องช้า เธอร้องไห้ออกมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงโชคชะตาที่น่าเศร้าของตัวเอง เสียงสะอื้นดังจนคนที่แอบตามนั้นได้ยินมันอย่างชัดเจน ชายหนุ่มที่ไม่เคยสนใจใครมาก่อน เวลานี้หัวใจของเขาบีบรัดอย่างบอกไม่ถูก...เขารู้สึกกระวนกระวายที่ได้เห็นน้ำตาของเด็กสาว และเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม

ปราณนต์แอบตามแสนรักมาจนถึงร้านสะดวกซื้อ เขาแอบมองเธออยู่ที่ด้านนอก เห็นเธอหยิบอาหารสำเร็จรูปสองสามอย่างพร้อมกับเบียร์ เขารู้ว่าเด็กสาวเป็นเด็กดีพอที่จะไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมร้านสะดวกซื้อถึงยอมขายมันให้กับเธอ ไม่นานนักเธอก็ออกมานั่งที่หน้าร้าน แล้วพนักงานหนุ่มก็ตามเธอออกมาพร้อมกับถ้วยบะหมี่

“กินนี่สักหน่อยสิ” เขาคนนี้คือ ไฟ เพื่อนที่โรงเรียนของแสนรัก เขาทำงานกะดึกที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้

“นายกินเถอะ ฉันไม่หิว”

“ไม่หิวก็กินสักหน่อย ฉันอุตส่าห์ซื้อมาให้นะ”

“...” แสนรักยิ้มบางๆ สุดท้ายก็ต้องกิน ที่จริงแล้วเธอหิว หาเพียงไม่มีกะจิตกะใจจะกินก็เท่านั้น

“ร้องไห้มาอีกแล้วใช่ไหม?” สายตาของไฟที่มองมายังแสนรัก ใครที่มองมา ไม่ต้องรู้จักก็พอจะเดาออกได้ไม่ยาก ว่ามันคือสายตาที่มากกว่าเพื่อนมองกัน และแน่นอน...คนที่มองอยู่ในเวลานี้ก็คือปราณนต์

“เปล่า”

“อย่ามาโกหก เห็นนะว่าตาแดงๆ โดนพี่สาวกับแม่เลี้ยงว่ามาอีกแล้วใช่ไหม?”

“...” แม้ว่าคำตอบที่ได้จากแสนรักจะเป็นความเงียบงัน แต่มันก็ทำให้ไฟรู้ว่าเขาคิดถูก

“ทนทำไม? ออกมาจากบ้านนั้นซะ ฉันจะช่วยเธอเอง ไปอยู่กับฉันก็ได้”

“นายจะช่วยยังไง? ตอนนี้นายเองก็ต้องดูแลตัวเอง นายต้องทำงานหาเงิน ต้องไปเรียน ต่อไปก็ต้องเข้ามหาลัย ตอนนี้นายควรสนใจตัวเองมากกว่าคนอื่น”

“เธอไม่ใช่คนอื่น” ไฟตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะยื่นมือไปวางบนไหล่เล็กของเด็กสาว “เราเป็นเพื่อนกัน” แต่เขาก็ทำได้เพียงเท่านี้ ไม่อาจจะก้าวข้ามไปมากกว่าการเป็นเพื่อน เพราะไม่อยากเสียเธอไปเพียงเพราะเขาชอบเธอมากกว่าเพื่อน

“เพื่อนเหรอ?” ปราณนต์ทวนคำที่เพิ่งได้ยินออกมาเบาๆ ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับไปทางเดิม เขาเดินกินลมอย่างไม่เร่งรีบ ในสมองยังคงคิดถึงคำว่าเพื่อนคำนั้น อยู่ๆเขาก็สงสัยขึ้นมา...ว่าผู้หญิงกับผู้ชายสามารถเป็นเพื่อนกันได้จริงๆน่ะหรือ?

แสนรักเดินกลับมาจนถึงหน้าบ้านพร้อมกับถุงจากร้านสะดวกซื้อ คราวนี้เธอได้สังเกตเห็นว่าที่หน้าบ้านนั้นมีรถยนต์คันหรูจอดอยู่ และมีผู้ชายร่างสูงแต่งตัวดี แถมหน้าตาดียืนอยู่ตรงนั้น เวลานี้เขาและเธอได้สบตากัน เด็กสาวจ้องมองชายหนุ่มอย่างจริงจัง

เธอเคยเห็นหน้าเขา รู้สึกคุ้นกับใบหน้านี้มาก ทว่านึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน

ส่วนเขา...มองเธอแล้วใจมันสั่นแปลก ไม่รู้ว่าเป็นผลข้างเคียงหรือเพราะอะไร แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าเธอ...ความรู้สึกประหลาดจะเริ่มทำงาน

“มาหาใครเหรอคะ?” และแล้วเด็กสาวก็เอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย

“...” ทว่าคำตอบคือความเงียบงัน

“หรือมาจอดรถหน้าบ้านคะ? จอดได้เลยค่ะ...บ้านหนูไม่มีรถเข้าออกหรอก แต่คุณต้องระวังนะคะ เพราะแถวนี้มีหมาเยอะ เดี๋ยวจะฉี่ใส่ล้อรถคุณเอา” แสนรักเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส ฉีกยิ้มราวกับว่าเธอนั้นไม่เคยมีความเศร้าใดๆ มันยิ่งทำให้ปราณนต์เกิดความสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม ว่าเด็กคนนี้ยิ้มออกมาง่ายๆได้ยังไง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจะร้องไห้เสียใจ

“ยิ้มทำไม?” แล้วเขาก็หลุดถามออกมา

“คะ?”

“เป็นอะไรกับไอ้เด็กนั่น?”

“ว่าไงนะคะ?”

“บ้าฉิบ!” ชายหนุ่มสบถออกมาแล้วเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นในความรวดเร็ว แสนรักมองตามอย่างไม่เข้าใจ ขมวดคิ้วมองรถยนต์คันหรูที่วิ่งออกไป...

“อะไรของเขากันนะ?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel