บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9 ได้รับบาดเจ็บ

ร่างสูงใหญ่เปลือยท่อนบน ท่อนล่างสวมกางเกงขายาว ก้าวเท้าเดินไปที่หน้ากระจกแล้วหันหลังตนเองเข้าหากระจกเพื่อมองบางอย่างบนแผ่นหลัง เขาลูบคลำมันเล็กน้อยแต่ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ จากนั้นหยิบหวีขึ้นมาหวีผม ละอองจึงมองเห็นแผ่นหลังแน่นเครียดที่มีรอยแผลสดลากผ่านแผ่นหลังฝั่งขวา

           เธอถามขึ้นทันที “หลังไปโดนอะไรมา” แผลนั้นค่อนข้างน่ากลัวอยู่สักหน่อย แค่มองยังรู้สึกหวาดเสียว

           “ลื่นตกเขา” เขาบอกอย่างไม่ปิดบัง เพราะวันนี้หนทางบนเขาลื่นมาก ขณะที่เขากำลังแบกฟืนลงมาจากภูเขา แก่นคูณจึงลื่นตกเขาชายเสื้อเลิกขึ้น แผ่นหลังโดนรากไม้แข็งครูดเข้า จึงทำให้เป็นแผลค่อนข้างลึกและยาว

           “มียาทาไหม เดี๋ยวฉันทาให้”

           “ไม่เป็นไร อีกสองสามวันก็หาย”

           “เดี๋ยวมันจะอักเสบ ให้ฉันไปเอายากับหมอเผื่อนมาให้ไหม หรือพี่จะกินยาแก้ปวดของฉันก็ได้” ยาแก้ปวดของเธอยังเหลืออีกหลายเม็ด มันคงพอทุเลาลงได้

           “ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง พูดมากอยู่ได้ น่ารำคาญ” เขาพูดเสียงเข้ม “ปกติก็ไม่เคยห่วงอยู่แล้ว จะมาแสร้งทำอะไรตอนนี้ มันไม่มีประโยชน์หรอก แผลแค่นี้ไม่ถึงตายหรอกน่า” พูดแล้วก็ดับตะเกียง ล้มตัวลงนอนคว่ำโดยไม่สนใจสายตาของภรรยาที่มองมาด้วยความไม่เข้าใจ

           ละอองทำอะไรไม่ได้ได้แต่ลอบถอนหายใจ แล้วนอนตามเขาไป แผลใหญ่ขนาดนั้นเธอก็แค่เกรงว่ามันจะติดเชื้อก็เท่านั้น ไม่เห็นต้องใส่อารมณ์ขนาดนี้เลย

           วันต่อมาละอองตื่นขึ้นมาแต่เช้า แต่ก็ยังตื่นช้ากว่าสามี

           เธอเดินมาที่ห้องครัว สามีกำลังก่อไฟนึ่งข้าว ละอองพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวฉันทำเอง”

           แก่นคูณหันมามองภรรยาอย่างไม่เชื่อสายตานัก เพราะตั้งแต่คลอดลูกคนที่สอง ละอองไม่เคยตื่นมานึ่งข้าวเลย กระนั้นแก่นคูณก็ลุกออกไปโดยไม่พูดอะไร พลางคิดในใจว่า เธอจะทำได้สักกี่น้ำ

เพราะรู้ว่าอย่างไรสามีก็ต้องขึ้นเขาอีก ละอองจึงทำอาหารเพื่อห่อให้สามีไปกินบนภูเขาด้วย

           แก่นคูณไปซื้อยามาให้แม่แต่เช้า จากนั้นก็เตรียมตัวขึ้นเขาไปหาของป่าตามปกติ เพราะวันจันทร์ที่ไปหย่ากับภรรยา เขาจะนำของป่าไปขายด้วย เมื่อวานดักไก่ป่ามาได้สองตัว เขาจึงเก็บไว้ทำกินเอง ถ้าวันนี้ได้กระต่ายป่ากับไก่ป่าอีกเขาจะเก็บไว้ขาย และซื้อข้าวสารกลับมาทีเดียวเลย

           ละอองยื่นห่อข้าวกับขวดน้ำให้สามีเพราะรู้ว่าเขายังไม่กินข้าวเช้า “วันนี้ฉันทำแกงบอนหวานจึงห่อให้พี่ด้วย มีปลาทอดด้วยนะ” เป็นบอนหวานที่เธอเก็บมาจากข้างลำธารเมื่อวาน

           แก่นคูณรับมาอย่างไม่เต็มใจนัก แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่ภรรยารู้จักเก็บผักพื้นบ้านมาทำเป็นอาหารด้วย ปกติเวลาเขาขึ้นไปหาของป่า เขาจะพกแค่ปลาร้าสับกับกระติบข้าวเหนียวเท่านั้น “กินได้แน่นะ”

           “ได้สิ อร่อยด้วยนะ” ละอองยิ้มให้สามี เธอเป็นคนชอบทำขนม ชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก รับรองว่าอาหารที่เธอทำทุกอย่างย่อมอร่อย

           หลังจากสามีจากไปแล้วละอองจึงยกถาดอาหารออกมาเพื่อกินกับลูกและแม่สามี

           “วันนี้เอ็งทำอะไรกิน”

           “แกงบอนกับปลาทอดค่ะ”

           “ทำเป็นด้วยรึ เมื่อก่อนฉันไม่เคยเห็นเอ็งทำอาหาร” ก่อนหน้าเป็นแม่สามีกับสามีที่เป็นคนทำอาหาร ส่วนละอองจะทำเฉพาะอาหารที่ตนเองกินเท่านั้น

           “เพิ่งไปหัดทำมาค่ะ แม่ลองชิมดูสิคะ” ละอองไม่อยากให้แม่สามีถามมากจึงบอกออกไปเช่นนั้น

           “แม่ครับผมกินได้ไหมครับ”

           “กินได้จ้ะ แม่ทำไม่เผ็ด”

           “หนูกินได้ไหมคะ”

           “กินได้ค่ะ เดี๋ยวแม่เป่าให้นะคะ” ละอองพูดเสียงเล็กเสียงน้อยกับลูกสาว หยิบจานเปล่ามาหนึ่งใบ เพื่อวางชิ้นบอนให้มันเย็นเร็วขึ้น เด็ก ๆ จึงกินแกงบอนกับปลาดทอดเป็นอาหารเช้า

           น้อยหยิบช้อนมาซดน้ำแกงเพื่อชิมดู รสชาติออกหวานอมเปรี้ยวของยอดมะขามอ่อน ถือว่าอร่อยเลยทีเดียว หลังจากนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรอีก ซดแกงบอนกับข้าวเหนียวร้อน ๆ และปลาทอดอย่างเพลิดเพลิน    

แต่พอเที่ยงวันสามีก็กลับมาแล้ว เขาบอกว่าปวดแผลที่หลัง หลังจากกินข้าวที่ภรรยาห่อให้จนหมดแล้วจึงขอยาแก้ปวดจากเธอไปกินหนึ่งเม็ด

           “ให้ฉันไปตามหมอเผื่อนมาฉีดยาให้พี่ดีไหม” อย่างน้อยหมอก็มียาฆ่าเชื้อ

           “ไม่เป็นไร เป็นแผลแค่นี้จะไปตามหมอมาทำไม เปลืองเงินเปล่า ๆ” เขาเคยเป็นแผลที่หัวไหล่ใหญ่กว่านี้ด้วยซ้ำ ยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย ไม่เกินสิบวันเดี๋ยวแผลมันก็แห้งและสมานไปเอง

           ละอองรู้ว่าเงินสามีเหลือน้อยจึงบอกเขาว่า “ฉันยังพอมีเงินอยู่ เอาเงินฉันก่อนก็ได้” เงินที่เธอเอาออกมาจากมิติ เธอยังไม่ได้ใช้สักบาท

           “เก็บไว้เป็นค่าเดินทางตอนไปจากที่นี่เถอะ ไปบอกแม่บดขมิ้นมาทาให้ฉันก็พอ” แผลแค่นี้ไม่กี่วันก็หายเอง ทำไมต้องทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ด้วย

           ละอองเริ่มรู้สึกเหนื่อยใจกับสามีขึ้นมาแล้ว จึงปล่อยให้เขานอนคว่ำหน้าอยู่บนลานบ้าน ส่วนเธอเดินลงไปบอกแม่สามีตามที่เขาบอก เพราะเขาคงไม่อยากให้เธอเข้าใกล้ จากนั้นก็กลับไปผ่าฝืนตามเดิม

           “แม่ครับ ให้ผมช่วยแม่ผ่าฟืนดีไหมครับ” ภาคภูมิถามแม่ด้วยท่าทางจริงจัง

           “ช่วยแม่เก็บฟืนดีกว่าจ้ะ” ตัวเท่านี้ให้ผ่าฟืนคงไม่ไหว “ภูมิถือไปเก็บตรงที่แม่เรียงไว้ใต้ถุนบ้านตรงนั้นนะลูก” ถ้าไม่ให้ช่วยทำอะไรสักอย่างก็คงไม่ยอมแน่ ๆ

           “ครับ”

           “หนูช่วยด้วยคนค่ะ” พอใจเดินหยิบฟืนท่อนเล็กไปเก็บไว้ใต้ถุนตามหลังพี่ชาย ทั้งสองทำงานอย่างขะมักเขม้น แม้จะเรียงท่อนฟืนไม่เป็นระเบียบก็ตาม อีกทั้งท่อนฟืนยังร่วงกระจัดกระจายไปตามทางเดิน แบบนี้ก็ถือว่าช่วยเหมือนกัน ช่วยให้เธอมีงานเพิ่มขึ้นอย่างไรละ

           ในส่วนของน้อย เมื่อเห็นแผลที่หลังลูกชายก็ตกใจเป็นอย่างมาก

           “ทำไมไม่บอกแม่ว่าลื่นตกเขา” พูดพลางบดขมิ้นทาแผลให้ลูกชาย

           “ผมไม่เป็นไรครับแม่ แผลแค่นี้เอง”

           “แต่มันก็ใหญ่เหมือนกันนะ” อีกทั้งยังไม่ยอมแห้งด้วย

           “ทาขมิ้นสองสามวันเดี๋ยวก็หายครับ” เขามักเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองเสมอ

           “อองมันไม่ห่วงเอ็งบ้างหรือไง”

           “ช่างเขาเถอะครับ ผมไม่ได้สนใจเรื่องนั้นแล้ว” ไม่ได้สนใจว่าเธอจะห่วงหรือไม่ห่วง เพราะเขาก็ไม่ได้สนใจเธอเช่นกัน เพราะความห่วงใยที่ละอองแสร้งทำออกมา เขาไม่อยากได้

           หลังจากแม่ทายาให้แล้ว บ่ายวันนั้นเขาก็นอนพักทั้งวัน
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel