บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ครอบครัวในความฝัน

คืนนั้นหลังจากแก่นคูณป้อนยาภรรยาเสร็จจึงอุ้มเธอขึ้นไปนอนในห้องด้วยกัน เพราะบ้านหลังนี้มีเพียงสองห้องนอน คือห้องของเขากับห้องของแม่เท่านั้น ซึ่งลูกทั้งสองจะนอนกับแม่อยู่แล้ว เขาให้ภรรยานอนด้านใน ส่วนเขานอนด้านนอก

           แก่นคูณนั่งมองภรรยาพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนดับตะเกียงเจ้าพายุ แล้วล้มศีรษะลงนอน กายขยับออกห่างจากภรรยามากกว่าที่เคยเป็น

           วันต่อมาแก่นคูณตื่นแต่เช้าเพื่อมานึ่งข้าวแทนผู้เป็นแม่ เกือบปีมาแล้วที่แม่มีอาการปวดเข่าปวดขา ต้องคอยซื้อยามากินอยู่เสมอ เหตุผลที่แม่ยังไม่หายขาดก็เพราะเขาไม่มีเงินซื้อยามาให้แม่กินอย่างต่อเนื่อง ทำให้แม่เดินเหินไม่ค่อยสะดวก และเดินไปไหนไกล ๆ ไม่ค่อยได้ แต่แค่เลี้ยงหลานอยู่บ้านสองคนแม่ก็เหนื่อยมากแล้ว

           ตะวันเริ่มสาดแสงออกมาจากปลายเขาลูกใหญ่ ภาคภูมิกับพอใจจึงเดินออกไปหาพ่อที่อยู่ในครัว ซึ่งเป็นพื้นที่ค่อนข้างโล่งติดกับลานเอนกประสงค์ที่ใช้สำหรับนั่งเล่น กินข้าว และรับแขกไปในตัว ด้านหน้าเป็นชานบ้านและมีบันไดสำหรับขึ้นลง

           “พ่อครับ แม่ฟื้นหรือยังครับ” ภาคภูมิถามพ่อ

           “ยัง”

           “ผมไปหาแม่นะครับ”

           “หนูไปด้วยค่ะ” พอใจว่าตาม

           “ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน” พ่อเอ่ยเสียงดุ

           “ครับ” ภาคภูมิจึงจูงแขนน้องไปล้างหน้าแปรงฟันด้วยกัน

           ภาคภูมิแง้มประตูห้องนอนของพ่อออกชะเง้อหน้าเข้าไปด้านในก่อน น้องสาวเอ่ยถามพี่ชายเสียงกระซิบกระซาบ “พี่ภูมิ แม่ตื่นยัง”

           “ยัง” เขายังเห็นแม่นอนหลับตาอยู่จึงตอบออกไปเช่นนั้น

           เด็กน้อยทั้งสองย่องเข้ามาในห้องอย่างเบาเท้าแล้วนั่งลงข้าง ๆ แม่

           “แม่คะ” พอใจเรียกแม่

           แต่พี่ชายกลับทำปากจู๋แตะนิ้วชี้ที่ปากตน “ชู่ อย่าเสียงดัง เดี๋ยวแม่ตื่น”

           “พี่ภูมิไม่อยากให้แม่ตื่นเหรอคะ” คิ้วเรียวเลิกสูงขึ้น ดวงตากลมมองพี่ชายด้วยความสงสัย

           “อยาก แต่แม่ต้องนอนพักผ่อนให้มาก ๆ”

           ปานตะวันที่ได้ยินเสียงเด็กคุยกันอยู่ใกล้ ๆ จึงลืมตาตื่นขึ้นมา พลันรู้สึกปวดตุบ ๆ ในหัวอย่างรุนแรง

           “แม่ตื่นแล้ว” เสียงเล็กแหลมของพอใจพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น ดวงตาทอประกายพราวระยับ

           ปานตะวันลืมความปวดนั้นไปชั่วขณะ คิ้วค่อย ๆ ขมวดเข้าหากันมองเด็กชายหญิงทั้งสองด้วยแววตานิ่งงัน

           “แม่?” เธอพูดออกเสียงแหบแห้ง นี่เธอมีลูกตั้งแต่เมื่อไร เกิดมาไม่เคยมีสามี

           “เมื่อวานแม่ตกบันไดจนสลบไป พ่อไปตามหมอเผื่อนมาฉีดยาให้แม่แล้วครับ” ภาคภูมิอธิบายให้แม่ฟัง

           ปานตะวันคิดทบทวนตามที่เด็กชายพูด ตกบันได พ่อ หมอเผื่อน ฉีดยา ทันใดนั้นก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ ก่อนหน้านั้นเธอฝันว่านางฟ้ามาหา นางฟ้าบอกว่ามาส่งเธอ แล้วเธอก็หลับใหลไปเลย

           แต่เอ๋… ทำไมหน้าเด็กสองคนนี้ถึงได้คุ้นนักเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

           “แม่ตื่นแล้วเหรอใจ” ร่างสูงใหญ่เปิดประตูเดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยถาม

           “ค่ะพ่อ”

           ปานตะวันจ้องหน้าผู้ชายที่เดินเข้ามาด้วยแววตาตื่นตระหนก นี่มัน… นี่มันผู้ชายที่เธอเคยฝันเห็นคนนั้นนี่นา แล้วเธอมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง หรือว่า… เธอตายจากโลกเดิมมาแล้ว แล้วมาอยู่ในร่างของเมียผู้ชายคนนี้

           แย่แล้ว! มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือนี่ เพียงเธอคิดได้เช่นนั้น ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมก็พรั่งพรูเข้ามาในหัวจนเธอต้องพูดออกมา “ปวดหัว”

           “ลุกขึ้นมากินข้าวก่อนค่อยกินยา” เขาพูดเสียงเรียบห้วน “ภูมิกับใจออกไปล้างมือเตรียมตัวกินข้าวกับย่าก่อนลูก” แก่นคูณบอกลูก

           “ครับ/ค่ะ”

           ลูกชายลูกสาวออกไปแล้ว แก่นคูณจึงพูดกับภรรยา “กินข้าวเสร็จแล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”

           เขาไม่รอให้เธอตอบกลับ ร่างสูงใหญ่เดินออกจากห้องไปในทันที ปานตะวันนั่งลำดับเหตุการณ์ที่หลั่งไหลเข้ามาในสมองตนด้วยอาการมึนงงอีกครั้ง

           เมื่อเข้าใจทุกอย่างดีแล้วจึงถอนหายใจออกมา นี่หรือคือชีวิตใหม่ของปานตะวันที่นางฟ้าคนนั้นเคยบอก รู้อย่างนี้ให้เธอตายไปเลยยังดีเสียกว่าย้อนเวลามาอยู่ในร่างนี้

           โครก!

           เสียงท้องของเธอร้องประท้วง เพราะไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวาน ปานตะวันในร่างของละออง ค่อย ๆ ยืนขึ้นแล้วเดินออกไปกินอาหารด้านนอก ตอนที่อยู่โลกเดิมเธอป่วยจึงไม่ได้สัมผัสกับอาการหิวเป็นเวลาหลายปี แต่ตอนนี้ร่างนี้ปกติดีทุกอย่างเธอจึงรู้สึกอยากกินอาหารขึ้นมา

           น้อยเหลือบมองลูกสะใภ้แวบหนึ่ง แล้วกินอาหารต่ออย่างไม่ใส่ใจ ส่วนลูกทั้งสองขยับกายให้แม่นั่งลงบนเสื่อด้านข้าง

           “ไข่ไม่มี หมูไม่มี บะหมี่ไม่มี ถ้ากินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน” แม่สามีพูดขึ้นเมื่อลูกสะใภ้นั่งลงเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างที่เธอกล่าวมาคืออาหารที่ละอองกินเป็นประจำ

           ละอองคนใหม่กวาดสายตามองอาหารที่มีเพียงสองอย่างก็คือ ลาบกระต่ายป่า และกบภูเขาทอด ด้านข้างมีถ้วยน้ำจิ้มแจ่ว ในถาดที่สานด้วยไม้ไผ่มีผักแว่นสด และลวกผักกาดนกเขา สิ่งเหล่านี้เป็นอาหารพื้นบ้านที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะตอนที่อยู่โลกเดิมเธอก็เป็นคนอีสานและเคยกินของพวกนี้มาทั้งสิ้น กลิ่นหอมของข้าวคั่วและมะนาวในลาบกระต่ายทำให้เธอรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel