Chapter 3.ฝรั่งจตุจักร หล่อคักแท้หนอ/1
ทุกวันอาทิตย์คำแพงจะพามนิตาหรือมิน ลูกน้องในร้านเสื้อของเธอไปเลือกซื้อผ้าตัดเสื้อให้ลูกค้า นอกจากที่พาหุรัดแล้วยังมีร้านประจำอีกร้านที่จตุจักรซึ่งสองสาวมักแวะไปเสมอ เช่นเดียวกับหรรษาที่จะพาสุรศักดิ์หรือบาดี้ลูกน้องในร้านเสริมสวยของตนไปหาซื้ออุปกรณ์ตลอดจนน้ำยาย้อมสีผมเพื่อใช้ในร้าน ปกติจะแยกกันไปแต่คราวนี้คำแพงใช้ให้มินกับบาดี้ไปซื้อของใช้ในร้านเสริมสวยแทนพี่สาว และชวนหรรษามาช่วยเธอเลือกซื้อผ้าตัดเสื้อ
หลังจากเลือกลายผ้าและสั่งออเดอร์ที่พาหุรัดแล้ว คำแพงก็พาหรรษามาร้านผ้าแถวจตุจักรโดยใช้บริการแท็กซี่ ปกติตอนมากับมินจะชอบนั่งรถเมล์กันเพราะติดนิสัยชอบลุย แต่สำหรับหรรษาแล้วให้มานั่งรถเมล์เบียดคนดมขี้เต่าคงไม่รอดตั้งแต่ห้านาทีแรก คำแพงเลยต้องพาพี่สาวนั่งแท็กซี่แทน
“ลากพี่มาทำไมไม่รู้ ร้อนก็ร้อนเหม็นก็เหม็น สั่งออเดอร์ทางเน็ตเอาก็ได้ ทำไมต้องมาเองให้เหนื่อยด้วย”
หรรษาบ่นอุบอิบตามนิสัย ด้วยถูกน้องสาวตัวดีลากไปเดินพาหุรัดตั้งแต่เช้า เดินเลือกซื้อผ้าไปทุกซอกซอยจนทั่วกว่าจะได้ลายที่ถูกใจ เหนื่อยไม่เท่าไหร่เพราะสมัยอยู่บ้านนอกเคยชินกับการเดินเก็บดอกเบี้ยตามแผงร้านค้าให้มารดาบ่อยๆ แต่ต้องทนเดินดมกลิ่นเต่าของมนุษย์หลากหลายสัญชาตินี่สิ หญิงสาวแทบอ้วกพุ่ง โดยเฉพาะกลิ่นมหากาฬของเจ้าถิ่นที่พกพาความหอมกรุ่นแบบต้นตำหรับมาเต็มๆ ขนาดควักยาดมยัดจมูกมาตลอดทางยังวิงเวียนมึนงงคล้ายอยู่ในดงเครื่องเทศ กว่าคำแพงจะเลือกลายผ้าเสร็จเธอก็อ่อนเพลียจนลมแทบจับ นึกว่าน้องสาวจะพากลับบ้านที่ไหนได้คำแพงดันพามาที่จตุจักรต่อ ช่วงวันเสาร์อาทิตย์แบบนี้มีตลาดนัดคนเยอะแยะ ยุบยับไปหมด
“ลงๆ มาเอื้อย เอ๊ย พี่ษา เดี๋ยวคำแพงจะเป็นไกด์พาเที่ยวจตุจักร ไปร้านผ้าแล้วเดินเล่นหาอะไรกินกันเนอะ”
ยามอยู่นอกบ้านหรือในร้านสองพี่น้องตกลงกันว่าจะพูดภาษากลางเพื่อให้ชิน จะได้ไม่หลงคำเวลาพบปะหรือสนทนากับลูกค้า ลูกน้องสองคนในร้านก็ถูกบังคับให้พูดภาษากลางเช่นกัน มีบ้างที่แอบหลุดพูดภาษาบ้านเกิดในยามที่เม้ามอยกันเพลิน หรือตอนที่ถกเถียงด่าทอกันบ้างเพื่ออรรถรสในเรื่องราว แต่เมื่อออกมานอกบ้านต้องพูดภาษากลางเท่านั้น
“โอ๊ย พามาจตุจักรทำไม พี่ไม่ชอบที่ๆ มีคนเยอะ มันเวียน เอ่อ มันมึนหัว หิวข้าวด้วย”
หรรษาบ่นแต่ก็ยอมลงจากแท็กซี่เดินตามน้องสาวโดยดี คำแพงจูงแขนพี่สาวพาเดินไปยังร้านขายผ้าเจ้าประจำซึ่งขายผ้าลูกไม้และผ้าลินินจากนอกโดยเฉพาะ
“หิวก็กินทองม้วนไปก่อนนะพี่ษา เดี๋ยวแพงจะพาไปร้านผ้า แล้วค่อยไปกินของอร่อย แถวนี้มีร้านเด็ดเยอะ” คำแพงซื้อขนมทองม้วนให้พี่สาวกินรองท้อง
“ของอร่อยอะไรของแก คนเยอะแยะคงมีที่นั่งหรอก”
หรรษามองไปรอบกายแล้วถอนหายใจ เอามือล้วงทองม้วนยัดปากแก้หิวไปพลางๆ เธอไม่น่าใจอ่อนตามยายคำแพงมาเลย ปกติซื้อของเสร็จก็กลับไปนอนดูซีรี่ส์ที่ห้องต่อ เมื่อกี้โทรไปถามบาดี้กับมินสองคนซื้อของเสร็จไปรออยู่ที่ร้านแล้ว หรรษาเลยใช้ให้เปิดร้านครึ่งวันรับลูกค้าไปก่อนจะได้มีรายได้เข้าแทนส่วนที่จ่ายไป ใครจะว่างกก็ช่าง
หญิงสาวหันกลับมามองน้องสาวที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าด้วยท่าทางลั้ลลาเต็มที่ ตอนทำงานก็จริงจังอยู่หรอก แต่พอได้มาเที่ยวเล่นแบบนี้คำแพงก็ทิ้งความเป็นผู้ใหญ่ไปหมด ดูสิแต่งตัวอย่างกับเด็กกะโปโลสวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาสั้นถักเปียสองข้างสวมหมวกแก็ปอย่างกับเด็กมัธยม ทั้งที่อายุอานามก็ปาไปยี่สิบแปดปีแล้วแต่น้องสาวของเธอดูอ่อนกว่าวัยมาก แบบนี้เหรอฝรั่งที่ไหนมันจะสน เสี่ยสมยศน้าเขยผู้เป็นพ่อของคำแพงก็ขยันเป่าหูลูกสาวให้หาผัวฝรั่ง พอๆ กับเสี่ยบันเทิงพ่อของเธอที่ไม่ยอมน้อยหน้าคนข้างบ้าน ยุให้ลูกสาวหาผัวฝรั่งบ้าง ทำอย่างกับว่าการหาผัวฝรั่งมันหาได้ง่ายนัก
หญิงสาวกวาดสายตามองไปเดินไป แถวนี้คนเยอะดีจริง มีของขายหลากหลายทั้งเสื้อผ้า อาหาร ของตกแต่งบ้าน ราคาไม่แพงเกินกระเป๋าเงินคนฐานะปานกลาง คนชอบช็อปปิงก็พากันมาเดินหาซื้อของกันขวักไขว่ไปหมด ทั้งคนไทยคนต่างชาติ
เดินไปครู่หนึ่งสายตาเรด้าก็กวาดมองไปรอบทิศทาง หัวใจเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้นกับภาพของหนุ่มๆ หลากหลายสัญชาติ ที่พากันเดินเล่นผ่านไปมา เกือบเผลออุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นว่า
‘ป๊าด! หม่องนี่มันตลาดนัด หรือแหล่งรวมผู้ชายหล่อกันเนี่ย’
คนนั้นก็หล่อล่ำ สวมเสื้อกล้ามโชว์กล้ามแขนแน่นๆ คนนี้ก็น่ารักยิ้มเก๋ สีผม สีตาถูกใจ อีกคนหุ่นก็มาดแมนแฮนด์ซั่ม หน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม มองจนตาลายไปหมดแล้ว
‘มองไปทางไหน ก็พ้อ (เจอ) แต่ฝรั่งหล่อคักๆ อีษาฟินเด้’
หรรษาสะกดกลั้นความรู้สึกลึกๆ ในใจตัวเองไว้สุดฤทธิ์ไม่ให้แสดงออกมาให้คนภายนอกรับรู้ว่าเธอเองก็เป็นติ่งฝรั่ง ชอบผู้ชายฝรั่งต่างชาติเข้าสายเลือดที่ทำเป็นเก็กก็เพราะเป็นพี่ใหญ่อายุก็มากกว่าทุกคน ไม่อยากให้ลูกน้องในร้านไม่นับถือ โดยเฉพาะน้องสาวตัวแสบอย่างคำแพง หากรู้เข้าคงจะล้อเลียนเธอไปยันลูกชายคนโตบวชนู่นแหละ
