บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 คนไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิด [1]

“เธอไปบอกแม่ใช่ไหม” หลังกลับมาจากทำงานอิชย์ตามหาภรรยานอกหัวใจที่ต่อหน้าทำอีกอย่าง ลับหลังทำอีกอย่าง ชายหนุ่มตรงดิ่งเข้ามาถึงในห้องครัว ต่อหน้าสาวใช้ต่างวัยทั้งสองคน ป้าพรกับพี่ปุ๋ยพอเห็นสายตาและท่าทางโมโหร้ายของผู้เป็นนายก็หลบฉากออกไปทันที

“บอกอะไรคะ?” ศรัญญาละมือจากผักที่กำลังล้างหันมาถาม จู่ๆ เขาก็มาหาเรื่องเธอถึงในนี้

“ที่เธออยากไปฮันนีมูนจนตัวสั่นไง” เวลานี้แม้แต่ผีห่าซาตานตนไหนก็ยังแพ้ผู้ชายตรงหน้า คำพูดคำจายังคงไม่รักษาน้ำใจเช่นเคย

“ทรายเปล่าค่ะ” เธอตอบ ไม่เคยมีความคิดแบบนั้นอยู่แล้ว

“โกหก!” เขาไม่เชื่อ คิดว่าอีกฝ่ายใช้มารยาออดอ้อนให้มารดาจัดการทุกอย่าง

“ทรายไม่รู้ว่าคุณอิชย์พูดถึงอะไรค่ะ” หญิงสาวบอกเสียงเรียบและหันกลับไปสนใจสิ่งที่ทำค้างไว้ต่อ ทุกครั้งพูดอะไรเขาไม่เคยเชื่ออยู่แล้ว

“ไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ เข้าทางฉันไม่ได้เลยเข้าทางแม่สินะ” อิชย์ว่าไม่ไว้หน้า เขาจะรู้บ้างไหมว่าแม่สามีเองก็ไม่ได้ต้อนรับเธอไม่ต่างกัน

“ถ้าคุณอิชย์ไม่ได้เต็มใจ ทำไมไม่ปฏิเสธคุณท่าน เอ่อ คุณแม่เองล่ะคะ” หญิงสาวแนะนำ หากไม่เต็มใจคงไม่มีใครบังคับได้

“ยอมรับออกมาแล้วสินะ ถ้าอยากไปมากฉันจะจัดให้ แล้วเธอจะได้รู้รสชาติความหวานจนแทบสำลัก” พอโวยวายเสร็จก็ทิ้งให้ผู้เป็นภรรยาได้แต่ยืนงง ทำอะไรก็ผิดเสมอ พูดอะไรก็หาว่าแก้ตัว

บนโต๊ะอาหารมื้อเย็นนี้ศรัญญามีส่วนร่วมช่วยสาวใช้ทั้งสองคน อย่างน้อยก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ แค่นี้ก็ถูกรังเกียจมากพอแล้ว ขืนขี้เกียจไม่ทำอะไรเลย คงถูกหาว่าเป็นพวกคุณหนูหยิบจับอะไรไม่เป็น หญิงสาวเหลือบไปเห็นสายตาของแม่สามีที่มองมาก็รู้สึกแปลกใจ แต่พยายามทำเป็นไม่เห็นเนื่องจากไม่อยากถูกต่อว่าอีก

“หนูทราย เดี๋ยวทานข้าวเสร็จไปจัดกระเป๋าเลยนะลูก” คำหวานของแม่สามีทำเอาคนฟังมีท่าทีอึดอัด ท่านไม่เคยพูดแบบนี้ ซึ่งเธอก็เข้าใจได้ว่าคงเป็นเพราะอยู่ต่อหน้าบุตรชาย

“เอ่อ ไปไหนคะ?”

“แหม ก็ไปฮันนีมูนกับพี่เขาไง แม่จองตั๋วไว้ให้เรียบร้อยแล้ว สามวันสองคืน พักผ่อนให้เต็มที่ กลับมาแม่หวังว่าจะได้หลานนะ” หญิงสูงวัยบอกลูกสะใภ้ด้วยรอยยิ้มหวาน ทว่าในใจกลับคิดอีกอย่าง นางจะทำตัวเป็นแม่สามีใจร้ายต่อหน้าลูกไม่ได้

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำทั้งที่ยังงงๆ

“ดีแล้วลูก ทานข้าวกันดีกว่านะ” สุจินดาพยักหน้าพอใจก่อนจะจัดการกับอาหารมื้อเย็นโดยที่ลูกชายแทบจะไม่ยอมพูดอะไรเลย นางรู้ว่าเจ้าตัวกำลังไม่พอใจแต่ไม่อยากจะขัดใจแม่

อีกชั่วโมงให้หลังศรัญญาหยิบกระเป๋าลากออกมาจัดตามความประสงค์ของแม่สามี และไม่ลืมจัดเผื่อเขาด้วย อิชย์เดินเข้ามาในห้องหลังจากนั้นไม่นาน ชายหนุ่มเห็นว่าผู้เป็นภรรยากำลังจัดกระเป๋าก็อดหงุดหงิดไม่ได้ กระทั่งเธอเงยหน้าขึ้นมา

“คุณอิชย์จะเอาไปกี่ชุดคะ?”

“คิดเองไม่เป็นหรือไง” เขาย้อนถาม

“ทรายไม่แน่ใจค่ะว่าคุณอิชย์อยากเปลี่ยนกี่ชุด” หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ แล้วตอบกลับไป

“เป็นเมียภาษาอะไร ถึงไม่รู้ว่าผัวต้องการอะไร” ชายหนุ่มต่อว่า พลางเดินไปคว้าเสื้อผ้าในตู้แล้วยื่นไปตรงหน้า ศรัญญายื่นมือรับมาเงียบๆ พร้อมกับรีบจัดเสื้อผ้าต่อ ระหว่างกำลังปิดกระเป๋าเสียงสามาร์ตโฟนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นใครก็อดจะยิ้มไม่ได้

“ค่ะพี่ภูมิ”

“เป็นยังไงบ้างทราย พี่ไม่ได้คุยด้วยหลายวันเลย” ภูมิภัทรถามด้วยความเป็นห่วง หลังจากแยกกับเธอครั้งสุดท้ายเมื่อหลายวันก่อน

“สบายดีค่ะ ทรายกำลังจัดกระเป๋า” ศรัญญาไม่คิดปิดบังคนที่เธอนับถือเหมือนพี่ชายแท้ๆ กลัวว่าถ้าโกหกจะทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก

“ทรายจะไปไหนเหรอ?”

“เอ่อ...อุ๊ย” ยังไม่ทันจะได้ตอบคนปลายสาย สมาร์ตโฟนก็ถูกแย่งไปจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี เธอมองเห็นใบหน้าทมึงอย่างคนโกรธจัดมองมาพร้อมๆ กับเสียงที่ตอบกลับ

“ไปฮันนีมูนกับผัว มีปัญหาอะไรไหม?”

“ส่งโทรศัพท์คืนให้ทรายเดี๋ยวนี้” ภูมิภัทรสั่ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่อีกฝ่ายเข้ามายุ่ง

“หึ คิดว่าตัวเองเป็นใครวะมาสั่ง” อิชย์ตอกกลับไม่พอใจเช่นกัน ไอ้กร๊วกเอ๊ย ตีท้ายครัวชาวบ้านไม่พอยังมีหน้ามาสั่งผัวเขาอีก

“ฉันเป็นพี่ชายทราย แกต่างหากที่ยุ่ง”

“พี่ชายคิดไม่ซื่อ อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่” ชายหนุ่มเยาะ กล้าปฏิเสธหน้าด้านๆ เห็นๆ กันอยู่ โทรมาหาเมียคนอื่นในเวลาแบบนี้

“คุณอิชย์ คืนโทรศัพท์มาให้ทรายนะคะ” ศรัญญาพยายามยื้อแย่ง แต่แรงกำลังและส่วนสูงที่ต่างกันส่งผลให้เหมือนคว้าอากาศ

“จำไว้นะว่าผู้หญิงที่มึงโทรหามีผัวแล้ว อีกไม่นานก็จะมีลูกด้วยโว้ย”

“พี่ภูมิ เดี๋ยวทรายโทรกลับนะคะ” หญิงสาวแย่งสมาร์ตโฟนกลับมาได้สำเร็จแล้วรีบเอ่ยลาเพราะไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องใหญ่

“ผัวยืนอยู่ตรงหน้า ยังกล้าบอกว่าจะโทรหาผู้ชายอื่นอีก” อิชย์ต่อว่าที่ถูกมองราวกับหัวหลักหัวตอ

“มีเหตุผลหน่อยค่ะคุณอิชย์ ทรายรู้จักกับพี่ภูมิมาก่อนคุณ”

“รู้จักแล้วยังไง มีผัวแล้วไม่จำเป็นต้องคุยกับผู้ชายคนอื่น” เขาตะคอกเสียงดัง ไม่พอใจที่เธอให้ความสำคัญผู้ชายอื่นมากกว่า

“คุณอิชย์ไม่เคยใส่ใจทรายอยู่แล้ว ทำไมต้องห้ามด้วยคะ ทีคุณอิชย์คุยกับผู้หญิงคนอื่นทรายยังไม่เคยยุ่งเลย” เธอโต้กลับบ้าง สิทธิความเป็นส่วนตัวควรมีเท่าเทียมกัน

“ถ้าเธอหมายถึงวิวกับฉัน เราคุยเรื่องงานกัน ไม่ใช่แบบไอ้พี่ภูมิที่มันห่วงหาอาทรเธอจนออกนอกหน้า” ชายหนุ่มแก้ตัว แม้จะฟังดูไม่ขึ้นแต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เมียตัวเองสนใจใครมากกว่า

“คุณอิชย์แน่ใจเหรอคะว่าคุยแค่งาน” เขากล้าพูดได้เต็มปากทั้งๆ ที่เธอเห็นว่ามันไม่ใช่

“ทำไม? เธอหึงฉันกับวิว”

“ทรายรู้ค่ะว่าทรายห้ามคุณไม่ได้ แต่ทำอะไรอย่าคิดว่าคนอื่นจะเหมือนตัวเองสิคะ” คำพูดโต้ตอบเล่นเอาคนฟังถึงกับสะอึก

“นี่เธอด่าฉันเหรอทราย” สองมือหนาบีบไหล่เล็กด้วยความโมโห ทั้งที่ตอนแรกเธอต่างหากเป็นฝ่ายผิด

“ปล่อยทรายนะ เพราะตราบใดที่คุณคุยกับผู้หญิงคนนั้นได้ ทรายก็มีสิทธิ์ติดต่อกับพี่ภูมิค่ะ” แม้น้ำเสียงจะสั่นแต่เธอยังพยายามบังคับไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

“ดี! ฉันจะได้ทำให้เธอไม่ต้องติดต่อมันอีก” สิ้นเสียงคนโมโหหึงก็คว้าสมาร์ตโฟนในมือเล็กพร้อมกับปากระทบกับกำแพงห้องเต็มแรงจนชิ้นส่วนกระจายออกมา

“คุณอิชย์”หญิงสาวร้องเสียงหลง ไม่คิดว่าเขาจะทำกับเธอขนาดนี้

“จำไว้ อย่ามาลองดีกับฉัน” เขาทิ้งท้าย ปล่อยให้เธอหยิบชิ้นส่วนของสมาร์ตโฟนขึ้นมาดูด้วยความเสียใจ ทำไมเธอต้องทนอยู่ในสภาพแบบนี้ ทำไมต้องยอมให้คนใจร้ายทำลายหัวใจอยู่ร่ำไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel