9.เผชิญหน้าซาตานในคราบมนุษย์ Ep2
“ฉันทำผิดอะไร!!..”
“ฆ่าคนตายโดยเจตนา หวังยึดครองทรัพย์สมบัติ..เธอมันฆาตกร..”
รักษ์สิยารู้สึกใจหายแล้วหวาดกลัวกับน้ำเสียงและสายตาของเขาที่มองมา
“ฉัน ฉัน ฉันไม่..ไม่..”
“ผัวเก่าของเธอตายยังไง เธอคิดว่าการที่เขาตายคาอกของเธอ เพราะลีลาของเธอมันทำให้เขาควบคุมอารมณ์ไม่อยู่หรือไง..”
เธอส่ายหน้าด้วยความหวาดผวาเมื่อเขาก้าวเข้าไปใกล้
“หรือเธอจะบอกว่าเป็นเพราะออโต้ อีโรติก เทคนิกพิเศษในการร่วมหลับนอน ต้องพันธนาการเขาด้วยเครื่องมือที่พร้อมจะกระชากดวงวิญญาณของเขาให้หลุดลอย และมันก็เป็นอุบัติเหตุที่เขาตายแบบไม่ตั้งใจ”
เธอส่ายหน้า
“คุณพูดอะไรคะ!?”
“ฆาตกร..ผู้หญิงเลว เธอฆ่าเขา หวังสมบัติ หลังจากที่หลอกล่อให้เขาทำพินัยกรรมยกมรดกให้เธอ..อยากจะได้ครอบครองมรดกนั้นเร็ว ๆ เธอจึงฆ่าเขาแล้วปัดความรับผิดชอบด้วยการบอกว่าเขาหัวใจวายตายเพราะโรคที่เป็นอยู่..ใช่ไหม..”
เธอส่ายหน้า ในขณะที่เขาย่อกายลงนั่ง
“สารเลว..”
เขาขยุ้มคอเสื้อของเธอแล้วรั้งร่างบางให้โน้มใบหน้าใกล้เข้ามาหาใบหน้าของเขา
“เขาขาดอากาศหายใจ ไม่ได้หัวใจวายตายเพราะเกิดอาการช็อคหรือเหนื่อยมากเกินไป เธอเจตนาฆ่าเขาด้วยการเอาหมอนปิดปากปิดจมูกเขา..”
“ไม่จริง ฉันไม่ได้ทำ..”
“โอ๊ะ!..”
ฝ่ามือใหญ่สะอาดบีบปากเธอไว้แน่นก่อนจะผลักจนใบหน้าหวานคะมำไปด้านข้าง
“ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เกิดที่นี่ แต่ที่นี่ คือที่ตายของเธอ..หากอยากจะให้โทษประหารลงเหลือกักขังตลอดชีวิต เธอต้องทำงานอย่าได้หยุด..”
เขาตวาดเสียงใส่หน้าเธอก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที
“นี่มันอะไรกัน!?..อุบล อุบล..”
รักษ์สิยาส่ายหน้าไปมา รู้สึกตกใจอย่างมากกับคำพูดของเขา นี่หมายความว่าไง นายธีรยุทธไม่ได้หัวใจวายตายหรอกหรือ แล้วเขารู้ได้ยังไง เขาเป็นอะไรกับนายธีรยุทธ
“คุณท่านคะ เจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอพบค่ะ”
“เรื่องอะไร”
นายโกสินทร์พับหนังสือวางลงบนโต๊ะ พร้อมกับมองหน้าดวงใจที่เข้ามารายงาน แต่ดวงใจกลับไม่สนใจคำถามของเขาหล่อนชำเลืองสายตาไปมองหน้านริศฌาที่ดูเผือดซีดลงแทบทันที
“แม่คะ นริศขอตัวขึ้นข้างบนนะคะ”
หล่อนรีบก้าวออกไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตาของดวงใจ
“เชิญเข้ามา”
นายโกสินทร์มองไปยังนายตำรวจสามนายที่เข้าไปพบเขา
“มีเรื่องอะไรหรือครับ”
“ผมมาเรื่องของผู้ตายครับ คุณพงศธร”
“ขอพบคุณรักษ์สิยาครับ”
“รักษ์สิยา?”
นายโกสินทร์ทวนชื่อของลูกสาวของเขาพร้อมกับมองหน้านายตำรวจ
“ทำไมหรือคะ”
จุฑาดาเอ่ยถามด้วยความฉงน
“ที่โรงแรมบอกว่า ผู้หญิงที่ไปเปิดห้องคืนนั้นกับผู้ตาย ระบุชื่อว่ารักษ์สิยา”
“นามสกุลอะไรคะ”
“ไม่ได้ระบุครับ แต่เพราะเป็นชื่อของคุณรักษ์สิยาที่เป็นลูกสาวคนเล็กของคุณ พวกเราเลยอยากจะรบกวนขอสอบปากคำเธอ”
“คืนเกิดเหตุ ลูกสาวของผมอยู่ที่ภาคใต้ครับ เพราะวันนั้นเธอเข้าพิธีแต่งงาน ไม่ใช่เธอแน่นอนครับ”
“ผมขอทราบที่อยู่ของเธอได้ไหมครับ”
“ได้ครับ”
นายโกสินทร์ยอมบอกที่อยู่ของรักษ์สิยา ในขณะที่ดวงใจเหมือนอยากจะพูดอะไรกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“นางดวงใจไปหาน้ำมารับรองคุณตำรวจ ไปเดี๋ยวนี้”
จุฑาดาแผดเสียงเหมือนตะคอกพร้อมกับจ้องมองดวงใจด้วยสายตาที่ไม่พอใจนัก ทำให้ดวงใจจำต้องออกไป ทั้งที่อยากจะบอกว่า ที่นี่ยังมีลูกสาวอีกคนชื่อนริศฌา หล่อนอยากจะให้ตำรวจสอบปากคำของนริศฌา แต่คงยากเพราะจุฑาดาเหมือนรู้ทัน
“งั้นผมขอรบกวนเท่านี้นะครับ”
“ครับ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไปท่ามกลางความร้อนใจของดวงใจที่อยากจะให้คนผิดมารับโทษ แต่เมื่อมาคิดอีกที ก็ทำให้หล่อนค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมา
“มันง่ายเกินไป หากแกจะเข้าคุกง่าย ๆ ฉันจะให้แกลิ้มรสความเจ็บปวด นริศฌา”
ดวงใจคิดในใจเมื่อคล้อยหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“แม่คะ ตำรวจมาทำไมคะ”
เมื่อตำรวจกลับไป นริศฌาก็รีบเข้ามาหาแม่ของหล่อนแล้วเอ่ยถามทันที
“ก็ฆาตกรที่ฆ่าพงศธร ใช้ชื่อรักษ์สิยาในการเปิดห้องน่ะสิ ไม่เข้าใจมันทำไมบังเอิญแบบนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะพงศธรอยู่บ้านนี้และรักษ์สิยาก็อยู่บ้านนี้ ”
“แล้วไงคะ”
“เขากำลังตามหาน่ะสิ แล้วก็ดันมาชื่อรักษ์สิยาเข้า เขาก็เลยมาที่นี่เพื่อขอสอบปากคำ”
นริศฌานั่งหน้าเผือดซีดจนเห็นได้ชัด
“เป็นอะไรไปหรือลูก ทำไมหน้าหนูซีดแบบนี้ ไม่สบายหรือเปล่า”
นริศฌารีบส่ายหน้า
“น้ำส้มค่ะคุณนริศ”
ดวงใจเข้ามาพร้อมกับน้ำผลไม้สองแก้ว แก้วหนึ่งให้คุณจุฑาดา อีกแก้วหนึ่งหล่อนจงใจส่งให้นริศฌาที่รีบรับไปดื่มรวดเดียวหมด
“ดีมาก”
ดวงใจคิดในใจเมื่อมองเห็นนริศฌาดื่มน้ำแก้วนั้นหมด เพราะในน้ำแก้วนั้น มียาชนิดหนึ่งที่หล่อนแอบใส่มันลงไป
“ไปได้แล้ว”
นริศฌาส่งคืนแก้วให้ดวงใจก่อนจะหันมาหาจุฑาดา
“แม่คะ เมื่อไหร่เราจะไปที่นั่นคะ”
“พรุ่งนี้ แม่จะไม่ยอมให้ไอ้บ้านั่นมันมาหลอกลวงแม่ได้หรอก”
“คุณพ่อไม่ถามถึงสินสอดบ้างหรือคะ”
จุฑาดายิ้มกว้าง
“เขาจะกล้าถามได้ยังไง เขาไม่ได้คิดจะขายลูกของเขาเพราะเขาหวังว่า มันจะอยู่ดีกินดีกว่าอยู่ที่นี่ และแม่ก็มั่นใจว่า เขาไม่สนใจสินสอดนี่ด้วย เขาสนใจเพียงแค่หวังให้รักษ์สิยาอยู่อย่างสบายไปตลอดชาติ และดูเหมือนเขาจะพอใจกับลูกเขยคนนี้มาก”
“แล้วเราจะทำยังไง”
“แม่จะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด”
หล่อนพูดออกมาอย่างหนักแน่นใจขณะที่นริศฌารู้สึกหวาดกลัว หล่อนหวังเพียงแค่อยากจะไปให้พ้นจากบ้านนี้สักพัก หากตำรวจตามสืบหาคนร้าย บางทีอาจจะสาวมาถึงตัวหล่อนก็ได้ เพราะฉะนั้นต้องไปจากที่นี่
“นี่หมายความว่าไง แกบอกให้ชัด ๆ สิ..”
จุฑาดาตะโกนถามอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจหลังจากมาถึงคฤหาสน์หลังงามที่หล่อนมางานแต่งของรักษ์สิยากับนายกีรติ เกียรติกานต์เมื่ออาทิตย์ก่อน แต่ชาวบ้านละแวกนั้นบอกว่าที่นี่ไม่มีคนอยู่ มันเป็นเพียงบ้านร้างที่เจ้าของปลูกไว้สำหรับมาพักแต่ไม่ค่อยได้มา
อีกทั้งงานแต่งคราวก่อนเพราะมีคนไปขอเช่าบ้านเพื่อจัดงาน ไม่ได้เป็นบ้านของนายกีรติ เกียรติกานต์แต่อย่างใด ทำให้นริศฌาที่นั่งรอในรถแต่ได้ยินชัดเกิดความขุ่นเคืองใจอย่างมาก จนต้องก้าวออกมาจากรถ
“แล้วบ้านหลังนี้เป็นบ้านของใคร..”
“เป็นบ้านของนายใหญ่วรชัย กับนายแม่รัตนา ธิติดำรงกุลครับ..”
“แล้วนายกีรติ เกียรติกานต์เจ้าของบริษัทรังนกสำเร็จรูปล่ะ ..”
ชายวัยเกือบห้าสิบนิ่งคิด
“ไม่มีคนชื่อนี้หรอกครับ..”
“อะไรนะ!ไม่มีคนชื่อนี้ แล้วเจ้าของบริษัทรังนกสำเร็จรูปคือใคร..”
“นายใหญ่วรชัย ธิติดำรงกุลครับ..”
จุฑาดากำมือแน่นเมื่อหันมามองหน้านิรศฌาลูกสาวของหล่อน
“มันหลอกเราค่ะแม่ มันเป็นใคร..”
