ตอนที่ 3 เจอหน้า
-สามวันต่อมา-
“วันนี้ลูกสวยมาก รู้ไหม” นภาเอ่ยชมลูกสาวตัวเอง ขณะแต่งหน้าทำผมให้นิก้า นิก้าสวมใส่ชุดเดรสสีขาวเปิดไหล่แต่งระบายด้วยลูกไม้ กระโปรงสั้นเลยเข่าเพื่อให้เข้ากับร่างเล็กของเธอ
“แม่จะให้นิก้าไปงานใครหรอคะ?” เพราะตั้งแต่ตอนเย็นแม่และพี่สาวต่างก็จับเธอเข้าห้องเพื่อขัดผิวเตรียมไปงานเลี้ยง
“ไปถึงก็รู้เองแหละน่า” หว่าหวาบอกน้องสาว
“บอกก่อนไม่ได้รึไง นิก้าตื่นเต้นจะตายอยู่แล้ว”
“ไม่ได้จ้ะ!!” นภาพูดขึ้น
“แล้วแม่กับพี่หวาไม่ไปด้วยหรอคะ”
“ไปสิ แต่ไปส่งต่างหากล่ะ”
“อ้าวว” นิก้าย่นหน้าใส่หว่าหวาทันที
“นี่เป็นธุระด่วนที่แม่บอก หนูห้ามตื่นเต้น ห้ามกลัว..เอ่อห้ามซุ่มซ่ามล่ะ”
“แม่พูดแปลกๆนะเนี่ย”
“ไม่มีไรหรอก..ไป..ได้เวลาแล้ว” หว่าหวารีบตัดบทสนทนาดึงมือให้น้องสาวลุกขึ้นเพื่อเดินทางไปงานเลี้ยง
.
.
@งานเลี้ยง
“พี่หวาเข้าไปด้วยกันสิ”
“เข้าไปเดี๋ยวก็เจอลุงชินตะเองแหละ”
“แล้วทำไม นิก้าไม่เห็นรู้เลยว่าพ่อกลับไทยแล้ว”
“อยากรู้!?”
“อือ” คนตัวเล็กพยักหน้าพันละวัน
“เปิดประตูรถแล้วเข้าไปถามเอง”
“โธ่! พี่หวา”
ปึง!
นิก้าลงจากรถเดินเข้าโรงเเรมเพื่อหาห้องจัดเลี้ยง เธอเดินมองไปรอบๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่เธอเข้ามาเหยียบโรงแรมหรูหราขนาดนี้
“แล้วมันอยู่ไหนกันเนี่ย...”
“...ชั้นไหนนะ” นิก้าหยิบการ์ดเชิญออกมาเพื่อดูทางไปห้องงานเลี้ยงอีกครั้ง ก่อนจะเดินตรงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงใครกำลังเดินมาฝั่งเธอ นิก้าเงยหน้ามองไปยังด้านหน้า
“คุณโอคาซากิ!!” คนตัวเล็กรีบหลบไปหลังเสาทันทีที่เห็นโอคาซากิกำลังเดินมาทางเธอ ทำไมเขาถึงมาอยู่เมืองไทยได้ล่ะ ที่แท้พ่อก็มากับเขาเหรอ แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับเธอไม่อยากเจอหน้าผู้ชายบ้าอำนาจคนนั่น ผู้ชายใจร้าย ผู้ชายที่เธอไม่เคยคิดจะลืม...
.
.
เด็กน้อยวัย 10 ขวบกำลังนั่งระบายสีลงบนภาพที่เธอลงมือวาดเองในห้องนั่งเล่นระหว่างนั่งรอพ่อทำงาน เธอเผยรอยยิ้มตลอดเวลาเพราะสิ่งที่เธอทำมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอหลงรัก
ตึกตึก...
“ทำอะไร!!”
“คุณโอคาซากิ” นิก้าลุกขึ้นโค้งคำนับเพื่อแสดงความเคารพเจ้าของบ้าน
“ฉันถาม!?”
“เอ่อ..หนูกำลังวาดภาพ..” นิก้ากำลังอธิบายทว่าไม่ทันได้เอ่ยจบ
“ไร้สาระ” เขาส่ายหน้าไปมาอย่างเบื่อหน่ายกับสิ่งที่คนตัวเล็กชอบทำ
“ไม่นะคะ หนูไม่เห็นมันจะไร้สาระตรงไหน”
“กล้าเถียงฉันหรอ”
“เปล่าค่ะ อธิบายเฉยๆ”
“นิก้า!!”
“ทำไมคุณโอคาซากิต้องขึ้นเสียงใส่หนูด้วย”
“ฉันไม่ได้ขึ้นเสียง...”
“นั่นอีก ทำไมต้องทำหน้าดุ” เด็กหญิงหน้าจิ้มลิ้มชี้นิ้วไปทางใบหน้านิ่งเฉย
“นิก้า!! อย่าลามปาม”
“ชิ๊” ก่อนที่นิก้าจะย่นหน้าใส่เด็กหนุ่มทันทีที่อีกฝ่ายตวาดเธอ
“วันนี้ฉันสั่งให้เธอมาเรียนอะไร” เด็กหนุ่มร่างสูงเต็มวัยเอ่ยถามเสียงเรียบ
“เรียนยิงปืนค่ะ”
“แล้วทำไมมาอยู่ในห้องนี้”
“หนูไม่อยากเรียนนี่คะ ปืนมันอันตรายหนูไม่ชอบ”
“ไม่ชอบก็ต้องเรียน เธอจำเป็นต้องฝึกมัน”
“ไม่เอา หนูอยากวาดภาพมากกว่า”
“ฉันบอกให้เธอไปเรียนยิงปืน เธอไม่เข้าใจที่ฉันพูดรึไงห๊ะ” เด็กหนุ่มตะคอกเสียงอีกครั้ง
ทว่า...
“ไม่เข้าใจ!!” นิก้าส่ายหน้าไปมาอย่างกวนๆ ตามประสาเด็กๆ แต่กลับทำให้คนตรงหน้าโมโหกับความดื้อด้านของเธอ
“ฉันไม่ให้เธอวาดภาพอีก”
หมับ!
“คุณโอคาซากิจะทำอะไรอ่าคะ!?” เด็กน้อยเงยหน้ามองมือเด็กหนุ่มที่ถือภาพวาดของเธอ
“ไปเรียนยิงปืน!!” โอคาซากิสั่งต่อ
“ไม่เรียน!!” แต่นิก้าไม่คิดจะทำตาม
แคว่กกกก~
“คุณโอคาซากิ! ฮื่อๆ” ภาพวาดขาดออกจากกันเป็นสองชิ้นก่อนจะปลิวลอยต่อหน้าต่อตานิก้า เด็กน้อยร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
“...” โอคาซากิตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าเด็กร่าเริงอย่างนิก้าจะร้องไห้กับเรื่องแค่นี้
“ฮื่อออ ใจร้าย ฮือ!” เธอปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆ
“หยุดร้อง” โอคาซากิจึงเอ่ยปากปราบ เป็นการแสดงการปลอบอย่างหนึ่งสำหรับร่างสูง
“ฮือๆ หนูเกลียดคุณ คนใจร้าย โฮๆ”
ตึกตึก
ตึกตึก...
“นิก้า!! กลับมาเดี๋ยวนี้” เขามองตามแผ่นหลังที่วิ่งเลยประตูออกไปแล้ว ก่อนจะเอื้อมมือมากุมขมับตัวเองเพราะพลาดทำให้เด็กสาวโกรธ และตั้งแต่วันนั้น วันที่เกิดเรื่องนิก้าไม่เคยขอตามพ่อไปนั่งเล่นบ้านเจ้านายพ่ออีกเลย นอกจากมีเหตุจำเป็นที่ต้องไป ทว่านิก้ามักจะหลบหน้าพยายามไม่เจอเขาอีก...
.
.
“คุณนิก้า มายืนหลบอะไรตรงนี้ครับ”
“คุณสุกิยามะ” นิก้าเอ่ยชื่อผู้ชายตรงหน้าทันที เพราะเขาคือลูกน้องคนสนิทที่ทำหน้าที่แทนพ่อของเธอ ทำไมเธอจะไม่รู้จักเขากันล่ะ
ตึกตึก...
“เข้าด้านในเลยไหมครับ นาย!!” สุกิยามะหมุนตัวกลับไปหาผู้ชายอีกคนที่เดินมาหยุดตรงหน้าเธอ เขาเหลือบมองคนตัวเล็กเพียงเล็กน้อยก่อนจะดึงหน้ากลับเป็นปกติ
“อืม” ว่าแล้วทั้งหมดก็เดินออกไปทันที ทว่าสุกิยามะก็หันมาเอ่ยถามคนตัวเล็กอีกครั้ง
“คุณนิก้าเข้าในงานพร้อมกันไหมครับ”
“เอ่อ..หนูรอ..” ไม่ทันที่นิก้าจะพูดจบ โอคาซากิก็เอ่ยต่อ
“เข้าไปพร้อมกัน”
“ไม่..”
“พ่อเธออยู่ด้านใน” พูดจบโอคาซากิเดินนำไปทันทีตามด้วยบอดี้การ์ดสามสี่คนและนิก้าที่ยอมเดินตามไปแต่โดยดี
