ตอนที่ 6 หนีตามชู้
ว่าจบศราวุธก็ขับรถออกไป คนที่นัดกับเขาไว้จึงเดินออกมาจากที่ซ่อน พร้อมกับยิ้มหวานให้คนตรงหน้า เสกสรรก็ยิ้มตอบด้วยความดีใจพูดออกมาน้ำเสียงเจือตำหนิเล็กน้อย “ทำไมไปหลบอยู่ตรงนั้นล่ะ”
“ก็ฉันกลัวคนเห็นนี่นา” เขาคิดว่าเธอจะเบี้ยวนัดเสียแล้ว
“งั้นเราก็รีบไปกันเถอะ” เสกสรรพอจะเดาได้ว่ารถกระบะคันนั้นคือรถที่กุลชาเช่ามาให้ไปส่งในตัวอำเภอ
“เดี๋ยวก่อนสิ”
“ยังมีอะไรอีก”
“พี่เอาเงินมาด้วยรึเปล่า”
“เอามาสิ นี่ไง” เสกสรรพูดพลางหยิบเงินสี่หมื่นบาทที่ใช้หนังยางรัดออกมาจากกระเป๋าสะพายแล้วส่งให้กุลชาทั้งหมด
“พี่เสกน่ารักที่สุดเลย” กุลชายิ้มกว้างให้เขา ฝ่ายชายจึงโน้มใบหน้าลงมาหมายจะจุมพิตแฟนสาวแต่แล้วสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น
ท่อนไม้ขนาดใหญ่ฟาดเข้าที่ท้ายทอยคนที่ไม่ทันระวังตัวอย่างแรง
“โอ๊ย!” เขาร้องออกมาแค่นั้น ร่างใหญ่ก็ล้มลงไปกองกับพื้นทันที
คนที่ยืนถือไม้อยู่ส่งยิ้มให้หญิงสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าดวงตาเปล่งประกายพราวระยับ
“เขาจะตายไหมพี่”
“ไม่ตายหรอก”
“แล้วเราจะเอายังไงกับเขาดี”
“เดี๋ยวพี่จัดการเอง”
ยิ่งดึกอากาศโดยรอบก็ยิ่งหนาวจัด กลิ่นดินกลิ่นหมอกปลุกให้คนที่นอนสลบไสลอยู่ค่อย ๆ รู้สึกตัว นิ้วมือกระดิกช้า ๆ ทีละนิ้ว ทีละนิ้ว ดวงตาที่ปิดสนิทค่อย ๆ ปรือขึ้น ครู่ต่อมาดวงตาคมคายคล้ายมีแววสับสน เมื่อเบื้องหน้าของเขาคือพระจันทร์ดวงใหญ่ เขาจำได้ว่าเขาขับรถไปที่โรงพยาบาล แต่ไฉนตอนนี้เขาถึงมานอนในป่ารกเช่นนี้ได้ แถมยังรู้สึกหนาวจนสะท้านไปทั้งตัว ปกติร่างกายเขาไม่ค่อยตอบสนองต่ออากาศหนาวเท่าไรนัก เขายันกายลุกขึ้นท่ามกลางเงาจันทร์ที่กำลังส่องแสงนวลผ่อง วันนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงอย่างนั้นหรือ
เจ้าของร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนช้า ๆ กระนั้นเขาก็รู้สึกว่าตัวเองลุกขึ้นยืนได้ง่ายกว่าเดิม ซ้ำยังไม่รู้สึกปวดเข่าด้วย หรือว่าเขาจะหายจากอาการปวดเข่าแล้วจริง ๆ แต่เขากลับรู้สึกปวดท้ายทอยตุบ ๆ เอื้อมมือไปกุมไว้ เขารู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัสเข้ากับจุดที่โดนตีหัว ยืนนิ่งสักพักเพราะรู้สึกว่าพื้นดินกำลังพาหมุน เขาหลับตาลงอีกครั้ง ภาพความทรงจำของร่างนี้พลันถาโถมเข้ามาเป็นฉาก ๆ มันไม่ใช่เรื่องราวของเขา แต่เป็นเรื่องราวของคนอื่น เมื่อใบหน้าของผู้หญิงที่ชื่อกุลชาลอยเข้ามาก่อนที่เขาจะสลบไป ทันใดนั้นสติเขาก็คืนกลับมา ลืมตาขึ้นอีกครั้งแล้วก้มลงสำรวจตรวจตราร่างกายตัวเองด้วยแววตาตื่นตระหนก
เขาถกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว เหยียดแขนทั้งสองออกมาคู่กัน ลำแขนแข็งแรงมีกล้ามเนื้อชัดเจน ตามนิ้วยาว หลังมือ และท่อนแขนมีเส้นเลือดปูดนูนขึ้นมา ดูจากท่อนแขนก็พอคาดเดาได้ว่าร่างนี้น่าจะเป็นคนหล่อ คนอะไรจะหล่อยันเส้นเลือดขนาดนี้
ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งความทรงจำและร่างกายนี้ไม่ใช่ของเขา ผู้ชายคนนี้ชื่อเสกสรรเหมือนกับเขาก็จริง แต่เขามีภรรยาที่กำลังนอนป่วยอยู่ที่บ้าน พร้อมกับลูกชายหญิงอีกสองคน แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นเขายังวางยานอนหลับภรรยากับลูก และขโมยเงินภรรยาไปจนหมดเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงคนนั้น หรือว่า …
‘โยมจะได้สัตว์สองเท้าในคราวเดียวกันถึงสามตัว เพศเมียสองเพศผู้หนึ่ง’
‘นานไหมครับหลวงตา’
‘แค่ฝันตื่นหนึ่งโยมก็จะได้พบแล้ว’
เขาแค่นยิ้มออกมาด้วยความสมเพชในวาสนาของตัวเอง จะมีเมียมีลูกทั้งทีดันต้องมาอยู่ในร่างของผู้ชายที่ทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าเอาไว้กับภรรยาและลูกของตัวเอง แต่ก็ดีแล้วที่มันตายไปได้ ต่อไปนี้คนที่เหมือนตายทั้งเป็นก็คงเป็นเขาเอง
“ผมเชื่อแล้วครับหลวงตาว่ามันไม่ราบรื่นจริง ๆ” ทำเรื่องเลวทรามไว้ขนาดนี้ แล้วเขาจะมีชีวิตรอดไปถึงเมื่อใด คิดแล้วก็อยากตายให้รู้แล้วรู้รอด ให้มีเมียมีลูกแต่ต้องให้มารับกรรมแทนผู้ชายเฮงซวยคนนี้อีก ถ้าให้เกิดใหม่แบบนี้อย่าให้เกิดเสียดีกว่า ไม่หนำใจ ยังให้เขาย้อนกลับมาในปีพอศอสองพันห้าร้อยสามสิบเจ็ดอีก ก็ยังดีที่มีไฟฟ้าใช้แล้ว
เขาถอนหายใจออกมายาว ๆ “เอาวะ เป็นไงเป็นกัน” อย่างน้อยเขาก็ผอมลงมาก และไม่ได้รู้สึกปวดเข่าอีกแล้ว ยังไงก็ต้องยอมแลก
