ตอนที่ 2 ต้องจำด้วยเหรอ
ย้อนกลับไปเมื่อเขายังเล็ก
เสียงทะเลาะของพ่อแม่ดังลั่นออกมาจากห้องทำงานชั้นล่าง ไรวินท์อายุเจ็ดขวบเห็นภาพพ่อแม่ทะเลาะตบตีกันตลอด พ่อรวยเจ้าชู้มีเมียเก็บหลายบ้าน แม่ก็หึงหวงมีชายอื่นประชดสามีทำให้ทั้งสองทะเลาะกันบ่อยครั้ง ไรวินท์ไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่ เขาได้แต่นั่งเก็บตัวร้องไห้ฟังเสียงพ่อแม่สาดคำหยาบและทุบตีด้วยความโกรธ เหตุการณ์ในวัยเด็กฝังใจว่าความรักไม่มีอยู่จริง คนมากมายบอกว่ารักกันเมื่อเวลาผ่านไปก็จืดจางกลายเป็นเห็นแก่ตัวเองมากกว่าคนที่เคยบอกว่ารัก เขาคิดว่าความรักมันช่างเลื่อนลอยไร้ค่าเลยปิดกั้นตัวเองไม่ให้รักใครและไม่รับความรักจากใครด้วยเช่นกัน
ปัจจุบัน
ไรวินท์พันผ้าขนหนูรอบเอวเดินออกมาจากห้องน้ำ สักพักเสียงข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้นเขาเลยเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่าน
ข้อความจากเลขา : วันนี้ไม่มีเซ็นเอกสาร ไม่มีประชุม คุณวินไปที่คอนโดของแจนไหมคะ
ข้อความจากไรวินท์ : วันนี้ผมต้องไปทานอาหารกับครอบครัวภรรยา
เมื่อพิมพ์ข้อความเสร็จไรวินท์เดินตรงไปยังห้องเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยตู้สูงมีตู้กระจกอยู่ตรงกลางสำหรับวางนาฬิกา กระเป๋าสตางค์หลายสิบชิ้น สายตาคมเคลื่อนมองเลือกเสื้อผ้ากระเป๋าสตางค์และนาฬิกามาสวมใส่จนหล่อเนี้ยบยิ่งมีเสน่ห์
ร้านเพชรขนาดใหญ่ภายในห้างสรรพสินค้า
ร้านเพชรของครอบครัวปาลิตามีหลายสาขา โดยสาขานี้ปาลิตามีหน้าที่ดูแลและรับผลกำไรจากสาขาเพียงคนเดียว ด้านหลังร้านปิดทึบสำหรับพนักงานปาลิตานั่งเช็ดทำความสะอาดเพชรกับพนักงานอีกคน สักพักพนักงานคนหนึ่งสแกนบัตรเปิดประตูเดินเข้ามาด้านใน
“คุณวินมารอค่ะ” พนักงานโน้มหน้าอ่อนน้อม
“ให้รอไปก่อนบอกว่าทำงานอยู่....” ปาลิตาเหล่มองหางตา มือเรียวสวมถุงมือขาวถือแหวนเพชรเม็ดโตส่องแสงประกาย
“ค่ะ” พนักงานรับคำรีบเดินออกไปข้างนอก ไม่นานนักพนักงานคนเดิมก็เดินกลับเข้ามา
“คุณวินบอกว่าให้ออกไปหาเดี๋ยวนี้ค่ะ” พนักงานท่าทางประหม่ากลัวโดนเจ้านายดุ
“เอาแต่ใจ บอกเขาว่าต้องรอ” ปาลิตาหงุดหงิดที่เขาชอบเอาแต่ใจ
“พี่ไม่ชอบรอ” เสียงไรวินท์ดังขึ้นด้านหลังพนักงานที่สะดุ้งยืนหน้าเจื่อน
“ก็ไม่ต้องรอ กลับไปสิ” ปาลิตาทำเป็นไม่สนก้มหน้าก้มตาเช็ดทำความสะอาดเพชร
“กลับไม่ได้ วันนี้พี่ชวนคุณพ่อคุณแม่ทานอาหารจีนที่ร้านอาหารเปิดใหม่” ไรวินท์ไขว้มือไว้ข้างหลังเมื่อพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปหน้าร้านทันทีเพราะรู้ว่าในห้องนี้มีเครื่องประดับมีค่ามากมายและไม่อนุญาตให้คนนอกเข้า ปาลิตาหันขวับมองสามีอย่างขุ่นเคืองวางเพชรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ลงบนโต๊ะเดินหงุดหงิดหน้าง้ำไปคุยกับสามีข้างนอก
“ก่อเรื่องทีไรก็มาทำดีด้วย ตบหัวลูบหลังชัด ๆ” ปาลิตายืนกอดอกมองสามีนั่งไขว่ห้างสบายใจ
“ใครกันแน่ที่ก่อเรื่อง ทะเลาะเสียงดังแต่เช้าแถมไปแก้ผ้าเขาอีก” เขาลอยหน้าลอยตาไม่สำนึกผิดกลับหรี่ตามองภรรยาที่แผลงฤทธิ์ให้คนอื่นอับอาย
“พี่ปล่อยให้เขาล้ำเส้นลิตาก่อน” ปาลิตาเสียงแข็งไม่พอใจเขาพูดเหมือนเธอไปหาเรื่องผู้หญิงของเขา
“พี่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าไปกวน”
“ผู้หญิงคนไหนก็กล้าหยามลิตาเพราะพี่บอกทุกคนว่าไม่ได้รักเมียแล้วยังพาเธอมาพลอดรักถึงในบ้านอีก ในเมื่อสามีไม่เคยให้เกียรติก็เป็นธรรมดาที่พวกเธอจะคิดว่าลิตาไม่มีเกียรติ” ปาลิตาได้โอกาสต่อว่าสามีแต่ทำไมถึงรู้สึกเจ็บจี๊ดหัวใจนักเพราะมันเป็นความรู้สึกภายในเสียใจที่โดนหยามเกียรติ ไรวินท์แววตาวูบไหวเงยมองภรรยานิ่ง ๆ เถียงไม่ออก
“ทำเหมือนงอนพี่เลยหรือว่าหึง” ริมฝีปากหนายกยิ้มแกล้งแซวกลบเกลื่อนความรู้สึกผิด
“ไม่หึงหรอกค่ะ แต่ไม่ชอบโดนหยาม” ปาลิตาเสียงเหวี่ยงกอดอกปากแบะ
“คราวหลังจะระวังแล้วกัน”
“พูดอย่างนี้ทุกที น่าเบื่อ...” หน้าสวยมองเหวี่ยงสะบัดใส่สามีคอแทบหัก ไรวินท์ลอบถอนหายใจกลอกตาไปมาไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเธอถึงจะหายงอน
“ลิตา....” เสียงทุ้มดังขึ้นทางด้านหลังคือชายหนุ่มหล่อสมาร์ตหอบดอกกุหลาบขาวช่อโตเดินเข้ามาภายในร้านเพชร ปาลิตาหันไปมองตามเสียงเรียก
“ธี......” เธอยิ้มหวานเปลี่ยนอารมณ์ทันที ด้านไรวินท์มองท่าทางภรรยายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างหมันไส้รีบลุกขึ้นเดินไปโอบไหล่ภรรยาก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเดินเข้ามาถึงตัวเธอ ธีรเดชชะงักยิ้มหน้าเจื่อน
“คุณคือสามีลิตา?”
“ใช่ครับ ผมไรวินท์สามีลิตา” ไรวินท์ยกยิ้มมุมปากแววตาเรียบเฉยจ้องหน้าชายหนุ่มที่ทำให้ภรรยาเขายิ้มหวานหยาดเยิ้มได้ขนาดนั้น
“ผมธีรเดช ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ธีรเดชแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร
“ครับ ยินดีเช่นกัน หอบดอกไม้ช่อโตมาฝากภรรยาผมเหรอครับ” ไรวินท์ตอบรับตามมารยาทแล้วมองช่อดอกกุหลาบขาวในมือธีรเดช
“ใช่ครับ ผมมาสุขสันต์วันเกิดลิตา....” ธีรเดชอมยิ้มหันไปมองปาลิตาพร้อมกับส่งช่อดอกไม้ให้กับเธอ ปาลิตายิ้มกว้างดีใจ
“ขอบใจนะ ธีไม่เคยลืมวันเกิดเราและยังจำได้อีกว่าเราชอบกุหลาบขาว” เสียงหวานกระแหนะกระแหนสามีด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มกับเพื่อนแต่ตาขวางไปทางสามีที่ยืนไม่รู้สึกรู้สา
“ธีไม่เคยลืมวันสำคัญกับความชอบของลิตา....” ธีรเดชยังส่งยิ้มให้ปาลิตาตลอดเวลาที่สนทนากันทำให้ไรวินท์รู้สึกหงุดหงิด
“ฮึ่ม!” ไรวินท์แกล้งกระแอมขัดจังหวะ ธีรเดชหุบยิ้มหน้าเจื่อน
“คุณวินมารับลิตาไปฉลองวันเกิดเหรอครับ”
“ครับ ผมจองร้านอาหารไว้ทานกับครอบครัวภรรยา” ไรวินท์ยืดคอเบ่งอกสีหน้าบึ้งตึง ธีรเดชหลุบตาลงรู้ว่าไรวินท์ไม่ค่อยชอบใจเขามากนัก
“ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวน.....ไว้ไปฉลองย้อนหลังกันนะ”
“จ้ะ ไว้นัดกัน” ปาลิตาโบกไม้โบกมือกับธีรเดชซึ่งเขาก็โบกมือให้เธอเช่นกัน ไรวินท์มองธีรเดชเดินออกจากร้านเพชรด้วยสายตาพิฆาต
“พี่ลืมวันเกิดลิตา?” เธอหุบยิ้มตาขวางใส่สามีที่ยืนอยู่ข้างกาย
“ก็แค่วัน ๆ หนึ่ง ต้องจำด้วยเหรอ..........” มือหนาคลายจากไหล่บางพร้อมกับน้ำเสียงเรียบเฉยหน้าตาไม่ยินดียินร้าย
“นิสัย.....ชีวิตนี้เคยใส่ใจอะไรบ้าง” ปาลิตาบ่นอุบดันเขาออกห่างก่อนจะเดินกลับเข้าไปหลังร้านหยิบกระเป๋าออกไปทานอาหารกับครอบครัวและสามีตัวแสบ
