บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 12 เมียหาย

ร้านเพชรหรูในห้างสรรพสินค้าสี่ปีก่อน

ปาลิตาเดินตรวจความเรียบร้อยในสาขาหลังจากได้รับหน้าที่ดูแลเพียงคนเดียว ร่างสูงระหงสวมรองเท้าส้นสูงชุดสีขาวตามสีโปรดของคนสวมใส่ดีไซน์เรียบหรูทุกอย่างที่อยู่บนเรือนร่างเป็นของแบรนด์เนมทุกชิ้นไม่เว้นแม้แต่กิ๊บติดผมที่ประดับอยู่บนผมดำขลับเป็นลอนยาวถึงเอว มือเรียวจับแหวนเพชรในตู้กระจกใบเล็กที่เอียงเล็กน้อยให้เข้าที่สายตาสวยเพ่งมองภายในตู้เครื่องเพชรไม่ทันมองว่ามีชายหนุ่มหล่อสูงสมาร์ตถือช่อดอกไม้มาหยุดยืนดูเธออยู่สักพัก

“เพชรเม็ดงาม...” ไรวินท์ตาหวานเยิ้มมองหญิงสาวคนสวยที่เหมาะสมกับเขา

“ใช่ค่ะ เพชรในร้านน้ำงามทุกชิ้น” หญิงสาวเหล่มองหางตาก้มหน้าจัดเครื่องเพชรในตู้

“พี่หมายถึง.......ลิตา” คำพูดหวานหูผสมกับสายตากรุ้มกริ่มทำให้หญิงสาวเขินแต่ฝืนเก็บอาการทำนิ่งไม่ให้เขารู้ว่ากำลังอาย

“มาพูดหวาน ต้องการอะไรอีกคะ”

“ก็เหมือนทุกวัน แต่งงานกับพี่” น้ำเสียงทุ้มนุ่มลึกจริงจัง มือเรียวชะงักถอยออกจากเครื่องเพชรแล้วปิดตู้กระจก

“ไม่ค่ะ”

“คุณป้ายังไม่ได้บอกว่าครอบครัวลิตากำลังประสบปัญหาจากการตีกลับสินค้าทางฝั่งตะวันออกทำให้ขาดสภาพคล่อง ต้องให้คุณปู่พี่ช่วย” ไรวินท์เลิกคิ้วขึ้นกระตุกยิ้ม

“........พอรู้เรื่องบ้างนิดหน่อย.......มันไม่น่าแย่ขนาดนั้น”

“บางทีพ่อแม่ก็ชอบปิดบังให้เราสบายใจ คุณปู่อยากช่วยนะถ้าลิตายอมมาเป็นสะใภ้ท่าน” ริมฝีปากหนายกยิ้มเจ้าเล่ห์ ปาลิตานิ่งอึ้งหลุบสายตาลงก่อนจะเดินเลี่ยงไปยังห้องพนักงานเพื่อโทรศัพท์ไปถามแม่

“รีบตัดสินใจด้วย พี่ไม่ชอบรอนานอาจเปลี่ยนใจไม่แต่งก็ได้” ไรวินท์ไม่วายพูดตามหลังมองเธอเดินไปอย่างรวดเร็ว

หลังบริษัทขาดสภาพคล่อง คุณปู่ได้เข้ามาช่วยติดต่อและกระจายสินค้าได้ในที่สุดและข้อเสนอของการช่วยเหลือต้องดำเนินไปตามนั้นปาลิตาแต่งงานกับไรวินท์พร้อมกับข้อต่อรองเห็นแก่ตัวของเขา อันที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องลงทุนแต่งงานกระชับสัมพันธ์กับเขาก็ได้ทางเลือกในการดำเนินธุรกิจยังมีอีกหลายทาง ทว่าใจลึก ๆ แล้วเธอแอบชอบไรวินท์เลยอยากใกล้ชิดกับเขาสักครั้งเผื่อว่าวันหนึ่งเขาจะยอมใจอ่อนให้เธอ

ปัจจุบัน ณ รีสอร์ตชายทะเล

ปาลิตาเดินมาหยุดหน้าห้องอาหารที่ปิดไฟมืด อ่านข้อความบนกระจกปิดเวลาสามทุ่ม ร่างบางถอนหายใจมัวแต่เดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนห้องอาหารปิดเลยเดินไปหาพนักงานต้อนรับ

“แถวนี้มีร้านอาหารใกล้ ๆ บ้างไหมคะ ฉันไม่อยากขับรถดึก ๆ ต่างถิ่นคนเดียว”

“ร้านอาหารอยู่ไกลต้องเข้าไปตัวเมืองค่ะ คุณลูกค้าสะดวกทานอาหารบ้าน ๆ ไหมคะข้างรีสอร์ตมีร้านขายส้มตำน้ำตกที่พนักงานไปทานกัน คุณลูกค้าให้พนักงานไปซื้อมาให้ทานได้ค่ะ” พนักงานบอกด้วยกังวลว่าลูกค้าจะหิว

“ไกลไหมคะ”

“ตรงแสงไฟสีแดงสีเขียวนั้นค่ะ” พนักงานผายมือไปทางชายหาดที่อยู่ไม่ไกลนัก ปาลิตาชะเง้อมองตาม

“เดี๋ยวฉันไปเองดีกว่า ขอบคุณนะคะ”

ปาลิตาเดินลงบันไดรีสอร์ตเหยียบลงพื้นทรายสีขาวสะอาด มาที่นี่ทั้งวันเพิ่งได้เหยียบทรายเท้าเรียวก้าวเดินไปเรื่อย ๆ ชายหาดตรงนี้ค่อนข้างเป็นพื้นที่ส่วนตัวไม่ค่อยน่ากลัว ระหว่างที่เดินไปยังร้านค้าก็นึกโมโหสามีที่ทิ้งเธอไว้คนเดียวเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหวังขัดจังหวะเขาระเริงสุขกับเลขา

ปลายสายรับโทรศัพท์เสียงดังอึกทึกเข้ามาในสายจนเธอต้องยื่นโทรศัพท์ออกห่างหู

“ว่าไง” ไรวินท์พยายามตะโกนคุยแข่งกับเสียงดนตรีดังและเสียงผู้คนมากมายเพราะเขาพาผู้ใหญ่ในพื้นที่มาเที่ยวเอ็นเตอร์เทน

“พี่ทิ้งลิตาอยู่ที่ห้องคนเดียวได้ไง ลิตารอพี่มาชวนไปทานอาหารจนครัวปิดแล้วลิตาจะกินอะไร!” เสียงหวานตะโกนกลับให้เขาได้ยิน

“กินขนมรองท้องไปก่อน ไม่เกินสองชั่วโมงจะซื้ออาหารเข้าไปให้”

“ไม่ต้อง!” เธอกระแทกเสียงแล้วกดวางทันทีฉุนเฉียวคำพูดของสามีทำเหมือนเธอเป็นสุนัขที่ต้องรอเขาเอาอาหารมาให้ หน้าสวยง้ำงอเดินกระฟัดกระเฟียดมาถึงร้านส้มตำประดับไฟหลอดยาวสีเขียวเหลืองแดงทั่วร้าน เสียงโครกครกกับกลิ่นปลาร้าลอยมาแต่ไกล ทำน้ำลายสอแอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความหิว

ปาลิตาเดินเข้ามาในร้านที่วางโต๊ะญี่ปุ่นเล็ก ๆ บนเสื่อผืนใหญ่วางทับพื้นทราย มีลูกค้าโต๊ะเดียวเป็นชายหญิงนั่งทานอาหารกันอยู่สามคน

“คุณลูกค้ารีสอร์ตนี่ครับ” พนักงานที่เจอปาลิตาหน้าห้องจัดเลี้ยงเงยมองลูกค้าคนสวยกำลังยืนเก้ ๆ กัง ๆ

“ใช่ค่ะ ฉันมาทานอาหาร ร้านยังไม่ปิดใช่ไหมคะ” หญิงสาวยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

“ยังไม่ปิดค่ะ ร้านเปิดถึงเที่ยงคืนรอขายพนักงานรีสอร์ตเลิกงาน จะรับอะไรดีคะ” แนนลูกสาวเจ้าของร้านลุกขึ้นถือเมนูอาหารมายื่นให้ปาลิตา เธอก้มอ่านแต่ละเมนูน่าทานจนเลือกไม่ถูกเลยก้มมองโต๊ะข้าง ๆ เห็นจานสี่ใบเกือบหมดเกลี้ยงเลยคิดว่าน่าจะอร่อย

“......ฉันเอา.....แบบโต๊ะนี้ค่ะ”

“มันเยอะนะคะ” แนนก้มมองแล้วค้านขึ้น

“ค่ะ ฉันอยากลองทุกเมนู” ปาลิตายิ้มอ่อนเดินไปนั่งที่โต๊ะข้าง ๆ แนนไปบอกเมนูแม่ที่หลังครัวแม่ชะเง้อมองแปลกใจที่มีคนสวยอย่างกับนางงามมานั่งในร้านส้มตำบ้าน ๆ

“ที่รีสอร์ตมีนางแบบมาถ่ายแบบด้วยเหรอลูก”

“ไม่ใช่หรอก แค่ลูกค้าที่มาพักในรีสอร์ต สวยเกินเอนะเหมือนไม่มีอยู่จริง คนพวกนี้เขาเคยเป็นสิวกันบ้างไหมนะ” แนนแอบมองปาลิตาด้วยความอิจฉาอยากสวยไร้ที่ติเหมือนลูกค้า

ปาลิตานั่งเหงา ๆ เขี่ยโทรศัพท์ข้างโต๊ะของพนักงาน เมื่ออาหารวางบนโต๊ะมันเยอะมากจนทานคนเดียวไม่หมดแน่ ๆ เลยหันไปชวนพนักงานโต๊ะข้าง ๆ ให้หันมาทานร่วมกัน เวลาผ่านไปหลังจากทานอาหารไปด้วยดื่มแอลกอฮอล์ไปด้วยความเก้อเขินก็หมดไปพูดคุยสนิทราวกับเป็นเพื่อนกันมานับปี

“กลับไปห้องพัก คล้องพระตอนนอนด้วยนะ” ผู้จัดการรีสอร์ตคนพูดอ้อแอ้หน้ามึน

“ทำไมล่ะ” ปาลิตาถามกลับตาหวานฉ่ำเมาได้ที่

“ที่รีสอร์ตมีผีน่ะสิ เขาเจอกันมาเยอะแล้ว”

“จริง วันนั้นแนนไปปูที่นอนในห้องใหญ่ โอ้โห เจอเงาดำที่หัวเตียงชัดมาก.........” แนนที่มีอาชีพหลักเป็นแม่บ้านของรีสอร์ตพูดเสริมทำท่าขนลุกมองไปทางรีสอร์ตหวาด ๆ

“รีสอร์ตเพิ่งเปิดมีผีได้ไง” ปาลิตาขมวดคิ้วสงสัย

“เจ้าที่เจ้าทางแน่ ๆ สร้างรีสอร์ตใหญ่โตแต่ไม่บอกกล่าวศักดิ์สิทธิ์ท่านคงมาเตือน” แนนหน้าตาจริงจัง

“ให้ไปหลอกห้องเจ้าของรีสอร์ตเลย” เด็กเสิร์ฟชายเสียงดังขึ้น ปาลิตาห่อตัวลงหน้าเจื่อน

“ห้องเจ้าของเลยเหรอ ไม่ดีมั้ง” เสียงหวานอ่อนลงเธอนอนห้องเดียวกับสามีถ้าเขาถูกหลอกเธอก็ถูกหลอกด้วย

“ดีสิจะได้ทำพิธีให้ถูกต้องพวกเราจะได้ไม่ต้องกลัว เงินเดือนเยอะสวัสดิการดีติดที่มีผีใครจะไปอยู่ไหว” แนนหน้ามุ่ยหันไป พยักพเยิดหน้ากับผู้จัดการและเด็กเสิร์ฟที่นั่งดื่มกันจนเมามาย...........

ณ ห้องพักหรูติดชายทะเล

ไรวินท์แตะคีย์การ์ดเปิดประตูห้องที่มืดสนิทอากาศอุ่นในห้องทำให้รู้ว่าภรรยาไม่ได้อยู่ในนี้สายตาคมกวาดมองรอบห้องก่อนจะปิดประตูหยิบโทรศัพท์มาโทรหาภรรยาทันที เสียงสายเข้าในโทรศัพท์ของปาลิตาถูกกลบด้วยเสียงร้องเพลงเคาะขวดเหล้าเข้าจังหวะกันสนุกสนาน ไรวินท์หน้าเครียดร้อนใจทั้งห่วงและกังวลรีบวิ่งไปแผนกต้อนรับ

“เห็นภรรยาผมไหม!” เสียงทุ้มร้อนรนขมวดคิ้วหน้าเครียด

“ดิฉันไม่ทราบว่าคนไหนเป็นภรรยาคุณวินค่ะ”

“หน้าสวย ๆ ผิวขาวสว่าง ๆ สูงหุ่นดี”

“มีค่ะ เธอเดินไปทานอาหารที่ร้านส้มตำค่ะ” พนักงานต้อนรับผายมือไปทางขวาที่มีแสงไฟของร้านส้มตำ

“ขอบคุณครับ” ไรวินท์รีบวิ่งไปยังร้านส้มตำด้วยความเป็นห่วงค่ำมืดดึกดื่นไฟก็สลัวเขากลัวว่าคนสวยอย่างเธอจะโดนใครพาไปทำไม่ดี ร่างหนากระหืดกระหอบเหงื่อชุ่มหน้ามาถึงร้านส้มตำเขามองหาภรรยาภายในร้านซึ่งไร้เงา ไรวินท์หน้าเสียใจคอไม่ดีหันหลังจะวิ่งกลับไปหาภรรยาตามเส้นทางอื่น

“คุณวินมาทำอะไรครับ” ผู้จัดการเห็นไรวินท์พอดีเลยลุกขึ้นถามตัวเอน

“ผมมาหาภรรยา พวกคุณเจอผู้หญิงหน้าสวย ผิวขาว...” ไรวินท์รีบพูดอย่างกระวนกระวายกังวลว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับภรรยา

“ได้ปลาหมึกย่างแล้วทุกคน!” เสียงหวานของภรรยาแทรกดังขึ้น ไรวินท์ชะงักมองไปทางต้นเสียงหัวใจที่ร้อนรนเหมือนถูกคลายล็อกโล่งอกเมื่อเห็นเธอปลอดภัย ปาลิตาหุบยิ้มมองเคืองสามีก่อนจะเดินถือถุงปลาหมึกบดมายังโต๊ะญี่ปุ่นที่เพื่อนใหม่นั่งอยู่

“เดี๋ยวผมไปช่วยหาภรรยานะครับ” ผู้จัดการบอกกับไรวินท์ทำท่าจะเดินออกจากร้านแต่เซเกือบล้มหน้าคะมำไรวินท์รีบจับแขนผู้จัดการดึงไว้ได้ทัน

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องหาแล้ว” ไรวินท์กดเสียงต่ำก่อนจะหันไปมองภรรยาที่นั่งพับเพียบเปิดถุงกระดาษเทปลาหมึกบดใส่จานเปล่า

“เชิญทานอาหารกับพวกเราก่อนไหมคะ” แนนยิ้มแหย ๆ กลบเกลื่อนความเซ็งที่เจ้านายมาเห็นพวกเขาเมา ไรวินท์พยักหน้านั่งลงเล่นเอาพนักงานทั้งสามที่ชวนตามมารยาทถึงกับตัวเกร็งไม่คิดว่าเจ้านายจะนั่งทานด้วยจริง ๆ

“ปลาหมึกบดอร่อยนะครับ” พนักงานเสิร์ฟรีบหยิบจานยื่นให้ไรวินท์ที่กลั้นหายใจเมื่อได้กลิ่นปลาหมึกแห้ง ปาลิตาดึงจานปลาหมึกกลับ

“ฉันเป็นคนไปซื้อเพื่อนฉันรอกินอยู่ คุณจะมากินก่อนได้ไง....” หน้าสวยขึงขังมองสามีอย่างขุ่นเคือง ไรวินท์จ้องหน้าภรรยาเอื้อมมือไปหยิบปลาหมึกบดตรงหน้าเธอมากินทั้งที่ไม่ชอบกลิ่นแต่อยากกวน

“อร่อยดี ลองชิมสิครับ” หน้าหล่อยียวนยั่วประสาทภรรยา

“ไม่ต้องชวนนี่มันของฉัน” ปาลิตาหน้างอหายใจแรงฉุนเฉียว

“เอ่อ......คุยกันดี ๆ ก่อนไหมครับ” ผู้จัดการเห็นท่าไม่ดีเลยเอ่ยห้าม

“ไม่!” สองสามีภรรยาหันขวับไปตวาดผู้จัดการพร้อมกัน เพื่อนใหม่ทั้งสามของปาลิตานั่งอึ้งอ้าปากหวอ

“เป๊ะเลย หน้าสวย ๆ ผิวขาว.....” แนนเสียงแผ่วหน้าเจื่อน ผู้จัดการกับพนักงานเสิร์ฟหันขวับไปมองแนน

“ฉิบหายแล้วพวกเรา.......พูดไปเยอะด้วย” ผู้จัดการกลืนน้ำลายลงคอหมดกันอนาคตรายได้เยอะเพื่อส่งลูกเข้าโรงเรียนเอกชน

“ทำใจนะพี่ ตัวใครตัวมัน......” พนักงานเสิร์ฟหน้าซีด ทั้งสามทิ้งตัวห่อลงหมดเรี่ยวแรงสร่างเมาแบบฉับพลัน

“หมดเวลาสนุกแล้ว.....” ไรวินท์จ้องหน้าภรรยาที่นั่งหน้าตึงหยิบปลาหมึกบดจิ้มน้ำจิ้มแล้วเอาเข้าปาก

“ไม่ค่ะ ลิตายังสนุกกับเพื่อน ๆ อยู่” เธอเคี้ยวปลาหมึกเหล่มองสามี ไรวินท์หันขวับไปมองเพื่อนทั้งสามของเธอ ทุกคนสะดุ้งหน้าตาเหลอหลา

“กลับเถอะ พวกเราก็จะกลับแล้ว เนอะ ๆ” ผู้จัดการแสยะยิ้มเพื่อนใหม่พยักหน้ากันรัว ๆ ปาลิตาพ่นลมอย่างขัดใจ

“กลัวเขาเหรอ ไม่ต้องกลัวหรอกผู้ชายคนนี้ไม่ได้น่ากลัว......” หน้าสวยยื่นเข้าใกล้เบะปากใส่สามีใกล้ ๆ ไรวินท์ยื่นหน้าประชิดน้ำเสียงนุ่มลึก

“กลัวไว้บ้างก็ดี”

“ชิ!” เธอสะบัดหน้าหนีเขินแววตามีเสน่ห์ของสามี ไรวินท์ลุกขึ้นยืนปัดเศษทรายที่ติดบนขากางเกงสแลคไปทางภรรยา

“พี่วิน....” มือบางยกปิดหน้าก่อนจะเงยมองขุ่นเคือง

“เร็ว ๆ พี่เหนื่อย” เขามองหางตาแล้วหันไปมองเพื่อนใหม่สามคนของภรรยา

“ขอบคุณที่เป็นเพื่อนคุยและดูแลภรรยาผมอย่างดี สิ้นเดือนนี้รอรับคำขอบคุณในบัญชีเลยนะครับ” ไรวินท์ยิ้มเป็นมิตรก่อนจะโน้มลงดึงแขนภรรยาขึ้น ปาลิตาหน้ามุ่ยยืนขึ้นเซ็ง ๆ

“พี่ก็ดีแต่ใช้เงินแก้ปัญหา”

“ใช้บ่อย ๆ ก็ได้ค่ะ พวกเราไม่ติด” แนนรีบพูดแล้วนึกได้ว่าเธอเป็นภรรยาเจ้าของรีสอร์ตเลยรีบยกมือปิดปาก

“แนน.....” ปาลิตาลากเสียงยาวมองเคือง

“โชคดีนะคะ คุณผู้หญิง” แนนยิ้มแห้ง เพื่อนใหม่ทั้งสามโบกไม้โบกมือปากยิ้มแต่หน้าซีดไปตาม ๆ กัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel