ตอนที่ 4.1 ไม่คิดเดินตามแผน
“เอ่อ...คุณชายปล่อยมือข้าได้แล้วเจ้าค่ะ”
“เจ้าจะไปที่ไหน”
เฟิงหลิวปล่อยมือนางหลังเดินห่างหอนางโลมออกมาระยะหนึ่ง หันสายตามองคนที่เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตากันตั้งแต่ก้าวขาออกมาจากหอคณิกา
ลั่วหยางเม้มริมฝีปากแน่น จะให้บอกออกไปได้ยังไงว่านางไม่มีที่ให้ไป หากกลับบ้านคงไม่วายถูกคนที่บ้านทุบตีไม่ก็ถูกนำมาขายอีกครั้ง
“ไม่มีที่ไปก็ตามหลังข้ามา”
“ตะ...แต่ว่าตัวข้า”
“เงียบปากและตามข้ามาก็พอ”
“...”ลั่วหยางเก็บปากเก็บคำ เดินก้มหน้ามองพื้นตามหลังเฟิงหลิว
ทว่าไม่นานจากนั้นกับได้ยินเสียงถอนหายใจยาวจากคนตรงหน้า พอเงยหน้าขึ้นมองดวงตาจึงสบเข้ากับนัยน์ตาเหนื่อยหน่ายใจ
“...”
“เอาแต่ก้มหน้าเดี๋ยวก็สะดุดล้มหัวทิ่มกันพอดี ตามมาข้ามาดี ๆ”
ฝ่ามือหนายื่นออกมาจับกุมมือบอบบางเอาไว้แน่น หันหลังเดินหน้าต่อไม่ได้สนใจเลยว่าคนถูกดึงเบา ๆ จะมีท่าทางและสีหน้าอย่างไร
ทั้งสองคนก้าวเดินไม่เร็วไม่ช้าไปตามทางเดิน
ลั่วหยางมองตามแผ่นหลังเฟิงหลิวเงียบ ๆ ไม่รู้ว่าเพราะเขารับรู้ได้ว่าช่วงจังหวะก้าวเดินของนางกับเขาแตกต่างกันหรืออย่างไร หลังเดินต่อสักพักเฟิงหลิวถึงได้ลดจังหวะการเดินลงพอให้นางสามารถก้าวตามได้สบาย ๆ
ทั้งสองคนเดินต่อไปเงียบ ๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาราวกับว่าไม่มีเรื่องราวใดให้ต้องพูดคุยกัน จนกระทั่งคนนำทางหยุดฝีก้าวลง
“อึก”
“มัวเหม่ออะไรอยู่”
“ขะ...ข้าขอโทษเจ้าค่ะ”ลั่วหยางยกมือขึ้นลูบจมูกเบา ๆ เมื่อสักครู่นางเหม่อคิดเรื่องของเขาจริง ๆ นั้นแหละ ถึงขั้นไม่ได้สังเกตเลยว่าเฟิงหลิวหยุดเดินแล้ว
“ในเมื่อเจ้าไม่มีที่ให้ไปก็พักที่นี่ไปก่อน ที่นี่เป็นสถานที่ส่วนตัวของข้าไม่ต้องกังวลว่าใครจะมารบกวนเจ้า หลังข้าจัดการเรื่องบางอย่างเรียบร้อยแล้วจะมาหาเจ้า”
แต่หากเรื่องที่ข้าฝันไม่ใช่ความจริงข้าจะปล่อยเจ้าไป แน่นอนเฟิงหลิวไม่ได้เอ่ยประโยคสุดท้ายออกไป ชายหนุ่มทำเพียงเปิดประตูพาคนข้างกายเข้ามาด้านในเท่านั้น
“ข้าอยู่ที่นี่ได้หรือเจ้าคะ”
“เจ้าอยู่ได้นานจนกว่าข้าจะมาเป็นคนพาเจ้าออกไปหรือเจ้าต้องการจากไปเอง”
ลั่วหยางใช้สายตากวาดมองพื้นที่รอบกาย ภายในกำแพงสูงกว่าหนึ่งจั้งด้านในมีต้นไม้ใหญ่ปลูกเอาไว้เกือบเต็มพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีบ้านหลังเล็กหลังหนึ่งตั้งตระหง่านท่ามกลางต้นไม้มากมาย
“บ้านอาจจะหลังเล็กไปสักหน่อยเพราะมีเพียงข้าที่เข้ามาใช้งาน...เจ้าอยู่ได้ใช่ไหม”
“...”
“...”
“...อ่ะ เอ่อ เมื่อสักครู่คุณชายพูดว่าอะไรนะเจ้าคะ”
เฟิงหลิวมองสตรีตรงหน้า นางคงจะชอบบ้านหลังนี้สินะถึงได้เอาแต่มองไม่ได้สนใจเลยว่าเขาพูดอะไร
“ข้าถามว่าเจ้าอยู่ได้ไหม ชอบหรือไม่ ?”
“อยู่ได้เจ้าค่ะ ข้าชอบมันมาก”
“เจ้าชอบก็ดีแล้ว”เฟิงหลิวกล่าว ก่อนจะหยิบเงินในถุงเสื้อส่งให้ลั่วหยาง
“ตอนนี้ในมือเจ้าคงไม่มีเงินนำเงินนี้ไปซื้อของกินแล้วกัน ข้าไปไม่นานแล้วจะกลับมา”
“จะ...เจ้าค่ะ ขอบคุณคุณชายมากที่ช่วยเหลือข้า”ลั่วหยางเกรงใจอีกฝ่ายมาก ทว่าชีวิตของนางไม่ได้มีตัวเลือกมากมายนัก จะให้เอ่ยปากปฏิเสธน้ำใจเขา ตัวนางในตอนนี้มีสิทธิ์ทำเช่นนั้นด้วยหรือ ?
หากไม่ได้เฟิงหลิวตอนนี้นางคงจะยังอยู่ในหอนางโลม ถูกลูกค้าสักคนซื้อไปใช้งาน ไม่มีทางได้มาใช้ชีวิตในบ้านแสนเงียบสงบอย่างนี้เป็นแน่
“คุณชายข้าสัญญาว่าจะตอบแทนน้ำใจของท่านแน่นอนเจ้าค่ะ”
เฟิงหลิวมองสตรีที่กอดเงินไม่กี่ตำลึงพร้อมส่งยิ้มมาให้
นางในความฝันไม่ได้ยิ้มกว้างให้เขาเช่นนี้ ทุกครั้งที่ได้สบตากัน เขาจะทำหน้าไม่พอใจอยู่เสมอ ส่วนนางก็มักจะเผยสีหน้าหวาดกลัวเศร้าหมองพร้อมร่างกายสั่นน้อย ๆ
“ข้าไปแล้วดูแลตัวเองให้ดี”
ลั่วหยางมองตามแผ่นหลังเด็ดเดี่ยวออกไปจนลับสายตา รอยยิ้มกว้างที่ประดับใบหน้าเองก็ไม่จางหาย กลับกันรอยยิ้มของนางยิ่งสดใสเปล่งประกายมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
“คุณชายยังคงใจดีเหมือนเดิม ถึงเมื่อคืนคุณชายจะทำรุนแรงแต่จิตใจดั่งเดิมของคุณชายยังไม่หายไป”
หญิงสาวล้มตัวลงนอนบนชานบ้าน นอนตะแคงข้างสองมือกอดเงินแนบอก ยิ้มแย้มมีความสุขราวกับคนบ้า
