บ้านใหญ่หวัง 1
วันต่อมา
รุ่งเช้าของวันถัดมา บ้านหวังก็พาหัวหน้าหมู่บ้านกับชาวบ้านหลายสิบคนมุ่งหน้ามาที่บ้านของหวังเซียวเหริน เพื่อมาเอาเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
"หัวหน้าหมู่บ้านดูเอาเถอะ วางยาคนอื่นแล้วยังนั่งลอยหน้าลอยตาได้อีก"
หวังเต๋อผู้เป็นพ่อของหวังหลิวและหวังเซียวเหรินเดินอาด ๆ นำหน้าผู้คนหมายจะมาเอาเรื่องลูกชังอย่างหวังเซียวเหริน
"ใจเย็น ๆ ก่อนพี่ มันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้ อาเหรินจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำร้ายพ่อแม่"
หวังเหลียนผู้เป็นแม่แท้ ๆ ของหวังหลิวและหวังเซียวเหรินรีบออกหน้าปกป้องลูกชายคนเล็ก สามีของนางเป็นคนหูเบา แค่มีใครพูดอะไรเหลวไหลก็เชื่อไปหมด ในครั้งที่เธอตั้งท้องลูกชายคนเล็ก(หวังเซียวเหริน) นางก็ถูกสหายคนหนึ่งของสามีกล่าวหาว่าเด็กในท้องอาจจะเป็นลูกชู้ เพียงเท่านั้นสามีของนางก็เชื่อเป็นตุเป็นตะ แถมยังมาตั้งแง่กับหวังเซียวเหรินที่เป็นลูกชายในสายเลือดของตน
"หล่อนหลบไปเลยนะอาเหลียน กลับบ้านไปหล่อนเจอดีแน่ อาหลิวเอาแม่แกออกไป"
หวังเต๋อหันไปสั่งลูกชายคนโตให้มาจัดการกับภรรยาของเขาให้พ้นทาง
"ครับพ่อ"
"แก! ไอ้ลูกชั่ว แกกล้าดียังไงมาวางยาคนบ้านใหญ่ แกลืมข้าวแดงแกงร้อนที่รินรดหัวแกมาแล้วรึยังไง"
พั๊ว!
ร่างของเซียวเหรินที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตอนนี้ถูกพ่อแท้ ๆ ต่อยจนร่วงไปอยู่ที่พื้น เจียหนิงกับเด็ก ๆ เดินออกมาเห็นพอดีจึงรีบเข้ามาห้ามเอาไว้
"หยุดนะ! นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมต้องมาทำร้ายพี่เซียวเหรินด้วย"
"หึ หล่อนมันก็แค่สะใภ้ที่แต่งเข้า อย่างมาปากเก่งกับพ่อสามีแบบฉัน ไม่อย่างนั้นอย่าแม้แต่จะคิดว่าจะได้ใช้แซ่หวังของฉัน"
หวังเต๋อชี้หน้าต่อว่าสะใภ้เล็กด้วยโทสะ หัวหน้าหมู่บ้านจึงได้เข้ามาห้ามเอาไว้ก่อนที่เรื่องจะลุกลามบานปลายมากกว่านี้
"เอาละ ๆ เราควรพูดคุยกันอย่างมีสติ ยังไงคนผิดก็ต้องได้รับโทษแน่นอน เธอคือเสิ่นเจียหนิง สะใภ้ที่แต่งให้เซียวเหรินคนนั้นเหรอ?"
"ใช่ค่ะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่คะคุณลุง"
ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องปลาที่สองแม่ลูกขโมยไปเมื่อวาน แต่เจียหนิงก็แสร้งทำเป็นไม่รู้แล้วรอดูว่าสองแม่ลูกจะกลับดำเป็นขาวได้ยังไง
"พวกเธอถูกกล่าวหาว่าวางยาคนบ้านใหญ่หวัง! ถ้าเป็นเรื่องจริงพวกเธอต้องชดใช้ค่าความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลและค่าหมอให้กับพวกเค้า"
หัวหน้าหมู่บ้านพูดเสียงเข้ม แต่ใจหนึ่งเขาก็ไม่เชื่อว่าเซียวเหรินจะทำเรื่องแบบนี้ ทว่าสถานการณ์ตรงหน้าบีบบังคับให้เขาต้องทำตัวเป็นกลาง
ชาวบ้านมองไปที่เซียวเหรินและเจียหนิงด้วยความสงสัย ความร้ายกาจของหวังซินทำให้พวกเขารู้สึกเอะใจจึงตามมาดูว่าเรื่องจริงจะเป็นยังไงกันแน่ การกระทำที่ลำเอียงของหวังเต๋อที่มีต่อลูกชายคนเล็กประจักษ์ต่อสายตาของคนในหมู่บ้านมาหลายสิบปี
"เรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่ช่วยเล่าให้พวกเราฟังได้ไหมครับลุงจาง หลายวันมานี้ผมกับครอบครัวเพียงแค่เข้าป่าไปเก็บผัก จากนั้นก็นำไปส่งที่คอมมูนแล้วกลับมาบ้าน ผมจะไปวางยาใครตอนไหน หรือมีใครเห็นผมกับครอบครัวไปที่อื่นอย่างนั้นเหรอครับ"
คำพูดของเซียวเหรินทำให้ทุกคนฉุกคิด แค่จะเดินไปส่งผักยังต้องใช้เวลามากกว่าคนอื่น แบบนี้จะไปวางยาในอาหารของใครได้
"เหล่าหวังบอกว่านายส่งปลาย่างตัวใหญ่ไปให้ที่บ้าน เพื่อเป็นการขอคืนความสัมพันธ์ฉันพ่อลูก แต่กลับเป็นคำลวงเพราะปลาตัวนั้นกินแล้วทำให้ทุกคนวิ่งถ่ายท้องกันทั้งคืน"
"ไอ้หมาป่าตาขาว ไอ้ลูกทรพี ไอ้ตัวกบฏ แกต้องได้รับโทษที่ไม่เคารพพ่อแม่ อกตัญญูวางยาพิษหวังอยากให้พ่อแม่ตาย"
สิ้นเสียงของหัวหน้าหมู่บ้าน หวังเต๋อก็สาดข้อหาหนักใส่ลูกชายคนเล็กอย่างไม่ไยดี ต่างจากหวังเหลียนผู้เป็นแม่ที่ร้องไห้จนน้ำตานองหน้าที่ไม่อาจช่วยลูกได้
"ถ้าบอกว่าบ้านเราส่งปลาย่างไป แล้วใครเป็นคนรับปลาตัวนั้นไปคะ?"
"หล่อนจะมาเบี่ยงเบนประเด็นอะไรตอนนี้ ถึงพูดไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะ ยังไงคนทำผิดก็ต้องได้รับโทษ เอาเงินของพวกแกมาให้ฉันสองร้อยหยวนเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลกับค่าทำขวัญ ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งทางการให้จับตัวพวกแกไป"
"อย่าใจร้อนสิคะคุณพ่อ หวังซินใช่ไหมที่เป็นคนบอกว่าพวกเราส่งปลาย่างตัวนั้นไปให้"
ขณะที่คนอื่นกำลังพูดคุยกันอย่างดุเดือด แต่หวังซินที่กินปลาไปมากกว่าคนอื่นตอนนี้ยังนอนกินยาต้มอยู่ที่บ้านโดยไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร มีเพียวหวังฮุยเท่านั้นที่ตามมาแล้วหลบอยู่หลังหวังหลิวผู้เป็นพ่อ
"ใช่! หล่อนจะมาตลบตะแลงอะไรอีก"
"เห็นทีคนที่ตลบตะแลงครั้งนี้คงไม่ใช่ฉันหรอกค่ะ อาหารของบ้านเรามันถูกขโมยไปโดยหวังฮุยและหวังซิน! เดิมทีปลาตัวนั้นฉันใส่ยาไว้จริงแต่ฉันตั้งใจว่าจะเอาไปฆ่าพวกหนูที่มากินเสบียงอาหารของบ้านเรา แต่พอฉันไปตักน้ำที่ท่าน้ำ กลับมาอีกทีก็พบว่าปลาตัวนั้นหายไปแล้ว"
เจียหนิงจึงตัดสินใจที่จะเล่าความจริงให้ฟัง เธอพูดด้วยความมั่นใจจนชาวบ้านต่างก็แสดงความคิดเห็นกันต่าง ๆ นานา
"บ้านใหญ่หวังหน้าไม่อายจริง ๆ ตัดขาดกันแล้วพวกเขายังกล้าขโมยของคนอื่นอยู่อีก"
"ทำไมพวกเขาถึงไม่รู้จักพอ? ไม่คิดเลยนะว่าจะเป็นพวกใจบอดได้ขนาดนี้
หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ชาวบ้านเริ่มรู้สึกไม่พอใจต่อพฤติกรรมของหวังซินและหวังฮุยอย่างชัดเจน หลายคนที่เคยเห็นการกระทำของพวกเขาในอดีตก็เริ่มพูดคุยกันอย่างเงียบ ๆ แต่เสียงมันก็ยังดังพอจะทำให้หวังเต๋อรู้สึกเสียหน้า
"เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาขโมยของจากเรา ครั้งแรกก็เป็นพวกเขาสองแม่ลูกที่ย่องเข้ามาขโมยไก่ย่างในบ้านของเรา พอซูซูกับอาโต้วมาเห็นเข้าก็ถูกสองแม่ลูกทำร้ายจนเลือดออก และตอนนี้มันก็ยังเป็นพวกเขาอีก! ไม่เชื่อก็ดูแผลที่อยู่บนตัวของเด็ก ๆ ได้"
เมื่อเซียวเหรินยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ทุกคนในหมู่บ้านเริ่มรู้สึกไม่พอใจในพฤติกรรมของหวังซิน
"ทำไมบ้านใหญ่หวังถึงโกหกกันแบบนี้! อาหารของพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปจากบ้านรองหวัง แต่เป็นสะใภ้ใหญ่กับอาฮุยที่ทำตัวเป็นพวกขี้ขโมย เพราะความโลภของพวกคุณ! แล้วยังมาใส่ร้ายคนอื่นอีก ช่างหน้าด้านหน้าทนจริง ๆ"
"หวังฮุยออกมานี่"
หัวหน้าหมู่บ้านเรียกตัวเด็กชายตัวอ้วนออกมาด้านหน้าเพื่อจะสอบถามความจริง เนื้อตัวของหวังฮุยสั่นเทิ้มด้วยความกลัวที่จะถูกจับได้ แต่เจ้าตัวก็ถูกผู้เป็นปู่ลากตัวออกมา
"ไหนแกพูดมาซิอาฮุย ที่พวกมันพูดเป็นเรื่องจริงเหรอ พวกมันไม่ได้ส่งอาหารไปขอคืนดีอย่างที่แม่แกพูดอย่างนั้นเหรอ ห๊ะ!"
หวังซินรู้ดีว่าถ้าบอกออกไปแบบนั้นพ่อสามีจะไม่ใส่ใจที่มาของอาหาร นั่นหมายความว่าเธอจะสามารถทำแบบนั้นได้บ่อย ๆ หากบอกไปตามความจริงว่าเธอไปแย่งอาหารมาจากบ้านรอง เธอคงถูกด่าเพราะทำผิดกฎในสัญญาตัดขาด ข้อที่ว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกันอีก
"ฮื้อออ ปู่อย่าดุผมสิ แม่นั่นแหละที่พาผมไปขโมยอาหารของบ้านรองทั้งสองครั้ง แล้วยังห้ามผมบอกความจริงกับปู่อีกด้วย ฮื้ออ ฮื้ออ"
พอได้ยินแบบนั้นหวังเต๋อรู้สึกโกรธมากที่ถูกสะใภ้ใหญ่หลอก เขาหันไปมองลูกชายคนโตด้วยแววตาเชิงตำหนิก่อนตั้งท่าจะเดินกลับบ้านไป
"เดี๋ยวก่อนสิคะ! มากล่าวหากันแล้วจะกลับไปง่าย ๆ อย่างนี้ได้ยังไง ฉันไม่ยอมให้สามีของฉันเจ็บตัวโดยที่ไม่ได้ทำผิดแน่ ๆ ไหนจะอาหารที่ถูกขโมยไปอีก ไหนจะแผลบนตัวของเด็ก ๆ อีก แล้วไหนจะข้อสัญญาในหนังสือตัดขาดอีก โต ๆ กันแล้วก็ควรรับผิดชอบกับการกระทำสิคะ"
หวังเต๋อจำต้องชะงักฝีเท้าแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับสะใภ้ของตน แม้จะมีความไม่พอใจอยู่หลายส่วน ทว่าต่อหน้าผู้คนมากมายเขาไม่อาจไม่รักษาหน้าตาของตนเองเอาไว้ได้
"มีอะไรก็ว่ามา"
"ในเมื่อบ้านใหญ่ทำผิดสัญญาในหนังสือตัดขาดที่ตัวเองเป็นคนเขียนขึ้นมา ก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญา ไม่อย่างนั้นคำพูดของผู้อาวุโสที่ร่วมลงนามจะน่าเคารพและเชื่อถือในสายตาของคนรุ่นหลังได้ยังไงกัน จริงไหมคะท่านลุงท่านป้า ผู้อาวุโสทุกท่าน"
เจียหนิงเริ่มจับทางได้แล้วว่าพ่อสามีเป็นพวกที่รักหน้าตาทางสังคมยิ่งชีพ เธอจึงใช้ผู้คนที่กำลังมุงดูเพื่อกดดันเขาไปในตัว
"พวกเขามีสัญญาตัดขาดกันแล้ว! ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกันอีก ครั้งนี้บ้านใหญ่หวังเป็นคนผิดก็ต้องชดใช้ให้กับบ้านรอง ใครผิดก็ว่าไปตามผิด"
หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวอย่างจริงจัง เขาตัดสินใจจัดการตามกฎระเบียบเพื่อความเป็นทำกับบ้านรองหวัง
"ดีแล้วหัวหน้าหมู่บ้าน ถ้าปล่อยให้ทำจนติดเป็นนิสัย ไม่รู้วันหน้าสองแม่ลูกคู่นี้จะไปขโมยของบ้านไหนอีก"
"ใช่ ๆ มันสมควรแล้วที่บ้านใหญ่หวังจะต้องได้รับบทเรียนนี้"
"เราไม่สามารถปล่อยให้คนที่ขโมยของคนอื่นอยู่ในหมู่บ้านได้นะหัวหน้า ขับไล่ออกไปจากหมู่บ้านเลยดีไหม อยู่มาช้านานก็ไม่เคยมีคนใจคดแบบนี้ให้เห็น"
"เราต้องทำให้พวกเขารู้ว่าการขโมยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้! บรรพบุรุษของพวกเราไม่เคยสั่งสอนให้ลูกหลานเป็นคนแบบนี้"
มีชาวบ้านบางคนที่เริ่มเรียกร้องให้มีการจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง พวกเขาแสดงความเห็นที่ชัดเจนว่าสิ่งที่หวังซินและหวังฮุยทำเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและต้องได้รับการลงโทษ
"เหตุการณ์นี้ทำให้หมู่บ้านของเราเสื่อมเสียชื่อเสียง เราต้องการหาทางแก้ไขให้เหมาะสมนะหัวหน้าจาง ต้องเห็นใจเซียวเหรินกับครอบครัวด้วยที่ถูกกล่าวหา"
ผู้อาวุโสคนหนึ่งได้กล่าวขึ้น ขณะเดียวกันสีหน้าของหวังเต๋อกับหวังหลิวก็ซีดเผือดลงเรื่อย ๆ เห็นทีว่าครั้งนี้หากไม่ได้รับโทษเรื่องคงไม่อาจจบลงได้ง่าย ๆ เหมือนทุกครั้ง
"จากการพิจารณาแล้ว พบว่าหวังฮุยและหวังซินมีส่วนเกี่ยวข้องในการขโมยปลากับไก่ไปจากบ้านของเซียวเหรินเป็นเรื่องจริง และการกล่าวหาป้ายสีที่ไม่มีมูลในเรื่องการวางยา ทำให้หวังเซียวกับครอบครัวเสียหาย และยังถูกหวังเต๋อทำร้ายร่างกายทั้งที่มีสัญญาตัดขาด"
"..." "..." "..." "..."
หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวอย่างจริงจัง ขณะที่ทุกคนในหมู่บ้านจับตามองด้วยความตั้งใจ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด ทุกคนรอฟังคำตัดสินจากหัวหน้าหมู่บ้าน
"การกระทำของบ้านใหญ่หวังทำให้ชื่อเสียงของครอบครัวของเซียวเหรินและเจียหนิงเสียหาย และคำกล่าวหาของคุณเองที่ไม่มีมูลทำให้ชาวบ้านเกิดความเข้าใจผิด หวังเต๋อ นายเลือกมาเถอะว่าจะยอมจ่ายค่าผิดสัญญาให้เซียวเหรินสองร้อยหยวนแล้วให้เรื่องทุกอย่างจบลง"
"..." "..." "..." "..."
