บท
ตั้งค่า

จับได้คาหนังคาเขา

หลายวันต่อมา

ช่วงเช้าตรู่ยังไม่ทันจะฟ้าสาง หวังเหลียนรีบเดินฝ่าความมืดมาหาลูกชายคนเล็กพร้อมกับข้าวสารประมาณ 5 จิน(2กิโลครึ่ง)

"เซียวเหริน เซียวเหรินตื่นรึยังลูก แม่ได้ยินข่าวว่าลูกรับอาโต้วเป็นลูกบุญธรรม แม่เลยเอาข้าวสารมาให้ เก็บไว้ดี ๆ นะลูก"

น้ำเสียงของนางหวังเหลียนแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความรักที่ไม่มีวันลดน้อยลง ถึงสามีกับลูกชายคนโตจะเป็นอุปสรรคใหญ่ในการมาหาลูกชายคนเล็ก แต่นางก็ใช้ทุกโอกาสที่มีเพื่อจะได้พบหน้ากับเซียวเหรินบ้าง

"แม่ครับผมสบายดี ขอบคุณที่เป็นห่วง เราเข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่านะครับ"

หวังเซียวเหรินที่กำลังกวาดลานบ้านอยู่กับอาโต้ว รีบตอบกลับมารดาด้วยรอยยิ้ม

"สวัสดีครับย่า"

"จ้ะเด็กดี ต่อไปต้องช่วยน้องดูแลพ่อเค้าดี ๆ นะอาโต้ว"

"ครับ"

แต่ทว่าความสุขนี้กลับถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว เมื่อหวังหลิวลูกชายคนโตเดินเข้ามาอย่างไม่พอใจ เขาเห็นแม่แบ่งข้าวสารในถังแล้วทำท่าลับ ๆ ล่อ ๆ จึงเดินตามมาดู ยิ่งได้เห็นว่าแม่แบ่งข้าวสารมาให้กับน้องชาย จึงไม่สามารถยับยั้งความโกรธในใจได้

"แม่! ทำไมต้องให้ข้าวสารกับพวกมันอีก!"

เสียงของหวังหลิวตะโกนลั่น ทำให้ทุกคนในบ้านสะดุ้ง

"อาหลิว! ทำไมลูกถึงพูดแบบนี้กับน้องชายของลูก?"

นางหวังเหลียนตอบกลับด้วยความพยายามที่จะสร้างความเข้าใจ แต่เสียงของเธอกลับถูกกลบด้วยความโกรธของลูกชายคนโต

"แม่! มันทำให้พ่อเสียเงินตั้ง 200 หยวน แม่ยังจะมาแสดงความรักอะไรกับพวกหมาป่านี่อีก ทำไมไม่ไปทำงานบ้าน ทำไมไม่ไปทำอาหารให้พวกเรากิน?"

หวังหลิวถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น เขามองเห็นแต่ความไม่ยุติธรรมและความไม่เท่าเทียมในบ้านที่เขาเติบโตมา ยังดีที่ผู้เป็นพ่อรักเขามาก ไม่ว่าเขาอยากได้อะไรก็ได้ทุกอย่าง หวังเซียวเหรินลูกชู้คนนี้ไม่ควรได้ใช้แซ่หวังด้วยซ้ำ

"เงินที่เสียไป 200 หยวนก็เป็นความผิดของหวังซินกับหวังฮุยที่ไปขโมยของของคนอื่นเขาไม่ใช่เหรอ ลูกควรจะกลับไปสอนลูกของลูกให้ดี ไม่ใช่ไปต่อว่าคนอื่นแบบนี้"

ยิ่งได้ยินสิ่งที่มารดาพูดหวังหลิวยิ่งโกรธจนควันออกหู เขาทนไม่ได้ที่แม่จะมาออกหน้าปกป้องลูกชู้แบบนี้

"นี่แม่กล้าว่าผมเพื่อปกป้องไอ้ลูกชู้คนนี้เหรอ"

หวังหลิวชี้หน้าเซียวเหรินอย่างเอาเรื่อง เขาเดินปรี่เข้าหาเซียวเหรินแต่ถูกผู้เป็นแม่ขวางเอาไว้

"ฮื้อออ หยุดพูด! แม่บอกแกกี่ครั้งแล้วว่าเซียวเหรินคือน้องชายพ่อเดียวแม่เดียวกันกับแก! ฮึก ฮื้ออ ฉันไม่เคยมีชู้ มีแต่พ่อของแกที่แอบไปนอนกับนางถาน แกเองก็รู้เรื่องนี้ดีไม่ใช่เหรอ!"

"..."

"ในเมื่อแกรู้ทำไมแกยังทำเป็นหูหนวกตาบอด นังถานเป็นแม่แกรึยังไง! แกถึงได้ไปเรียกน้าถาน น้าถาน แม่ถามแกจริง ๆ นะอาหลิว นอกจากแกจะดูถูกแม่ว่าแม่คบชู้ ว่าแม่มักง่าย แกยังเคยเห็นฉันเป็นแม่อยู่ไหม?"

ทุกอย่างเงียบสงัดลงทันทีหลังจากสิ้นเสียงแม่หวัง นางอดทนอดกลั้นมานานกับความอัปยศที่ต้องแบกรับ แต่การถูกลูกชายที่ตนเองคลอดมาดูถูกเหยียดหยามว่านางเป็นหญิงที่สมสู่ไม่เลือก มันเกินจะทนรับได้แล้วจริง ๆ

"แม่อย่ามาหาเรื่องฉัน ฉันแค่มาตามเอาข้าวสารคืน และตามแม่กลับบ้านไปทำงานบ้าน แม่อย่ามานอกเรื่อง"

หวังหลิวที่ไม่เคยเห็นมารดาระเบิดแบบนี้จึงทำตัวไม่ถูก เขาได้แต่เบี่ยงเบนประเด็นออกจากเรื่องความผิดของบิดา ต่อให้เขารู้ว่าพ่อคบชู้กับนางถานแล้วยังไง ในเมื่อพ่อรักเขาและทุ่มเทให้เขาทุกอย่าง ความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็น่าจะพอมองข้ามได้

"แกก็ไปบอกนางถานมาทำให้แกสิ เมียของแกก็อีกคน ฉันเป็นแม่ของแก ไม่ใช่คนรับใช้ที่พวกแกพ่อลูกจะมาข่มเหงไม่เลิกราแบบนี้!"

เจียหนิงที่แอบฟังอยู่ด้านหลังเธออยากจะปรบมือให้แม่สามีเหลือเกิน ขณะเดียวกันเธอก็อยากช่วยแม่สามีเปิดโปงความชั่วของพ่อสามีกับชู้ของเขาเช่นกัน

"แม่เป็นบ้าไปแล้วรึยังไง?"

"ใช่! ฉันมันบ้าไปแล้ว แต่จำไว้นะอาหลิว วันนี้ถึงคราวซวยของพ่อแกก็เป็นเพราะแกทั้งนั้น"

"แม่! แม่จะไปไหน กลับมาเดี๋ยวนี้นะ อย่าไปยุ่งกับพ่อกับน้าถาน"

หวังหลิวรีบตะโกนตามหลังมารดา ทว่าตัวเขาเองกลับถูกเซียวเหรินกับอาโต้วและซูซูช่วยกันขวางทางเอาไว้

"ฉันจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว! เช้านี้ฉันจะไปลากตัวนังถานนั่นออกมาประจานให้ชาวบ้านรู้ให้ได้"

"แม่ใจเย็นๆ ก่อนค่ะ ไปคนเดียวอันตรายนะคะ เดี๋ยวหนูจะไปช่วยแม่เอง"

เจียหนิงรีบเดินกึ่งวิ่งตามหลังแม่สามีไปติด ๆ ในเวลาเช้ามืดโพล้เพล้แบบนี้ชาวบ้านบางคนก็ยังนอนอยู่ แต่ผู้สูงอายุส่วนมากจะตื่นกันหมดแล้ว

"ดี วันนี้แม่จะพาอาหนิงไปเปิดโปงพวกที่ชอบสมสู่ไม่เลือกตัวจริง"

"งั้นระหว่างทางหนูจะแวะเรียกผู้อาวุโสกับหัวหน้าหมู่บ้านไปด้วยนะคะ พาชาวบ้านไปเยอะ ๆ เราจะได้มีพยาน"

"ดีลูก"

ระหว่างทาง เจียหนิงคิดว่าควรจะพาพยานไปด้วย เธอจึงแวะเรียกหัวหน้าหมู่บ้านและผู้อาวุโส รวมถึงชาวบ้านอีกหลายคน ให้ไปดูให้เห็นกับตา ทุกคนต่างตกใจเมื่อรู้ว่าหวังเต๋อแอบคบชู้ จึงรีบตามเจียหนิงไปยังบ้านของนางถาน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นแต่ไม่มีใครมาเปิด หัวหน้าหมู่บ้านเห็นว่าบ้านไม่ได้ล็อกจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ทุกคนได้ยินเสียงหยอกล้อของชายหญิงดังมาจากห้องนอน หวังเหลียนหน้าซีดเผือดตัวสั่นเทาเมื่อต้องมาเผชิญกับความจริงหลังจากนางหลบหลีกมาหลายสิบปี

"เสียงนั่น... เสียงของหวังเต๋อ"

นางพุ่งตัวไปที่ห้องนอนแล้วเปิดประตูออก ภาพที่เห็นทำให้ทุกคนตะลึง หวังเต๋อนอนอยู่บนเตียงร่างกายเปลือยเปล่า มีเพียงผ้าห่มผืนบางปกปิดไว้ ข้างกายมีนางถานนอนอยู่ ผมเผ้าของนางกระเซอะกระเซิง ทั้งคู่ตกใจสุดขีดเมื่อเห็นชาวบ้านบุกเข้ามา พร้อมกับตะเกียงไฟเพื่อส่องสว่าง

"อาเหลียน... ฉัน... ฉันอธิบายได้"

"ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น! ฉันไม่น่าหลงเชื่อคำพูดของแกเลย แกมันคนใจร้าย ใจดำ! พวกแกลักลอบสมสู่กันตั้งแต่ฉันท้องเซียวเหริน ก็เพราะนังผู้หญิงคนนี้ใส่ร้ายฉัน แค่ลมปากของมันแกก็เชื่อว่าฉันไปยุ่งเกี่ยวกับชายอื่น พวกแกมันช่างไม่สำเหนียกตัวเองจริง ๆ"

หวังเต๋อที่ถูกจับได้ในสถานการณ์เช่นนี้ รีบขอโทษภรรยา แต่ในขณะเดียวกัน หวังเหลียนกลับใจแข็งไม่ยอมให้อภัย

"อาเหลียน... ยกโทษให้ฉันเถอะ ฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันจะไม่ทำอีก"

หวังเต๋อรีบดึงผ้ามาห่อตัว ก่อนจะคุกเข่าลงกอดขาภรรยาเอาไว้ แต่ครั้งนี้หวังเหลียนใจแข็ง นางสะบัดขาให้หวังเต๋อล้มลง

"ถุย! แกแอบสมสู่กันมาเกือบ 30 ปี คิดว่าจะเปลี่ยนเพราะถูกฉันจับได้อย่างนั้นเหรอ เอามือของแกออกไป น่าขยะแขยง! แกมันคนทรยศ!"

"ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ช่วยทำหนังสือตัดขาดและหนังสือหย่าให้ฉันด้วยนะ จากนั้นก็แจ้งทางการมาจับสองคนนี้ไปได้เลย ฉันต้องการเห็นสองคนนี้ได้รับการลงโทษอย่างสาสม"

นางเรียกร้องให้หัวหน้าหมู่บ้านร่างหนังสือเพื่อยุติความสัมพันธ์นี้ และทำการหย่าร้างกับหวังเต๋อ โดยการแจ้งให้ทางการดำเนินการจับกุมทั้งสองคนที่ทำผิดกฎหมาย การคบชู้ในสมัยนั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้ และทุกคนในหมู่บ้านก็เห็นพ้องต้องกันในการลงโทษ

"ได้ ฉันจะจัดการให้"

หลังจากที่หวังเต๋อและนางถานถูกจับกุม ชาวบ้านเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างเห็นอกเห็นใจหวังเหลียนที่ถูกสามีใส่ร้ายและสวมเขามาหลายสิบปี บางคนที่เคยแสดงท่าทางไม่พอใจนางก็เริ่มเปลี่ยนท่าทีเมื่อได้รู้ความจริง

"คุณแม่ไม่ต้องกังวลอะไรนะคะ หลังจากนี้ฉันกับพี่เซียวเหรินจะช่วยกันดูแลแม่เอง"

"ขอบใจมากนะอาหนิง แม่จะพยายามช่วยงานให้ได้มากที่สุด แต่แม่คงจะกลับไปเอาแค่เอกสารกับเสื้อผ้าเท่านั้น ของอย่างอื่นแม่คิดว่าแม่คงไม่เอามา แม่ไม่อยากยุ่งกับบ้านนั้นอีก"

เจียหนิงพาแม่สามีที่ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นกลับมาที่บ้าน พอมาถึงก็พบว่าเซียวเหรินกับลูก ๆ มายืนรออยู่หน้าบ้าน

"พวกเราเข้าใจค่ะแม่ เดี๋ยวหนูจะไปเอาของเป็นเพื่อนแม่เอง หรือไม่ก็รอเวลาให้คนบ้านนั้นออกไปทำงานก่อน ถึงตอนนั้นเราค่อยเข้าไปหยิบเอกสารก็ได้ ฉันจะรบกวนให้หัวหน้าหมู่บ้านช่วยเป็นพยานว่าเราไม่ได้เอาอะไรออกมา"

"อื้อ แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน"

"แม่ครับ..แม่เป็นยังไงบ้าง"

เซียวเหรินรีบเดินเข้าไปหามารดาโดยมีลูก ๆ ช่วยนำทางไป ทันทีที่แม่หวังคิดว่าต่อไปนี้จะได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่กับลูกชายคนเล็ก ใจของนางก็พลันอุ่นซ่านจนดวงตาร้อนผ่าว

"ฮึก อะ..อาเหริน แม่ขอโทษที่มาเข้มแข็งเอาป่านนี้ ฮื้ออ แม่ขอโทษที่ปล่อยให้พวกเค้าทำให้ลูกต้องอ้างว้าง"

"ไม่เป็นไรครับแม่ ผมไม่เป็นไร ขอแค่จากนี้ไปแม่มาอยู่กับพวกเรา มาอยู่ให้ผมดูแลก็พอ"

สองแม่ลูกกอดกันทั้งน้ำตา หวังเซียวเหรินสงสารมารดาจับใจเมื่อได้เห็นน้ำตามากมายที่รินไหลออกมาไม่หยุด เขาได้แต่ตั้งมั่นเอาไว้ในใจ ว่าจากนี้ไปชีวิตของเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ แม่ เมียและลูก ๆ ได้มีความสุข

"เข้าบ้านไปกินข้าวกันดีกว่าค่ะ ยังไงก็ต้องเติมพลังเอาไว้ก่อน วันนี้ฉันทำข้าวต้มหมูกับซาลาเปาเอาไว้เยอะเลยนะคะ"

"เย้ ๆ วันนี้ได้กินซาลาเปาลูกใหญ่ ๆ ของแม่เจียหนิงอีกแล้ว ซูซูกินได้หลายลูกเลยนะคะ"

"ไปกันครับพ่อ ไปกินข้าวกันครับย่า เดี๋ยวอาโต้วช่วยพยุง"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel