เยียวยาจิตใจ
หลายวันต่อมา
เจียหนิงพาแม่หวังกลับมาที่บ้านดินหลังเล็ก ด้วยความตั้งใจที่จะดูแลและให้ความรักความอบอุ่นจากเด็ก ๆ ชดเชยสิ่งที่ขาดหายไป แม่หวังมีอาการเซื่องซึมอย่างเห็นได้ชัด แต่เจียหนิงมั่นใจว่าความรักจากลูกหลานจะช่วยเยียวยาจิตใจของนางได้
"คุณย่าคะ วันนี้ซูซูจะช่วยทำกับข้าวนะคะ"
หวังซูซูกล่าวเสียงใสขณะที่กำลังช่วยแม่หยิบจับถ้วยชามทำอาหารอยู่ในครัว
"จริงเหรอจ๊ะ ซูซูของย่าโตพอจะช่วยงานในครัวได้แล้วเหรอเนี่ย"
แม่หวังหันไปถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มมีชีวิตชีวา นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้อยู่บ้านของลูกชายคนเล็กเป็นเวลาที่นานกว่าปกติ นางถึงได้สังเกตเห็นว่ามีเครื่องครัวและเสบียงอาหารที่อุดมสมบูรณ์มากว่าบ้านใหญ่เสียอีก สะใภ้คนนี้ช่างมีความสามารถจริง ๆ
"ใช่ค่ะ คุณย่าต้องมาช่วยด้วยนะคะ อีกเดี๋ยวพวกเราจะไปดักปลากัน คุณย่าไปด้วยกันนะ มันสนุกมากเลย"
ซูซูยิ้มกว้าง พลางวิ่งไปหยิบผักป่าที่แบ่งไว้ตั้งแต่เมื่อวานมาให้มารดา
"คุณแม่ ช่วยชิมน้ำแกงปลาแห้งให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ ฉันปรุงลงไปแล้วแต่ยังไม่ได้ชิมเลยค่ะ"
เจียหนิงพยายามเชิญชวนให้แม่สามีหาอะไรทำร่วมกัน เพื่อให้นางรู้สึกถึงความอบอุ่นจากการมีลูกหลานอยู่รอบข้าง
"ได้สิ เดี๋ยวแม่ชิมให้เอง อาหนิงผัดผักป่าไปเถอะ"
ผัดผักเสร็จเจียหนิงก็ทำการย่างหมูแผ่นต่อ ไม่นานกับข้าวเสร็จทุกอย่างซูซูน้อยก็ช่วยผู้เป็นแม่กับคุณย่าตั้งโต๊ะกับข้าว ส่วนสองพ่อลูกหวังเซียวเหรินกับหวังจิ่นโต้วก็กำลังวุ่นกับการจักตอกเตรียมทำไซดักปลาอันใหม่
"พี่ชาย พ่อจ๋า ล้างมือแล้วรีบมากินข้าวเร็วเข้า ช้าหมดอดกินน๊า ของอร่อยทั้งนั้น ท้องน้อย ๆ ของซูซูร้องจ๊อก ๆ แล้ว"
"รู้แล้วครับลูก ไปกันอาโต้ว เดี๋ยวแม่กับย่าจะรอนาน"
"ครับพ่อ"
อาโต้วช่วยพยุงผู้เป็นพ่อแล้วพาเดินไปที่อ่างน้ำเพื่อตักน้ำล้างมือ จากนั้นทั้งสองก็เดินกลับเข้าบ้านแล้วลงมือกินข้าวเช้าพร้อมทุกคน
หลายวันมานี้ ในบ้านดินหลังเล็กอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะและความสนุกสนาน เด็ก ๆ ช่วยกันบีบนวดแขนขาให้คุณย่า บางครั้งก็ชวนพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อให้แม่หวังลืมเรื่องราวที่เจ็บปวด
"ไซดักปลาเสร็จแล้วนะอาหนิง ตอนนี้พี่กำลังเร่งทำเพิ่มให้อีกสักอันสองอัน"
หวังเซียวเหรินบอกภรรยาหลังจากกินข้าวเสร็จ เผื่อว่าเธอจะไปวางไซดักปลาเอาไว้ก่อนจะไปเก็บผักป่า
"แบบนั้นก็ดีเลยสิคะ งั้นฉันจะไปทำกับดักปลาก่อนถึงจะไปเก็บผักป่าไปส่งที่คอมมูน เด็ก ๆ ไปกับแม่ไหม?"
"ไปค่ะ /ไปครับ"
เด็ก ๆ ตอบพร้อมกันอย่างตื่นเต้น การทำกับดักปลากลายเป็นกิจกรรมที่เด็ก ๆ ชื่นชอบไปเสียแล้ว เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาจะไปดักปลา เจียหนิงพาเด็ก ๆ ไปที่คลองส่งน้ำหลังบ้านและชวนแม่หวังไปด้วยกัน แม่หวังเดินตามลูกหลานด้วยความตื่นเต้น นางไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกสะใภ้จะมีความสามารถในการดักปลาเช่นนี้
"คุณย่าคะ ถ้าดักปลาได้เยอะเราจะทำอะไรกินดีคะ"
"หลานอยากกินอะไร กินปลาต้มเต้าเจี้ยวดีไหม เดี๋ยวย่าจะลงมือทำให้หลานกินด้วยตัวเองเลย พ่อของหลานชอบมากเลยนะเวลาที่ย่าทำปลาต้มเต้าเจี้ยวให้กิน"
พูดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้แม่หวังนึกถึงความหลังในอดีต หวังเซียวเหรินชอบกินปลาต้มเต้าเจี้ยวฝีมือของนางมาก แต่พอหวังเต๋อผู้เป็นพ่อพูดคำเดียวว่าไม่ชอบกลิ่นเต้าเจี้ยว และห้ามนางทำปลาต้มเต้าเจี้ยวอีก จากนั้นมาหวังเซียวเหรินก็ไม่ได้กินมันอีกเลย
"พ่อชอบเหรอคะ แสดงว่าต้องอร่อยมากแน่ ๆ เลย ซูซูอยากกินค่ะ ซูซูอยากรู้ว่าอาหารที่พ่อชอบรสชาติจะเป็นแบบไหน"
ระหว่างที่สองย่าหลานกำลังพูดคุยกันอยู่ที่ท่าน้ำ เจียหนิงกับอาโต้วก็เดินขึ้นมาจากคลองหลังจากที่ทำกับดักปลาเสร็จ เธอไม่ลืมที่จะใส่ก้านผักที่นำออกมาจากมิติลงไปในไซดักปลาด้วย เพื่อให้ปลามาติดกับเยอะ ๆ
"คนตาบอดทำไมสานไม้ไผ่ได้อย่างกับมองเห็น แถมยังจักตอกได้อย่างคล่องแคล่วขนาดนั้น"
เจียหนิงแอบมองหวังเซียวเหรินอยู่เป็นระยะ เขาสานไม้ไผ่อย่างคล่องแคล่วราวกับมองเห็นทุกอย่างได้ตามปกติ ความสงสัยก่อตัวขึ้นในใจ เธอตัดสินใจว่าเย็นนี้จะลองใจเขาให้รู้แน่
"แม่ครับไปนั่งในร่มกัน"
"ครับลูก"
ไม่นานนักทุกคนก็ร้องโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น เมื่อมองเห็นว่าไซดักปลาเริ่มขยับบ่อย ๆ อาโต้วกับซูซูรีบเดินไปดูพร้อมกับส่งเสียเรียกมารดา
"แม่คะ เร็วเข้าปลาเยอะแยะเลย ฮะ ฮะ ฮะ ปลาต้มเต้าเจี้ยวมาแล้ว"
"หู้วว เยอะเลยครับแม่ แม่เจียหนิงของพวกเราเป็นเทพเจ้าโชคลาภจริงเนอะซูซู"
"ใช่แล้วพี่ชาย แม่เจียหนิงเป็นเทพเจ้าโชคลาภของพวกเรา"
"คุณย่าดูสิ! ได้ปลาแล้ว!"
ซูซูตะโกนด้วยความตื่นเต้น
"เก่งมากลูก! กะละมังมาแล้วลูก ยกไซขึ้นมาเลย"
แม่หวังยิ้มตามอย่างมีความสุข ในช่วงเวลานั้น แม่หวังลืมเรื่องราวเจ็บปวดในชีวิตไปชั่วขณะ นางรู้สึกเหมือนกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง มีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
ขณะเดียวกันแม่หวังก็รีบเดินไปยกกะละมังมาให้ใส่ปลา เจียหนิงกับเด็ก ๆ จึงค่อย ๆ ลากไซขึ้นมาจากคลองอย่างระมัดระวัง แล้วเทปลาใส่กะละมังก่อนจะหากระด้งไม้ไผ่มาคลุมไว้
"เดี๋ยวผมช่วยย่ายกปลาไปไว้ในครัวเองครับ"
"อาโต้วอย่าลืมหยิบตะกร้าออกมาด้วยนะลูก เดี๋ยวแม่วางกับดักปลาไว้อีกรอบหนึ่งเราจะได้ไปเก็บผักป่าไปส่งที่คอมมูนกัน"
"ครับแม่"
สองย่าหลานช่วยกันยกกะละมังปลาเข้าไปไว้ในครัว พร้อมกับปิดประตูอย่างมิดชิด ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับตะกร้าคนละใบแล้วสะพายบ่าเข้าป่าไปเก็บผัก
หลายชั่วโมงผ่านไปเจียหนิงกับอาโต้วและแม่หวังกลับออกจากป่ามาพร้อมกับผักป่า 3 ตะกร้า วันนี้เจียหนิงกับอาโต้วขนผักไปส่งที่คอมมูนด้วยตัวเองเพราะมีแม้หวังรับหน้าที่ทำกับข้าวให้ทุกคนแล้ว
ในขณะที่สองย่าหลานช่วยกันทำอาหาร เสียงหัวเราะและการพูดคุยดังขึ้นอย่างมีความสุข แม่หวังเริ่มรู้สึกถึงความรักจากลูกหลาน ที่ไม่สามารถหาได้จากบ้านใหญ่หวัง ในที่สุดความรู้สึกของนางก็เริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง
"เซียวเหริน วันนี้แม่ทำปลาต้มเต้าเจี้ยวที่ลูกชอบด้วยนะ ครั้งนี่แม่ทำสุดฝีมือเลย หวังว่าลูกคงจะชอบ"
แม่หวังพูดกับลูกชายเบา ๆ พร้อมกับเดินเข้าไปประคองลูกชายแล้วพาไปนั่งที่เก้าอี้
"ชอบอยู่แล้วครับ แม่ก็รู้ว่าผมรอแม่มาทำให้กินนานแค่ไหนแล้ว"
คำพูดของลูกชายทำให้ผู้เป็นแม่กลืนก้อนสะอึกจนพูดอะไรไม่ออก แม่หวังได้แต่เช็ดน้ำตาเบาแต่ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา ทว่าคนที่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นกลับรู้สึกเจ็บแปลบในใจที่ทำให้แม่เสียน้ำตา
"..."
"ผมจะกินให้หมดเลย กับข้าวที่แม่ทำให้ต้องอร่อยมากแน่ ๆ แต่ตอนนี้ผมขอชิมก่อนได้ไหมครับ แค่ได้กลิ่นท้องของผมก็ร้องประท้วงแล้ว"
เซียวเหรินพยายามหาทางออกเพื่อให้มารดากลับมาพูดคุยได้ตามปกติ โชคดีที่ลูกสาวของเขาก็ช่วยพ่อได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย
"ใช่ ๆ ซูซูก็อยากชิม ถ้าย่าให้พ่อชิมต้องแบ่งใช้ซูซูชิมด้วยนะคะ"
"ได้เลยจ้ะ ย่าจะตักให้ซูซูกับพ่อของหลานได้ชิมทั้งสองคนเลย"
ถ้วยน้ำแกงปลาที่ถูกเป่าจนอุณหภูมิความร้อนพอเหมาะ ถูกวางไว้ในมือของเซียวเหรินกับซูซูน้อยคนละถ้วยเล็ก ทั้งคู่เป่าไม่นานก็ยกขึ้นชิมพร้อมกันก่อนจะตอบเป็นคำเดียวเลยว่า..
"อร่อยครับ อร่อยเหมือนเดิม เหมือนที่ผมเคยกิน"
"อร่อยจริงด้วยค่ะย่า แบบนี้ซูซูกินข้าวได้หลายถ้วยเลยนะคะ"
"คงไม่ได้หลอกให้ย่าดีใจหรอกใช่ไหมซูซูน้อยของย่า"
"ไม่ค่า ซูซูไม่โกหก"
เวลาที่เหลือหลังจากนั้นแม่ลูกก็เริ่มหุงข้าวและทำกับข้าวเพิ่มอีก 2 อย่าง พอเจียหนิงกับอาโต้วกลับมาก็รีบไปอาบน้ำล้างตัวเตรียมมากินข้าวเย็นพร้อมกัน
เจียหนิงจัดโต๊ะอาหารช่วยแม่สามีตามปกติ เธอแกล้งทำถ้วยข้าวหล่นจากโต๊ะ สัญชาตญาณทำให้หวังเซียวเหรินยื่นมือคว้าถ้วยข้าวไว้ได้ทัน เจียหนิงและลูก ๆ รวมไปถึงแม่หวัง ต่างจ้องมองเขาเป็นตาเดียว
"พ่อ.../โอ๊ะ พ่อ!"
"อาเหริน!"
