ตอนที่ 13 เกิดเหตุร้าย
ตอนที่ 10
เกิดเหตุร้าย
"เห้ย" เสียงนี้ทำให้ผมเหมือนที่ผมถึงกับน้ำตาไหลออกมา พี่เหนือมาทันเวลาพอดีเลยครับ พี่เหนือแตะฆาตกรออกจากตัวผม ก่อนที่ฆาตกรจะเอามีดแทงลงมาที่ที่ตัวผม ผมเอ
รีบลุกขึ้นแล้วไปหลบอยู่ที่เคาน์เตอร์ในร้านทันที ตัวผมสั่นเพราะภาพเหตุการณ์ในคืนที่ผมเห็นฉากฆาตกรรมมันลอยเข้ามาในหัวของผม
"เห้ยยยย" ผมอุทานออกมาอีกครั้งที่มีคนมาจับไหล่ของผม
"ผมเองครับ"
"ผู้หมวดเองเหรอครับ"
"ครับ...พอดีผมติดรถมากับผู้กองนะครับ"
"รีบๆ รีบไปช่วยผู้กองจับตัวฆาตกรเถอะครับ" ผมเอยกับผู้หมวดด้วยเสียงสั่นที่ยังกลัวไม่หาย
"คนร้ายงั้นเหรอครับ" เพล้ง เสียงข้าวของตกลงพื้นทำให้ผู้หมวดที่กำลังจะรีบวิ่งไปหลังร้านถูกชนเข้ากับคนร้าย
"เห้ย" ผู้หมวด ขว้าได้เพียงเสื้อคลุมของคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ
"ภณ จับมันไว้ มันคือฆาตกรต่อเนื่อง" คนร้ายที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบวิ่งไปขึ้นรถตัวเองที่จอดทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รรถมอเตอร์ไซส์ถูกขับออกไปด้วยความเร็วจนทั้งสองคนไม่คิดจะตามไปเพราะตามไปก็คงจะไม่ทันอยู่
"คลื่น"
"ห๊ะ..ห๊ะ..."
"ไหวไหมครับ"
"พี่เหนือ ผะ..ผม กลัว"
"ถ้างั้นเรากลับบ้านกันครับ ค่อยไปคุยกันที่บ้านครับ"
"ภณ เรียกเจ้าหน้าที่มาเก็บหลักฐานด้วย"
"ผู้กองได้รับบาดเจ็บนิครับ" ผมมองตามสายตาของผู้หมวดภณแล้วก็พบว่าที่แขนข้างขวาของพี่เหนือมีบาดแผลตรงตค้นแขนเป็นแผลใหญ่พอสมควร
"ไปโรงพยาบาลก่อนไหมครับ"
"พี่ไม่เป็นอะไร เรากลับบ้านกันครับ"
"ผมพาพี่ไปโรงพยาบาลเถอะครับ ผมเป็นห่วงพี่น่ะครับ"
"อ่ะแฮ่มมม!!! ผมว่าผู้กองไปโรงพยาบาลเถอะครับ ไปให้คุณทิศใต้ทำแผลสักหน่อยเถอะครับ" ผมมองทั้งสองคนด้วยความงง ว่าพวกเขาคุยกันเรื่องอะไร
"พี่มีพี่ชายชื่อทิศใต้ หมอชันสูตรศพไง จำได้ไหมครับ"
"จำได้แล้วครับ"
"ถ้างั้นผมพาพี่เหนือไปหาพี่ใต้ก่อนครับ แล้วเราค่อยกลับบ้านกันครับ"
"บ้านเราก็มา"
"ครับ"
"ภณ คุณยังไม่ไปตามเจ้าที่มาเก็บหลักฐานอีกเหรอ"
"ไปเดี๋ยวนี้แหละครับ ใส่ใจจนเขาดูออกกันไปหมดแล้วครับ เหลือก็แต่เจ้าตัวที่ดูไม่ออกแล้วครับผู้กอง"
"ภณ เดี๋ยววเถอะ"
"ผู้หมวดพูดเรื่องไรเหรอครับ"
"ก็พูดถึงคนที่รีบมาหาคุณในทันทีที่รู้ว่าคุณอยู่คนเดียวไงครับ"
"พี่เหนือ รีบมาหาผมทั้งๆที่ยังติดงานอยู่เหรอครับ"
ก็ไม่เชิงครับ พี่ว่าเราไปทำแผลกันก่อนดีกว่าครับ"
"ครับ"
ผมพาพี่เหนือไปทำแผลที่โรงพยาบาลแต่คนที่ทำแผลให้พี่เหนือ กลับไม่ใช่พี่ชายของพี่เหนือหรอกครับ เป็นเพื่อนของพี่ทิศใต้แทนครับ เพราะพี่ทิศใต้ติดผ่าตัดคนไข้อยู่ พี่ฟาร์มเลยเป็นคนมาทำแผลกับจัดยาให้แทนครับ
ผมยืนฟังคำสั่งของเภสัชเป็นเพื่อนพี่เหนือ เพื่อที่จะได้ช่วยจัดยาให้พี่เหนือได้เวลาที่พี่เหนือลืม พวกเราพากันกลับมาบ้านที่ยัยน้ำกำลังนั่งร้องไห้รอผมอยู่บนโซฟา โดยมีภามค่อยกอดปลอบ ผมมองดูภาพนั้นด้วยใจที่แตกสลาย พอคิดว่าถ้าวันนี้พี่เหนือมาหาผมช้ากว่านั้นหน่อยผมคงกลายเป็นศพที่แปดไปแล้ว แล้วน้ำก็คงเหลือแค่ตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีก น้องคงจะโดดเดี่ยวไม่น้อยเลยครับ
ผมที่ยืนมองภาพนั้นแล้วน้ำตาของผมก็ไหลลงมา มันบีบหัวใจของคนเป็นพี่ชายอย่างผมที่ต้องเลี้ยงน้องเองมาเป็นสิบๆปี
"พี่คลื่น" น้ำที่เงยหน้าจากภามเห็นผม ก็ปล่อยมือจากแฟนตัวเองวิ่งมาหาผมทันที
"พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม พี่รู้ไหมว่าน้ำกลัวแค่ไหนที่ไปหาพี่ที่ร้านแล้วผู้หมวดบอกว่าพี่ถูกลอบทำร้าย"
"น้ำ" ผมได้แต่เรียกชื่อน้องสาว แล้วค่อยๆเอามือลูปหลังน้องสาวที่ตอนนี้เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนัก
"พี่คลื่นรู้ไหมคะ ว่าน้ำกลัวมากแค่ไหน"
"พี่ก็กลัวน้ำ" เราสองคนกอดกันร้องไห้หนักกว่าอีก ผมกลัวเอามากๆเลยครับ
"แล้วงี้น้ำจะกล้าทิ้งพี่คลื่นอยู่ที่นี้คนเดียวได้ยังไงคะ"
"น้ำหมายความว่าไง"
"น้ำต้องเตรียมสอบ แล้วอาจจะติวหนังสือกับเพื่อนจนดึกหรืออาจจะต้องทำรายงานจนเกือบเช้า น้ำเลยจะมาขออนุญาตพี่คลื่นไปค้างบ้านพี่ภามแทนนะคะ"
"ถ้าพี่บอกไม่ให้เราไป เราจะไม่ไปไหมครับ" ผมพูดออกไปตามความรู้สึกจากใจจริงว่าถ้าไม่อยากให้น้ำไป น้ำจะโกรธผมไหม
"ไม่ค่ะน้ำเข้าใจ แต่น้ำก็ไม่อยากให้พี่เป็นห่วงไงคะ"
"เพราะถ้าน้ำกลับดึก พี่ก็จะต้องรอน้ำจนกว่าน้ำจะกลับมาใช่ไหมล่ะค่ะ"
"ใช่" ผมตอบตามความจริงทำให้น้ำยิ้มออกมาได้บ้าง
"เห้อออ ภามสัญญากับพี่อย่างสิ" ผมหันไปมองภามที่นั่งฟังเงียบอยู่ที่โซฟา
"ครับ พี่จะขออะไรผมเหรอครับ"
"เราจะรับปากพี่ได้ไหม"
"พี่พูดคำขอมาก่อนครับ เพราะผมจะไม่รับปากอะไรส่งๆครับ"
"อย่าปล่อยให้น้ำอยู่คนเดียวต้องอยู่ในที่ ที่มีคนในชุมชนตลอดห้ามอยู่ในที่เปลี่ยวๆกันสองคน"
"ถ้าเป็นเรื่องนี้ได้ครับ"
"แล้วพี่คลื่นจะอยู่กับใครล่ะคะ"
"เดี๋ยวพี่ย้ายมาอยู่ที่นี้เองครับ" พี่เหนือที่ยืนฟังพวกเราคุยกันที่ประตูมาสักพักแล้วพูดขึ้นมา
น้าขอมานอนกับผมคืนนี้เพราะน้ำจะไม่อยู่บ้านหลายวันเลยอยากนอนคุยกับผมเหมือนตอนเด็กๆส่วนภามกับพี่เหนือนอนห้องเดียวกัน ที่ห้องของผม ส่วนตัวผมก็มานอนกับน้องสาว
"พี่คลื่น พี่ว่าพี่เหนือเป็นคนยังไงคะ"
"หื้อ ทำไมถามเรื่องพี่เขาล่ะน้ำ"
อยู่น้ำก็ถามถึงคุณตำรวจหนุ่มที่พักนี้มานอนค้างที่บ้านผมแทบจะทุกวันไปแล้วครับ ถ้าถามความรู้สึกของผมว่าพี่เหนือเป็นยังไงผมก็คงตอบได้แค่ว่าผมรู้สึกดีที่มีพี่เหนือค่อยปกป้องผม มันทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่เห็นหน้าพี่เหนือ
"ก็ดี" ผมตอบน้องสาวสั้นๆ เพราะไม่อยากให้น้องสาวมองว่าผมแปลกที่รู้สึกดีกับผู้ชายคนหนึ่ง
"ดีก็ดีแล้วค่ะ เพราะน้ำเองก็ชอบพี่เหนือนะคะ"
"อะไรของเราห๊ะ ยัยน้ำ"
"เปล่าค่ะ น้ำแค่อยากให้พี่คลื่นรู้ว่าน้ำก็ชอบพี่เหนือเหมือนกันค่ะ"
"นอนไปเลยยัยน้ำ" ผมไล่น้องสาวตัวดีให้หลับไปเลย
น้ำเก็บของไปแต่เช้า เพราะวันนี้มีเรียนด้วยเลยเก็บของไปพร้อมกับที่จะไปเรียนตอนเย็นก็จะไม่กลับเข้ามาที่บ้านอีก ผมเลือกที่จะตื่นมาทำข้าวต้มกุ้งให้กับคนที่เป็นไข้อ่อนๆตั้งแต่เช้า ภามกระซิบบอกผมก่อนที่จะพาน้ำไปเรียน ผมเลยเลือกที่จะทำข้าวต้มกุ้งให้เขา
ผมโทรบอกเด็กว่าร้านจะปิดปรับปรุงสักสองวัน จากเหตุการณ์เมื่อคืนร้านได้รับความเสียหายบ้างบางส่วน ถึงจะไม่เยอะแต่ก็ต้องเก็บกวาดเศษกระถางและเศษดินที่กระจัดกระจายไปทั่วร้านอยู่ดี ผมเลยเลือกที่ะปิดร้านสักสองวันเพื่อที่ตัวเองจะได้ทำใจในเรื่องนั้นด้วย
ก๊อกๆๆ
ผมเคาะห้องนอนตัวเองที่ตอนนี้มีคุณตำรวจหนุ่มมานอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านผม ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าพี่เหนือกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับใครบางคนด้วยสีหน้าท่าทางที่เครียดมาก
"อืม ได้ๆๆ โอเคๆ หมวดจัดการตามนั้นได้เลย"
"มีอะไรรึเปล่าครับ" ผมถามพี่เหนือหลังจากพี่เหนือวางโทรศัพท์จากหมวดภณเรียบร้อยแล้ว
"ฆาตกรก่อเหตุอีกแล้ว"
"เหมือนมันมาฆ่าเราไม่สำเร็จเลยไปลงกับคนอื่น แถมครั้งนี้ยังทิ้งข้อความไว้อีกด้วย"
"พี่กำลังจะบอกว่า เมื่อคืนหลังจากฆาตกรหนีไปเขาไปฆ่าคนอื่นแทนผมเหรอครับ"
"ใช่" ผมทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างช้าๆ มีคนตายเพราะผมแล้วครับ แล้วก็อาจจะมีศพต่อไปที่ต้องตายเพราะผมอีกใช่ไหมครับ แหมะ แหมะ น้ำตาของผมไหลลงบนหลังมือตัวเองด้วยความเสียใจ ที่ผ่านมาผมพยายามที่จะไม่โทษตัวเองมาตลอดเลยครับ
"คลื่น"
"ใจเย็นๆไว้ก่อน"
"แต่ผมทำให้ต้องมีคนมาตายเพราะผมนะครับ" ผมพูดออกไปด้วยเสียงสั่นๆๆ
"ไหนวันนี้คลื่นทำอะไรมาให้พี่กินครับ" พี่เหนือที่พยายามเปลี่ยนเรื่องที่จะทำให้ผมกังวลไปพูดถึงเรื่องอาหารที่อยู่ในถาดแทน
"ข้าวต้มกุ้งครับ พี่แพ้รึเปล่าครับ"
"ไม่แพ้ครับ วันนี้คลื่นไปร้านไหมครับ"
"ไม่ครับแต่ว่า ว่าจะเข้าไปทำความสะอาดซะหน่อยครับ"
พี่เหนือทำเพียงพยักหน้าก่อนที่จะจะกินข้าวต้มที่ผมทำให้ ผมไม่ได้พูดอะไรคชต่อได้แต่นั่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนและ เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายแทนผม แล้วได้แต่แขว่งขาตัวเองแก้เครียดไปเรื่อยๆ
"ถ้างั้นพี่ไปช่วยเก็บร้านเองครับ"
"พี่ลาสองวัยพอดีเลย วันนี้เก็บร้านเสร็จแล้วพี่พาเราไปเที่ยวดีไหมครับ"
"พี่เหนือพาจะพาผมไปเที่ยวที่ไหนครับ"
"งั้นเราไปไหว้พระที่อยุธยากันดีไหม คลื่นจะได้สบายใจ"
"ได้ครับ ถ้างั้นพี่กินยาก่อนน่ะครับ แล้วพี่จะขับรถไหวไหมครับ"
"ไหวครับ"
พวกเราสองคนพากันไปช่วยกันเก็บร้านแต่ก็พบว่าที่ร้านมีพวกน้องๆกับพี่ธารมาช่วยกันทำอยู่ก่อนแล้ว พวกเราใช้เวลาไม่นานก็ทำความสะอาดร้านเสร็จ พี่ธารบอกว่าจะพาน้องๆไปเลี้ยงข้าวแทนผมเพราะเหมือนจะรู้ว่าผมกับพี่เหนือจะต้องกลับไปเก็บเสื้อผ้ากันต่อ ผมถูกทะเลกับเพยเพยแซวเรื่องไปเที่ยวนิดหน่อย สองคนนั้นก็ถูกทิวเขาลากออกไป
เราสองคนเก็บเสื้อผ้าเสร็จพี่เหนือก็เรียกรถเพื่อจ้างรถไปส่งพวกเราสองคนแทนการขับรถไปเอง ตอนนี้พวกเรามาถึงอยุธยาตอนสี่ทุ่มกว่าๆพี่เหนือเปิดห้องให้กับคนขับรถอีกห้องส่วนผมกับพี่เหนือเรานอนห้องเดียวกัน
"พักผ่อนก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่พาไปไหว้พระนะครับ"
"ครับ พี่เองมาล้างแผลก่อนนะครับ" ผมล้างแผลให้คนป่วยก่อนพวกเราสองคนจะนอนหลับไปพร้อมความเพลียของร่างกาย
อื้ออออ
"ตื่นครับ ไปใส่บาตรกัน"
"ได้ครับๆ" พี่เหนือขานรับทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา
"ผมกับพี่เหนือเรามาใส่บาตรพระเสร็จ ผมสองคนก็พากันมาไหว้พระใหญ่โบราณ มาเดินเที่ยวเมื่องโบราณในเวลาเที่ยงพอดี ทำให้ผมหน้าแดงเพราะอากาศร้อนมาก พี่เหนือเลยอาสาจะไปซื้อน้ำให้ผม ผมมองดูเมืองเก่าที่ยังคงความขลังของโบราณวัตถุเอาไว้เป็นอย่างดี สงบยังครับบรรยากาศที่นี่สงบมากจริงๆครับ
กริ๊กๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาทำให้ผมต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมารับ
ลูกน้ำ
ผมกดรับสายน้องสาวตัวเองก่อนที่จะต้องตกใจจนทำมือถือในมือตก
คน คนอย่างพวกมึงมันสมควรตาย
.......................................................
โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอบคุณที่ติดตามไรต์น่า
ช่องทางการติดต่อไรท์ นะคะ
Facebook : เยว่ทู่
Twitter : เยว่ทู่
Tiktok : เยว่ทู่
