ตอนที่ 12 คนส่งอาหาร
ตอนที่ 9
คนส่งอาหาร
เช้าที่ตื่นมาแล้วไม่คุ้นชินกับการมีผู้ชายหน้าตาดีมานอนอยู่บนเตียงกันกับผมเลยครับ ให้ความรู้สึกแปลกออกไปจริงๆครับ
ผมลุกขึ้นจากที่นอนพาตัวเองออกจากความคิดที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจผมมันทำงานผิดปกติ แค่มองหน้าคุณตำรวจหนุ่มก็ทำให้หัวใจผมเต้นแรงจนไม่น่าเชื่อได้เลยครับ
ผมลงมาเตรียมอาหารเช้า ให้กับสองชีวิตที่นังไม่ยอมตื่น ส่วนคนที่ตื่นมาช่วยผมเตรียมในเช้านี้ก็คือ ภาม เขาขอนอนเฝ้าข้างล่างแทนผู้กองยืนเถียงกันเป็นชม. เรื่องใครจะนอนโซฟา นั้นทำให้ผมตัดใจให้แทน ดังนั้นเมื่อคืนห้องผมจึงมีสามหนุ่มนอนอยู่ด้วยกัน
"ทำไมตื่นเช้ากันจังค่ะ" น้ำที่ตื่นแล้วเดินเข้ามาทักแฟนตัวที่ตอนนี้กำลังล้างวัตถุดิบ
"พอพี่คลื่นตื่น พี่ก็พลอยตื่นตามไปด้วย" ภามหันไปบอกแฟนสาวที่งอแง
"เลิกจีบกันแล้วช่วยพี่ทำอาหารได้แล้ว" ผมหันไปบอกยัยน้องสาวตัวดีที่เอาแต่ยืนคุยกันงุงงิ้งอยู่สองคน
ทั้งสองคนเลยหันมามองผมก่อนที่จะพยักหน้ากันสองคนแล้วช่วยกันล้างผักหั่นวัตถุดิบเพื่อช่วยผมทำอาหาร ผมทำอาหารไปหันไปมองทางบันไดไป
"พี่คลื่นมองหาใครคะ"
"เออ คือพี่มองหา"
"ถ้าพี่มองหาพี่เหนือเหมือนวันนี้ พี่เขาจะมีงานเช้าออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วครับ" ภามไขข้อข้องใจให้กับผมได้ทันที ตอนตื่นนอนผมเองก็ไม่ได้สังกตุว่าพี่เขายังนอนอยู่บนที่นอนรึเปล่า ได้แต่นึกว่าจะลงมาทำอะไรให้คนที่กำลังนอนหลับทั้งสามกินดี
"งั้นเหรอ" ผมตอบรับคำสั้นๆเพียงเท่านั้น ก่อนที่จะหันกลับมาทำกับข้าวต่อ
วันนี้คนที่มาส่งที่ร้านคาเฟ่ คือภามกับน้ำส่วนพี่เหนือ ภามบอกว่าพี่เขาเข้าเวรตั้งแต่เช้าแล้ว ทำไมมันรู้สึกหวิวๆเหมือนผมขาดอะไรบ้างอย่างไปเหมือนกันน่ะครับเนี้ย ที่ไม่มีพี่เขามาส่งที่ร้าน
"ทำไมวันนี้เจ้าของคาเฟ่ของเราหน้ามุ้ยแต่เช้าเลยล่ะครับเนี่ย"
"ทะเล เดี๋ยวเหอะ!!!"
"เพราะว่าวันนี้คนมาส่งเป็นน้องสาวตัวเองไงคะ ไม่น่าใช่ผู้กองหนุ่มหล่อ"
"นี่เพยเพย พี่ให้ค่าแรงเราเยอะไปใช่ไหมครับ" ผมล่ะเหนื่อยใจกับสองคนนี้จริงๆเลยครับ
"สองคนนั้นก็แค่อยากเป็นชิปเปอร์ไงครับ"
"ทิวเขาหมายความว่าไง" ชิปเปอร์งั้นเหรอ ผมไม่เข้าใจในความหมายที่ทิวเขาหมายถึงอะไร
"ก็พวกที่ชอบจับคนนี้กับคนนั้นมาคู่กัน เหมือนที่ตอนนี้ ทั้งสองคนกำลังจับพี่มาคู่กับผู้กองทิศเหนือไงครับ"
"อ้อ แบบนี้นี่เองพี่เข้าใจแล้ว แต่พี่กับพี่เหนือเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนิครับ"
"จะใช่แบบนั้เหรอครับ พอพี่เขาไม่มาส่ง ทำไมพี่คลื่นของพวกเราถึงได้หงอยเป็นลุูกหมาแบบนี้ล่ะครับ"
"ทะเลครับ พี่ใจดีเกินไปใช่ไหมครับเราถึงได้พูดแบบนี้กับพี่"
"เปล่าครับ ผมไปทำความสะอาดร้านดีกว่า ไปกันครับพี่เพยเพย ก่อนที่เราสองคนจะโดนหักเงินเดือนครับ"
"ไปเลยทั้งคู่" ผมไล่สองแสบไปทำความสะอาดร้านเพื่อเตรียมเปิดร้าน
"พี่ธารยังไม่มาเหรอทิวเขา"
"มาแล้วน่ะครับ พี่เขารดน้ำดอกไม้ของแม่พี่อยู่หลังร้านครับ"
"งั้นเหรอ งั้นพี่ตัดกุหลาบขาวมาใส่แจกันในร้านหน่อยแล้วกัน"
ผมเดินออกไปหลังร้านที่ผมกับแม่ช่วยกันปลูกดอกไม้เอาไว้หลายพันธ์ุ แต่หลังจากแม่ผมเสียไป ผมก็ยังไปหาพันธ์ุดอกไม้เหล่านั้นมาปลูกทดแทนต้นที่ตายไป กุหลาบสีขาวที่แม่ผมชอบมากเต็มสวนหลังร้าน ผมเดินตรงไปหาคนที่ยื่นรดน้ำดอกไม้ให้ผมอยู่ครับ
"ไง" พี่เขาเอยทักผมขึ้นมาสั้นๆ
"โถรธผมเรื่องนั้นเหรอครับ"
"เปล่าหรอก" พี่ธารยังคงตอบผมสั้นๆเหมือนเดิมครับ
"แล้วพี่....." ผมเว้นช่องว่างแล้วมองดูอาการของคนตรงหน้า
"พี่ก็แค่น้อยใจครับ"
"พี่กับคลื่นเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่คลื่นกับเข้าข้างเขา"
"ผมไม่ได้เข้าข้างเขาครับ"
"แต่ผมมองว่าเขาทำตามหน้าที่ของเขาอยากสุดความสามารถเขาแล้วครับ
"เห้อออ สรุปพี่ก็ยังเป็นคนผิดสิน่ะ"
"พี่ตัดดอกไม้ไว้ให้เราแล้วน่ะ อยู่ในตะกร้าตรงนู้น" พี่ธารชี้ไปยังตะกร้าดอกกุหลาบสีขาวในตะกร้าไม้สานของที่แม่ผมใช้มาตลอดตอนมีชีวิต ผมรักษาและยังคงใช้มันมาเป็นอย่างดี ผ่านมาจะเป็นสิบปีทำให้สภาพไม่ใช้อาจซีดไปบ้าง แต่ยังไม่ถึงกับใช้ไม่ได้ ผมหยิบตะกร้าขึ้นมาถือไว้ ก่อนจะเอยชวนคนที่รดน้ำดอกไม้เสร็จแล้วเข้าไปในร้านด้วยกัน
ไลน์
เสียงการแจ้งเตือนไลน์ของผมแจ้งเตือนว่ามีข้อความใหม่เข้ามา หื้อ ไลน์เตือนเพื่อนใหม่งั้นเหรอครับ ผมเปิดอ่านข้อความจากเพื่อนใหม่ก่อนจะต้องยิ้มออกมาเพราะข้อความที่ถูกส่งมาจากคนที่มีงานด่วนจนต้องรีบออกจากบ้านไป
ทิศเหนือ : หิวข้าวฝีมือคลื่นจังครับ
ข้อความที่มาพร้อมกับรูปภาพ แซนด์วิชกับกาแฟที่วางคู่กันบนโต๊ะทำงาน
ลูกคลื่น : พี่เอาไลน์คลื่นมาจากไหนครับ
ทิศเหนือ : พี่เอาเบอร์คลื่นมาจากน้ำเมื่อคืนครับ
ลูกคลื่น : อ้อครับ ตอนนี้พี่เหนืออยู่โรงพักไหมครับ
ทิศเหนือ : อยู่ครับ พี่เพิ่งกลับมาจากการไปสืบคดีข้างนอกพอดี
ลูกคลื่น : โอเคครับ
ผมเดิินเข้าไปครัวก่อนจะลงมือทำอาหารที่คิดว่าน่าจะให้พลังงานกับคนที่ทำงานแบบเขา ก่อนจะจัดใส่กล่องอาหารอย่างดีนำใส่กระเป๋าก่อนที่จะตรงไปเรียกรถส่งอาหารนำอาหารไปส่งให้กับคนที่บ่นว่าหิวข้าว
ลูกคลื่น : ทานให้หมดนะครับ
ผมส่งข้อความพร้อมกับอาหารที่ถูกจัดใส่กล่องอย่างดีพร้อมกับชาคาโมมายล์ที่แม่ของผมเป็นคนคิดค้นสูตรขึ้นมา ซึ่งรสชาติแบบนี้จะหาทานได้แค่ที่ร้านของผมเท่านั้นครับ ไม่มีข้อความตอบกลับมาจากคนที่ต้องรอรับอาหารของผม
วันนี้ที่ร้านคนก็ยังเยอะเหมือนเดิม อาจจะเพราะร้านของเราปรับเปลี่ยนมาขายเค้กคู่กลับชาดอกไม้ที่สรรพคุณต่างๆที่แม่เป็นคนคิดค้นขึ้นมาจากสมุดของท่านที่ผมไม่เคยคิดจะเอามาเปิดอ่านจนวันที่ผมไม่สามารถออกไปไหนได้ด้วยตัวเอง ผมเลยเลือกที่จะหยิบสูตรอาหารของแม่ขึ้นมาทำและปรับปรุงเพื่อพัฒนาสูตรขึ้นไปอีก
ไลน์
หื้อ มีแจ้งเตือนเข้ามาใหม่ทำให้ผมต้องเงยหน้าจากการทำบัญชีของผม แต่นี่ไม่ใช่ข้อความจากพี่เหนือ แต่มันเป็นข้อความจากชื่อที่ผมไม่ได้เป็นเพื่อนด้วย โดยชื่อไม่แสดงขึ้นมา ผมเปิดดูแล้วก็ต้องพบกับความประหลาดใจขึ้นอีกครั้งครับ เพราะที่ส่งมากับรูปอาหารที่ผมส่งให้กับพี่เหนือ และรูปของผมที่เอากระเป๋าอาหารไปส่งให้กับคนส่งอาหาร พร้อมกับข้อความที่ส่งมาให้ผมด่้วยประโยคที่ทำให้ผมถึงกับตาโต ที่ข้อความนั้นเด้งเข้ามาครับ
พวกมึงมันสมควรตาย
ผมถึงกับมือสั่นทันที ที่ข้อความเด้งเข้ามาเพราะมันเป็นประโยคเดียวกันกับเสียงที่ได้ยินวันนั้นที่โรงแรมนั้นครับ คำพูดของฆาตกรที่ฆ่าหญิงสาวคนนั้น
ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนที่ส่งข้อความมาหาผมตั้งแต่ตอนที่ได้อาหารว่า ได้รับของแล้ว ผมก็ยุ่งมากจนไม่ได้ตอนกลับข้อความพี่เขา ผมแคปหน้าจอไลน์ของคนร้ายส่งหาพี่เหนือทันทีครับ
พี่เหนือ
"ครับ" พี่เขาโทรมาถามหาผมด้วยความเป็นห่วงผมเพราะคชตอนนี้พี่เขาอยู่ที่เกิดเหตุ เพราะมีชาวบ้านแจ้งความเข้ามาว่าพวกเขาพบศพถูกหั่นออกเป็นชิ้นๆ แยกทุกส่วนออกมา ผมฟังสิ่งที่เหนือบอกแล้วก็ยิ่งทำให้อึ้งเข้าไปใหญ่ ผมกลัว!!! ถ้าหากว่าวันหนึ่งผมต้องเผชิญหน้ากับฆาตกร หรือถ้าหากว่าวันหนึ่งมันทำอะไรน้ำผมจะต้องทำยังไงดี พอคิดว่าถึงตรงนี้ก็ทำให้ผมต้องทรุดตัวลงด้วยความรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก
"คลื่น"
"ห๊ะ...ครับ!!!" ผมสะดุ้งสุดตัวทันที ที่มีคนมาเรียกผม
"พี่ธารมีอะไรหรือเปล่าครับ"
"เปล่า พี่เห็นสีหน้าเราแล้วเป็นห่วง มีอะไรรึเปล่าคลื่น"
"เออ คือผมห่วงน้ำแหละครับ วันนี้น้ำยังไม่ไลน์หาผมเลยครับ"
ผมเลือกที่จะปิดพี่ธารเอาไว้เพราะไม่อยากให้พี่เขาห่วงเกินกว่าเหตุ วันก่อนที่พี่ธารมีเรื่องกับพี่เหนือเพราะเรื่องความปลอดภัยของผม ถ้าหากรู้ว่าวันนี้ผมโดนขู่แถม คนร้ายก็ยังก่อเหตุฆาตกรรมโดยที่ตำรวจยังสืบหาตัวจริงของฆาตกรไม่ได้ พี่ธารคงเป็นห่วงผมมากแน่ๆเลยครับ ผมเลยเลือกที่จะยังไม่บอกความจริงกับพี่ธารดีกว่า
"เราเตรียมปิดร้ายกันเถอะครับ"
"แล้ววันนี้คลื่นจะกลับบ้านยังไงครับ"
"พี่ธารไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยววันนี้พี่เหนือจะมารับแต่เขาจะมารับช้าหน่อยครับเพราะติดงานนะครับ"
"ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนก่อนไหมครับ"
"ไม่เป็นไรครับผมอยู่คนเดียวครับ"
ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้วครับผมไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของพวกเขา เพราะวันนี้ลูกค้าก็เยอะมากพอสมควร ดังนั้นน้องๆกับพี่ธารเองก็คงเหนื่อยมากพอสมควรแล้วครับ ผมเลยไม่อยากให้พวกเขาต้องมารอพี่เหนือเป็นเพื่อนผม
เพล้ง
หลังจากน้องๆที่ร้านกลับแล้วผมอยู่คนเดียวมาสักพัก อยู่ๆผมก็ได้ยินเสียงกระถางต้นไม้หล่นมาจากหลังร้าน ผมค่อยๆเดินไปทางหลังร้านเพื่อดูว่าทำไมกระถางแคตตัสที่ผมวางไว้บนชั้นหลังร้านตกลงมาได้ยังไง
"เห้ย!!!" ผั๊วะ อยู่ท่อนไม้ก็ถูกฟาดลงมาเต็มแขนของผมอยากชายชุดดำ
"พวกมึงสมควรตาย" น้ำเสียงแบบนี้ทำให้ผมถึงกลับกลัวจนตัวสั่น
"กลัวเหรอ" ฆาตกรยังพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบเหมือนพยายามพูดให้เป็นแบบนั้น พฤติกรรมลอกเลียน เหมือนเขาพยายามลอกเลียนการพูดแบบนี้มากใครสักคนหนึ่ง
ฉึก เขาดึงมีดออกมาจากกระเป๋าข้างลำตัว ผมขยับตัวถอยหลังไปเรื่อยๆด้วยความกลัวตาย ผมยังไม่อยากตายตอนนี้เพราะผมยังรักชีวิตตัวเองในตอนนี้ ผมยังอยากมีชีวิตอยู่เพื่อดูแลน้ำเห็นน้ำมีอนาคต มีงานแต่งงาน มีชีวิตที่ดี
"เห้ยยยยยย"
......................................................
โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอบคุณที่ติดตามไรต์น่า
ช่องทางการติดต่อไรต์ นะคะ
Facebook : เยว่ทู่
Twitter : เยว่ทู่
Tiktok : เยว่ทู่
