ตอนที่ 11 ข้าวผัดปู อัญชันมะนาว
ตอนที่ 8
ข้าวผัดปู อัญชันมะนาว
ผมทำงานที่ร้านจนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น วันนี้คนเยอะผิดปกติอาจจะเพราะชอบรสชาติอาหารของทิวเขาที่มีสกิลการทำอาหารมากขึ้น หรือเป็นเพราะโปโมชั่นขอวพี่ธารกันแน่ วันนี้ถึงได้ทำให้ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษ
"พี่คลื่นๆมีคนมาหา"
"ใครเหรอ ทะเล" ผมที่ตอนนี้กำลังทำอาหารให้กับพี่เหนือเงยหน้าจากกระทะข้าวผัดขึ้นถามคนที่เข้ามาตามผมด้วยสีหน้าสดใส
"แล้วพี่ทำอาหารให้ใครล่ะ"
"ให้คนที่บ้านสิ"
"อ้อออออ เดี๋ยวนี้คุณตำรวจเขาเป็นคนบ้านพี่แล้ว"
"ผมก็นึกว่าบ้านพี่จะมีแค่พี่น้ำซะอีก"
"หึ้มมม เดี๋ยวเถอะทะเล ออกไปบอกคุณทิศเหนือให้รอพี่แป๊บหนึ่ง"
"คร้าบ เดี๋ยวผมจะบอกพี่กำลังเตรียมอาหารเขาอยู่ให้รอพี่แป๊บหนึ่งน่ะครับ"
"ทะเล!!!"
เด็กคนนี้นี่!!! มันน่าตีจริงๆพูดเสร็จก็เดินออกไปทิ้งผมที่หัวใจเต้นแรงไว้ในห้องครัวคนเดียว แล้วทำไมผมต้องมาเขินกับการถูกแซวเรื่องพี่เหนือด้วยเนี้ย บ้าไปแล้วไอ้คลื่นผมสลัดความคิดบ้าๆออกจากหัวก่อนที่จะผัดข้าว คืนยืนคิดไรบ้าบออยู่มีหวังข้าวผัดไหม้แน่ๆ
ผมตักข้าวใส่กระปุกทั้งหมดสี่กระปุก ก่อนที่จะเดินหอบถังอาหารออกมาหาคนที่มานั่งรอผมสักพักแล้ว
"เป็นตำรวจนี่ก็ดีน่ะครับดูงานน้อยดี" พี่ธารพูดขึ้นหลังจากเห็นว่าผมเดินออกมาจากห้องครัวแล้ว
"คุณหมายความว่าไงครับ"
"ก็หมายความอย่างที่พูด การที่คุณมาเฝ้าคลื่นนี่คุณว่างงานมากเหรอครับ ถ้าคุณผู้กองมีีเวลามากขนาดนั้นผมว่าคุณไปหาตัวฆาตกรดีกว่าไหมครับ"
"คลื่นกับน้ำจะได้ใช้ชีวิตแบบปกติกับเขาสักที"
"ผมว่ามันชักจะมากไปแล้วน่ะ!!!"
"มากไปเหรอ เพราะข้าราชการที่กินภาษีอย่างพวกคุณมันไม่เอาไหนรึเปล่าคลื่นถึงต้องตกอยู่ในอันตราย"
"นี่มึง" พี่เหนือลุกขึ้นจากเก้าอี้พุ่งเข้าต่อยเต็มๆปากพี่ธารก่อนที่พี่เขาจะเตรียมเข้าไปซ้ำ
"พี่เหนือหยุดครับ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว จะมาตีกันในร้านผมไม่ได้ ผมไม่อยากทำร้านใหม่ไงคุณ
"มึง" พี่ธารโดยเตรียมจะเอาคืนคนที่ยืนทำหน้ากวนประสาทพร้อมเอาคืนพี่เหนือ
"พี่ธาร คลื่นบอกให้หยุดไงครับ แล้วนี่พี่ธาราเป็นอะไรครับ ไปหาเรื่องเขาทำไมครับ"
"พี่ไม่ได้หาเรื่องมันน่ะคลื่น แล้วคลื่นไม่คิดจะโทษมันบ้างเหรอที่ทำให้คลื่นต้องมาอยู่แบบนี้"
"พี่ธาร คลื่นเป็นคนผิดเองที่เลือกทำงานแบบนั้นถึงได้ซวยไปเจอมัน แล้วอีกย่างอย่าลืมว่าคลื่นพลาดเอง"
"พี่ธาราคลื่นขอบคุณครับที่ดูแลคลื่นกับน้ำ"
"แต่คลื่นโตแล้วครับ คลื่นดูแลตัวเองได้ครับ"
"คลื่น!!!" เพราะเสียงต่อยกันของทั้งสองคนเมื่อกี้ทำให้พนักงานในร้านตอนนี้มามุงกันมองเหตุของพวกผม
ไหนจะเสียงพี่ธารที่ตวาดผมเมื่อกี้ิอีก ทำให้เด็กๆเดินตรงมาที่พวกเราทันที
"พี่ธารครับคลื่นโตพอจะดูแลน้องเองได้แล้ว"
"พี่...แค่เป็นห่วงคลื่นกับน้ำน่ะ"
"แต่คลื่นโตแล้วครับ คลื่นดูตัวเองได้ครับ" ผมพูดออกไปตามความรู้สึกของตัวเองเพราะผมโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว โดยที่ไม่ต้องให้พี่ธารมาค่อยดูแลผมเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วครับ
"คลื่น" พี่ธารเรียกผมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"พี่ธารครับ คลื่นเข้าใจว่าพี่อยากตอบแทนพระคุณพ่อแม่ผม แต่หลายปีที่ผ่านมาพี่ก็ดูแลพวกผมมามากพอแล้วครับ"
ใช่ครับหลายปีที่ผ่านมาพวกเราสองพี่น้องมีพี่ธารมาช่วยดูแลพวกเราด้วยอีกคน มันเลยทำให้พวกเราผูกพันกันพอสมควร
"ขอบคุณน่ะครับ แต่เรื่องนี้คลื่นตัดสินใจไปแล้วครับ"
"พี่ธารเชื่อใจคลื่นได้ไหมครับ"
"ครับ" พี่เขาตอบรับ ก่อนที่จะเดินออกจากร้านไป ทิ้งให้ผมอยู่กับพี่เหนือ ที่ปากแตกไม่ต่างจากกัน
"นี่เขาห่วงหรือหวงคลื่นกันแน่"
"พี่เหนือหมายความว่าไงครับ"
"ก็เขาคิดกับคลื่นเกินพี่น้องรึเปล่า"
"พี่ว่าเขาหวงเราแปลกๆ"
"พี่เหนือคิดมากไปแล้ว คลื่นเป็นผู้ชายน่ะ พี่ธารก็ผู้ชายจะมาคิดไรกับคลื่นได้ไง"
"พี่ก็ผู้ชายยังคิดกับเราได้เลย"
"ว่าไงน่ะครับ"
"เปล่าๆ เอาของมาพี่ช่วยถือ" ก็
"อะไรของเขา" พูดจบพี่เหนือ คุณผู้กองเขาก็ดึงอาหารจากมือผมไปถือ แล้วชิ่งหนีไปขึ้นรถ ปล่อยให้ผมยื่นงงว่าพี่เขาพูดอะไร ได้ยินแต่อะไรคิดๆ ถามก็ไม่ยอมบอกคนๆนี้นี่มัน...
ตลอดทางกลับบ้านพี่เหนือไม่ได้พูดอะไรอีก ปากที่ตอนแรกเป็นแค่รอยแดงจางๆตอนนี้กลับเป็นรอยช้ำให้เห็นได้ชัดขึ้นเรื่อยๆ
"นั่งก่อนครับ"
"มีไรรึเปล่า พี่จะไปเตรียมข้าวให้"
"ทำแผลก่อนครับ"
"เดี๋ยวมันจะช้ำไปมากกว่านี้ พี่จะหมดหล่อเอาน่ะครับ"
"พี่หล่อ?" ทำไมต้องยิ้มขนาดนั้น ไหนจะสีหน้าแบบนั้นอีก นี่มันเรียกว่าอะไรครับเนี้ยยย
"ก็ถือว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งครับ"
"แล้วชอบไหม"
"อะไรน่ะครับ"
"เปล่าๆๆทำแผลสิไหนว่าจะทำแผลให้พี่"
ผมไม่ได้เซ้าซี้ว่าเขาพูดว่าอะไร ถามไปคุณผู้กองคนนี้ก็คงจะปฏิเสธผมอยู่ดี
ผมเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมาทำแผลให้กับผู้กองหนุ่มที่เอาแต่นั่งมองกระปุกข้าวผัดปูไม่ว่างตา
"เดี๋ยวก็ได้ทานแล้วครับ"
"พี่ก็แค่หิว แล้วก็ไม่คิดว่าคลื่นจะทำมาให้จริงๆ"
"คลื่นก็แค่ อยากกินเหมือนกันครับ"
"อยากกินเหมือนกันเลยเหรอครับ"
"ใช่ครับอยากกินเหมือนกัน พี่เลิกถามผมได้แล้วครับ"
"โอ๊ย!!! คลื่น พี่เจ็บน่ะครับ"
"ใครใช้ให้พี่มาแกล้งคลื่นล่ะครับ" ผมจงใจเอาแอลกอฮอล์เช็ดที่แผลของเขาแรงๆทำให้เขาเจ็บจะได้เลิกแกล้งผมสักที
ผมไปจัดการเทอาหารลงจาน แล้วเอาน้ำอัญชันที่ต้มมาเรียบร้อยแล้วใส่แก้วพร้อมกับบีบน้ำมะนาวในแบบที่พี่เขาอยากทานให้เรียบร้อย เอามาตั้งที่โต๊ะกับข้าวให้พร้อมก่อน ที่จะมองไปยังคนที่เปิดคอมทำงานระหว่างรอเวลาน้ำกลับมา
กรี๊กกกก
เสีงกรี๊กหน้าบ้านดังขึ้นมาในเวลาอาหารเย็นอีกแล้วครับ เหมือนเมื่อสองสามวันที่แล้วไม่มีผิดเลยครับ เหมือนวันที่ผมได้รูปของน้ำถูกสาดด้วยเลือดมา นั้นทำให้ผมเงยมองหน้าของคนที่นั่งอยู่บนาโซฟาอย่างอัตโนมัติ
"น้ำรึเปล่าคลื่น"
"ไม่น่าจะใช้น่ะครับ น้ำมีกุญแจเข้าบ้านครับ" ผมกลับน้องจะชอบเอากุญแจล็อกหน้าบ้านไว้เพื่อความสะดวกของคนที่จะกลับบ้านตอนเช้าแบบผม
"ถ้างั้นรอพี่ที่นี่น่ะครับ เดี๋ยวพี่ออกไปดูเองครับว่าเป็นใคร"
"ระวังตัวด้วยน่ะครับ"
พี่เหนือชักปืนพกที่พกติดตัวมาตลอดเวลา ขึ้นมาถือเอาไว้ด้วยมาดผู้กอง ผมมองไปยังที่กำลังค่อยเดินออกไปส่องดูว่าคนที่มากดกรี๊กหน้าบ้านผมเป็นใครกันแน่
แต่เมื่อพี่เขาเปิดม่านออกกลับหันมามองหน้าผมอย่างสงสัย พอเห็นหน้าพี่เหนือที่หันมามองผมด้วยสายตาแบบนั้นแทบยังลดปืนลงอีก มันทำให้ผมมั่นใจว่า ไม่น่าจะมีอันตรายอะไรแล้วเลยเดินมาหาเขาแล้วมองออกไปยังประตูรั้วหน้าบ้าน
แล้วนั้นก็ต้องทำให้ผมประหลาดใจอีกคน เพราะคนที่มากดกรี๊กคือยัยน้ำกับแฟนหนุ่ม ที่ในมือกับถือกล่องพัสดุขนาดเท่ากับกล่องที่แล้วไม่มีผิด นั้นทำให้ผมกลัว ถ้าข้างในเป็นรูปน้ำในกิจกรรมของวันนี้ทั้งวันผมคงต้องรู้สึกแย่มากๆเป็นนแน่แท้เลยครับ
"พี่ว่าเข้ามาเปิดในบ้านเถอะว่าของข้างในเป็นอะไร"
"ค่ะ/ครับ"
พวกเราขานรับด้วยสีหน้าเครียดไม่ต่างกันนัก เพราะน้ำเองก็รู้เรื่องคราวที่แล้วจากพี่เหนือเป็นที่เรียบร้อย ครั้งนี้น้องเลยแสดงสีหน้าท่าทางที่เครียดและกลัวอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่เป็นไรน่ะน้ำพี่จะปกป้องน้ำเอง" ภามกอดไหล่น้ำเบาๆๆพูดปลอบไปด้วย
"ฮึ้มมม" ผมยบอะแฮ่มใส่คนที่หวานไม่ดูสถานการณ์ในตอนนี้
"พี่คลื่นน้ำกลัว"
"ไม่เป็นไรน่ะน้ำพี่จะไม่ยอมให้เกิดเรื่องไม่ดีกับน้ำแน่นอน"
"คลื่น" พี่เหนือที่ตอนนี้แกะกล่องเสร็จแล้ว เงยหน้ามาเรียกผมด้วยสีหน้าตกใจ อย่างบอกไม่ถูกนั้นทำให้พวกผมทั้งสามคนมองของในกล่อง แล้วนั้นก็ทำให้ผมตกใจไม่แพ้พี่เหนือในตอนแรก
"นี่มันอะไรกัน" ผมอุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ
ในกล่องเป็นรูปของผมที่ถูกกรีดด้วยของมีคมเป็นจำนวนหลายรูป โดยรูปทั้งหมดกับเป็นรูปแทบจะทุกอิริยาบถในร้าน นี่มันจะเป็นไปได้ยังไงครับในเมื่อห้องครัวผมห้ามคนนอกเข้ามานิครับ นอกจากพนักงานในร้านคนนอกห้ามเข้ามาหลังร้านเป็นอันขาด แล้วรูปภาพในกล่องนี่หมายความว่าไงกันแน่ครับ
"พี่ว่าคลื่นคงถูกตามแล้วแหละ"
"แต่วันนี้ลูกค้าก็เยอะมาก จนผมจำไม่ได้ว่ามีใครน่าสงสัยมาที่ร้านไหมครับ"
"ถ้าไงช่วงนี้พี่จะมาค้างที่นี่จนกว่าจะมั่นใจน่ะครับ"
"งั้นผมมาอยู่ดูแลน้ำด้วยได้ไหมครับ"
"ไม่ได้!!!" ผมกับพี่เหนือพูดขึ้นพร้อมกันแบบไม่ได้นัด
"หื้อ ทำไมล่ะค่ะ พี่เหนือก็ยังค้างที่นี่ได้ แล้วทำไมพี่ภามค้างไม่ได้ค่ะ"
"มันไม่เหมือนกัน"
"ทำไมไม่เหมือนกันค่ะพี่เหนือ" ยัยน้องสาวตัวดีที่คลายความเครียดลงเล็กน้อยถามคนที่เอาแต่ ปฏิเสธไม่ให้ภามมาค้างที่นี่ท่าเดียว มันทำให้ผมเองก็ได้แต่เลิกคิ้วถาม คนที่ตอนนี้หน้าไปไม่เป็นที่โดนเราสามคนจ้องไม่วางตา
"หิวแล้วกินข้าวกันก่อนเถอะ"
"เปลี่ยนเรื่องเฉย" ภามพูดขึ้นก่อนที่จะเดินออกไปที่โต๊ะกินข้าว
"เปลี่ยนเรื่องเก่ง กลัวคนไม่รู้ว่าห่วงใครกันแน่" ยัยน้ำมองหน้าพี่เหนือก่อนที่จะตามแฟนหนุ่มไป
"พวกนั้นพูดถึงเรื่องอะไรกันครับ" ผมไม่เข้าใจพวกเข้าทั้งสามคนเลยครับ
"ไม่มีไรหรอกน่าาา ไปกินข้าวกันครับ" เขาพูดจบก็เดินไปยังโต๊ะอาหารทิ้งผมที่ยืนงงอยู่
"มากินข้าวได้แล้วค่ะพี่คลื่น ยืนงงอะไรอยู่คนเดียวตรงนั้นค่ะ"
ผมเดินมากินข้าวที่โต๊ะอาหารเรากินข้าวกันไปแซวคู่รักวัยรุ่นกันไป หลังจากกินข้าวเสร็จ ยัยน้ำกับภามขอล้างชามทำความสะอาดกันเองเพราะเห็นว่าผมเป็นคนทำอาหารมื้อนี้แล้ว
ส่วนผมกับพี่เหนือกำลังเถียงกันเรื่องที่นอนของพี่เขาอยู่ เพราะคนโตกว่ายืนยันที่ว่าจะนอนโซฟาส่วนผมเองก็ยืนยันที่จะให้พี่เขานอนห้องเดียวกับม คนโตกว่าไม่ยอมท่าเดีิยวเลยครับ นั้นเลยทำให้ผมยื่นคำขาดกับเขาว่าถ้าไม่นอนห้องเดียวกับผมก็ต้องกลับไปนอนบ้านตัวเองนั่นแหละครับเขาถึงได้ยอมนอน
"ฝันดีน่ะครับ ลูกคลื่น" เสียงกระซิบแผ่วเบาลอยมาตามอากาศภายในห้องนอนของลูกคลื่นที่เคลิ้มหลับไปแล้ว ทำเพียงขานรับในลำคอต่อชายหนุ่มที่โตกว่า
......................................................
โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอบคุณที่ติดตามไรต์น่า
ช่องทางการติดต่อไรต์ นะคะ
Facebook : เยว่ทู่
Twitter : เยว่ทู่
Tiktok : เยว่ทู่
