ตอนที่ 4
เสียงดนตรีแสบแก้วหูดังก้องกลบสรรพเสียงอื่นๆ จนหมดสิ้น
แสงไฟวูบวาบหลากสีหมุนไปมาชวนตาลายสำหรับผู้ไม่ชินต่อสภาพบรรยากาศของสถานบันเทิงที่เรียกผับ
แต่หญิงสาวผิวผ่องในชุดรัดรูป ผ้ายืด สั้นเหนือเข่าคืบเศษๆ อวดลำขาเรียวงาม และยังเปิดช่วงบน ไม่ว่าไหล่บอบบาง แขนเนียนละมุนอย่างจงใจ เห็นทีจะไม่ได้เมาแสงสี หากน่าจะเมาเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ที่สั่งมาดื่มแก้วแล้วแก้วเล่ามากกว่า
พอเมาได้ที่ก็ออกมาวาดลาย ด้วยการดีดดิ้นสุดมันส์อย่างไม่สนใจใครหน้าไหน
ท่าทางบ่งบอกว่ากำลังจะครองสติไม่อยู่ สังเกตได้จากบางช่วงบางตอนที่ร่างงามเย้ายวนเซไปมา
ความที่สติสะตังกำลังลอยเลื่อน ทำให้ไม่สำเหนียกในอันตราย ที่มาในรูปชายสามคน ซึ่งยืนอยู่ข้างประตูทางเข้า เป็นชั่วโมงๆ โดยไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
มันทั้งสามมาคอยสังเกตการณ์ตามสถานอย่างนี้ทุกค่ำคืน เพื่อหาเหยื่อ
คืนนี้ มันจับตามองแม่สาวคนนี้ ตั้งแต่ลงจากแท็กซี่มาตามลำพังตั้งแต่สองทุ่มเศษๆ รอเวลาที่จะจัดการเมื่อสบจังหวะเหมาะ
วายร้ายทั้งสามพากันเดินแหวกนักท่องราตรีที่มากันเป็นกลุ่ม รี่เข้าไปรุมล้อมสาวสวยที่กำลังมันส์ในอารมณ์ที่บัดนี้ได้ถูกครอบงำด้วยน้ำเมา ไปกับเสียงเพลงเสียงดนตรีเร่าร้อน หลังจากเห็นว่าได้เวลาอันสมควรฤกษ์
หล่อนช่างง่ายดาย ตรงที่พวกมันไม่ต้องเสียเวลามาเสียเงินซื้อเหล้ามอมเหยื่อเอง เพราะแม่สาวสวยไปหมดทั้งตัวคนนี้เล่นมอมตัวเอง ตั้งแต่มาถึง
หญิงสาวซึ่งอยู่ในอาการเพียบแปล้ของคนเมาแทบจะครองสติไม่อยู่ ยังวาดลวดลายตามเพลง ไม่ได้ใส่ใจว่าอันตรายกำลังจะกรายกล้ำ
“เราไปหาที่สนุกๆ กว่าที่นี่กันดีกว่า น้องสาว”
หนึ่งในสามเลียมลอง
นัยน์ตาของพวกมันแต่ละคนโชนแสงหื่นกระหายในบางอย่าง เมื่อยิ่งเข้าใกล้ชิดก็ยิ่งเห็นว่า แม่สาวคนนี้สวยหยาดฟ้ามาดิน
ลักษณะไม่ใช่คนสวยเย็นชา แต่ท่าจะร้อนเร่าไม่เบา ดูจากท่าดิ้น นั่นประไร!
“มา...ไปกับพี่ดีกว่า เรามีที่สนุกและมันส์ส์! กว่านี้อีก”
มันทำเสียงรัวเชื้อเชิญ มือหนึ่งเอื้อมมาจับแขนเรียวละมุนเนียนนุ่ม
“พวกแก...อย่า-มา-ยุ่ง...กับฉาน ”
เสียงตอบของหญิงสาวอ้อแอ้
สติที่เสมือนฟางเส้นสุดท้ายของสัมปชัญญะที่เหลืออยู่ ทำให้พยายามสะบัดมือและแขนหลุดจากการเกาะกุมของชายแปลกหน้า
“ คนสวยจ๋า... ดิ้นแค่นี้ มันจะไปสนุกอะไร ไปกับพวกพี่ดีกว่านะจ๊ะ รับประกันว่าน้องคนสวยจะไม่มีวันลืมลงเลยตลอดชีวิต!”
ไอ้-คนหนึ่งเกลี้ยกล่อมบ้าง
“ม่าย.....ปล่อยฉาน…อย่า…มา- ยุ่ง! เอื้อก!”
ถึงจะต่อต้านขัดขืน แต่แรงหญิง...และยังเป็นหญิงที่กำลังเมาจวนหมดสติสัมปชัญญะ มีหรือจะไปสู้แรงชาย ที่ไม่ได้เมาเหล้า แต่กำลังเมาอารมณ์หื่น อารมณ์ใคร่แทน
“สนุกแน่คืนนี้!”
พวกมันกระซิบกระซาบแก่กันอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง เมื่อลากหญิงสาวที่พวกมันไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จักมาก่อน ออกมาข้างนอกได้สำเร็จ
“นี่...นี่...พวกแกจาพาฉานไปหนาย....เอื้อก! ฉัน...ไม่-ปาย ป-ล่-อ-ย”
หญิงสาวร้องเสียงอู้อี้ในคอ ตาปรือสะลึมสะลือด้วยฤทธิ์เหล้า
สมองคิดอะไรไม่ออกก็จริง แต่สัญชาติญาณระวังภัยลึกๆ สั่งให้ขืนขัด
แต่ก็เท่านั้น เพราะคิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าควรร้องเรียกให้คนช่วย
“ป-ล่-อ-ย...จาทำมายฉาน พวกแก...เป็นคราย เอื้อก!”
หญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมจากชายแปลกหน้า พึมพำด้วยความมึนเมา ไม่มีเรี่ยวแรงจะขัดขืนได้สักนิด แม้พอจะสำนึกได้ว่าตนกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ตาม
“ให้กูก่อนนะโว้ย!”
ไอ้พวกมหาวายร้ายเริ้มแตกคอ แย่งกันเอง
“เฮ๊ย! ต้องกูก่อน อย่าลืมสิโว๊ย ว่ากูเห็นอีนี่ก่อนใคร”
ไอ้คนตัวใหญ่ท่าทางดุดันพูดเสียงนักเลง และดูเหมือนว่าอีกสองคนไม่กล้าขัดเพื่อนผู้นี้เท่าไหร่นัก จึงเออออโดยไม่ขัดแต่อย่างใด
“มึงก่อนก็ได้ เร็วหน่อยละกัน เกิดพ่อมึงโฉบผ่านมาเจอเข้าเป็นได้วิ่งกันตูดแป้น ความจริงน่าจะพาอีนี่ไปที่อื่นนะ ไอ้ลานจอดรถนี่มันสลัวๆ แต่ก็อาจจะมีพวกยามมันเดินผ่านมาทุกเมื่อ”
“ไม่ละวะ เสียเวลา แล้วกูก็ไม่มีเงินเช่าห้องหรอกนะ หรือมึงมี”
“ก็ไม่มีน่ะสิ”
“เอ้า...พูดอยู่นั่น จัดการเสียทีสิวะ กูจะได้จองคิวต่อ ท่าทางอีนี่จะขี่มัน มึงอย่าเสือกทำจนเลือดตกยางออก ตายไปเสียก่อนล่ะ”
เสียงคนที่ตัวเล็กที่สุดในแก๊งเร่งเร้า เหลียวซ้ายแลขวาดูลาดเลาว่ามีใครสังเกตการกระทำของพวกตนหรือไม่
ไอ้คนร่างใหญ่กว่าเพื่อนเดินเข้าไปที่รถเก๋งเก่าๆ ที่พวกมันจับหญิงสาวผู้ไร้สติสัมปชัญญะเข้าไปทางเบาะหลัง
มือหยาบหนากำลังเตรียมจะรูดซิบกางเกง เมื่อจู่ๆ มีเสียงห้วนกระด้าง แทรกขึ้นในมาจากอีกด้านหนึ่ง ที่พวกมันไม่ทันพากันมอง ทำเอาสะดุ้งโหยง
“ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้!”
