บท
ตั้งค่า

2

“ลงมาได้สักทีนะ ไม่มีใครบอกหรือไง ให้ผู้ใหญ่รอมันเสียมารยาท” เสียงเกรี้ยวกราดเต็มไปด้วยความโมโหของภาวินีดังขึ้น สายตาที่มองมายังหญิงสาวเต็มไปด้วยความตำหนิ

“ขอโทษค่ะ” เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด

“หนูอิน มานั่งข้างๆย่า” เสียงแหบแห้งเปล่งออกมา

“ค่ะ คุณย่า”

“สมพร…ตักข้าวให้คุณอิน” คุณย่ารำไพหันหน้าไปสั่งแม่ครัวประจำตระกูล

ภาวินีทำสีหน้าบึ้งตึงหายใจเข้าออกกระฟัดกระเฟียด ยิ่งเห็นแม่สามีคอยให้ท้ายหญิงสาว ยิ่งทำให้เธอเกลียดผู้หญิงคนนี้มากขึ้น

ร่างบอบบางทรุดกายนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆคุณย่ารำไพ ความรู้สึกอึดอัดคับแน่นอยู่เต็มภายในจิตใจ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน สองมือเล็กจับช้อนเขี่ยข้าวในจานไปมาพลันสายตาก็ปะทะเข้ากับสายตาคมที่มองมาด้วยแววตาที่เกินคาดเดา ใบหน้าเกลี้ยงเกลาดูราบเรียบไม่ยินดียินร้าย

มองอะไรนักหนา ร่างเล็กคิดในใจ เธอเชิดหน้า ส่งสายตาท้าทายเขา ปากเล็กขมุบขมิบ เธอจ้องตาเขาไม่กระพริบ ภาคินัยยังคงมองเธอด้วยสายตาราบเรียบเช่นเดิม ในที่สุดหญิงสาวก็เป็นฝ่ายยอมแพ้กับสงครามประสาทระหว่างเขากับเธอ อินทิยาหันหน้าไปคุยกับคุณย่ารำไพ

“คุณย่าคะ อินขออนุญาตออกไปทำธุระข้างนอกได้ไหมคะ”

หญิงชราพยักหน้าเชิงอนุญาต “เดี๋ยวให้นายหมายขับรถไปส่ง หนูอินอยากไปไหนก็บอกคนขับรถได้เลยนะลูก”

“อินขอไปเองได้ไหมคะ อินไม่แน่ใจว่า อินจะใช้เวลานานแค่ไหนค่ะ…เกรงว่าลุงหมายจะรอนาน” เธออธิบาย

“เอาอย่างนั้นหรือ” หญิงชราทำท่าครุ่นคิดก่อนที่จะพยักหน้าตอบรับ “เอาตามที่หนูอินบอกละกัน แต่ถ้ามีอะไรให้โทรมาหาย่าทันทีนะ”

“ขอบคุณค่ะ คุณย่า” น้ำเสียงรื่นรมย์เปล่งออกมาพร้อมรอยยิ้มหวาน

“เดี๋ยวผมแวะไปส่งน้องเองครับ คุณย่า” เสียงทุ้มดังขึ้นขัดการสนทนาของผู้หญิงทั้งสอง

ดวงหน้าหวานหันขวับมองตามเสียง ตวัดสายตาขุ่นมัวมองไปที่เขา สื่อให้เห็นว่าเธอไม่พอใจในสิ่งที่เขาเสนอ นี่เขาบ้าไปแล้วหรือไง เสนอตัวเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ อินทิยาพร่ำบอกตัวเองอยู่เสมอว่าให้อยู่ห่างจากเขา ทำตามข้อกำหนดที่เขาเป็นคนตั้งขึ้นมาเอง แล้วนี่อะไร เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่

“ภาม...นี่ลูกรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา” ภาวินีหันมาตวาดลูกชายด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว สายตาจ้องเขม็งไปที่เขา

ภามสบตาผู้เป็นแม่ เขารู้ว่าท่านไม่พอใจในตัวของอินทิยา เขายอมรับว่าตัวเขาเองก็รู้สึกขัดใจกับสิ่งที่คุณย่าร้องขอ ชายหนุ่มนึกอยากต่อต้าน แต่อีกเสี้ยวของความคิด ถ้าท่านตัดสินใจที่จะทำอะไร ท่านย่อมมีเหตุผลเสมอ เธอก็คงไม่ต่างจากเขา เหตุผลที่หญิงสาวยอมทำตามข้อเสนอของคุณย่าก็เพราะเธอรักและเคารพท่านเหมือนดังท่านเป็นคุณย่าของเธอเอง

‘ย่าอยากให้ภามแต่งงานกับหนูอิน’ เสียงแหบแห้งเปล่งออกมาจากปากหญิงชราร่างท้วม คุณย่ารำไพเสตามองไปที่หลานชาย

‘ภาม…ทำตามที่ย่าขอได้ไหมลูก?’

ใบหน้าหล่อเปลี่ยนสีเข้ม ภาคินัยจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของคนเป็นย่า เขาเห็นสายตาแน่วแน่จากดวงตาที่เริ่มฝ้าฟางดวงนั้น มันพิสูจน์ได้ว่า ท่านต้องการให้เขาทำตามที่ท่านร้องขอ

‘แต่งงาน...นี่มันเรื่องอะไรกันคะคุณแม่ จู่ๆจะให้ตาภามไปแต่งงานกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ได้ยังไงคะ คุณแม่ก็ทราบนี่คะ ว่าหลานคุณแม่มีหนูอรอยู่แล้วทั้งคน’ ภาวินีพูดเสียงแข็งกร้าวด้วยความโมโห

คุณย่ารำไพปลายตามองไปที่ภาวินี ท่านมองเห็นความเกรี้ยวกราดในแววตาของลูกสะใภ้ที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ

‘ย่าอยากให้ภามเข้าใจ...ย่าทำทุกอย่างก็เพื่อตัวของภามเอง’หญิงชราพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

‘ดิฉันไม่ยอมนะคะคุณวัตร’ ภาวินีหันมาขอความช่วยเหลือจากสามี

‘ให้เจ้าภามตัดสินใจเองเถอะคุณภา พ่อเชื่อว่าย่าของลูกมีเหตุผลพอที่จะตัดสินใจทำอะไร' เสียงเข้มดังขึ้น คุณนิวัตรหันไปสบตาลูกชาย

'คุณนิวัตร!’ เสียงแหวตวาดขึ้น

‘ภาม อย่าไปยอมนะลูก ย่าของแกต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ’ ภาวินีเขย่าแขนลูกชาย

‘คุณภา หยุดก้าวร้าวกับคุณแม่ผมได้แล้ว!’ คุณนิวัตรตวาดเสียงดังลั่น

‘คุณนั่นแหละที่ต้องหยุด...เป็นพ่อประสาอะไร แทนที่จะช่วยลูก กลับไม่ทำอะไรสักอย่าง’ ภาวินีเถียงกลับ

‘คุณพ่อ คุณแม่ พอเถอะครับ อย่าทะเลาะกันเลย’ ภาคินัยเอ่ยเสียงอ่อน ตั้งแค่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นท่านทั้งสองมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง เขาส่งสายตาเชิงอ้อนวอนให้ท่านทั้งสอง นิวัตรกับภาวินีทรุดกายนั่งที่เก้าอี้

‘ทำไม คุณย่าถึงอยากให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ครับ’ เสียงทุ้มถามอย่างสงสัย

คุณย่ารำไพถอนหายใจยาว หันหน้ามาทางหลานชาย แววตาเปี่ยมไปด้วยความหนักใจ

‘ย่า ยังบอกอะไรกับภามตอนนี้ไม่ได้ ขอเวลาย่าสักหน่อยนะลูก แต่ย่ายืนยันว่าน้องเหมาะสมกับภาม’ หญิงชราตอบเสียงเรียบ

‘แต่ผมกับเธอ...ไม่เคยรู้จักกันและที่สำคัญผมมีน้องอรอยู่แล้วนะครับ คุณย่าก็รู้ว่าผมกับน้องอรรักกัน’

‘…’

‘ถ้าคุณย่าต้องการให้ผมแต่งงานกับเธอ...ผมก็จะแต่ง’ สายตาคมจดจ้องไปที่ใบหน้าของผู้เป็นย่า

‘ตาภาม!’ เสียงภาวินีดังขึ้น

‘แต่ผมมีข้อแม้...ผมยินดีแต่งงานกับเธอ ถ้า...คุณย่ายอมทำตามที่ผมขอ’ เสียงเน้นหนักย้ำในสิ่งที่เขาต้องการ แววตาของเขาฉายแววมุ่งมั่น

‘จะไม่มีการจัดงานแต่งงานระหว่างผมกับเธอ สถานะสามีภรรยาจะมีขึ้นแค่ในนาม ผมกับเธอต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างใช้ชีวิตไม่ยุ่งเกี่ยวกัน คุณย่ายอมรับได้ไหมครับ’

ภาคินัยจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของหญิงชรา สิ่งที่เขาต้องการคือความถูกต้อง เขาไม่เคยคิดที่จะยอมรับอินทิยาในฐานะภรรยา มีแค่อรดีเท่านั้นที่จะเป็นคู่ชีวิตของเขา

‘ย่าตกลง แต่...ภามต้องจดทะเบียนสมรสกับน้อง’ หญิงชราเน้นเสียงหนักเอ่ยในสิ่งที่ต้องการ

‘คุณแม่!’ ภาวินีแผดเสียงขึ้น

‘มันไม่เกินไปหน่อยหรือคะ แค่นี้ตาภามก็ยอมให้คุณแม่มากเกินพอแล้วนะคะ แล้วนี่มันเรื่องอะไรที่จะให้หลานไปจดทะเบียนกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ คุณแม่ไม่กลัวเด็กนั่นมาผลาญสมบัติของเราหรือไงคะ’

‘หนูอินไม่ใช่คนอื่นสำหรับฉัน ภาวินี...ถ้าเธอยังเคารพฉันในฐานะแม่สามี ก็หยุดล่วงเกินฉัน’ คุณย่าอนงค์พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง หันหน้ามองลูกสะใภ้ตำหนิผ่านสายตา ภาวินีหน้าเปลี่ยนสี ร่างกายสั่นเล็กน้อยเพราะความตกใจตั้งแต่ที่เธอตบแต่งเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านตำหนิเธอ นิวัตรลุกเดินไปหาภรรยา มือหนาจับไปที่หัวไหล่มน พยุงภาวินีให้ลุกเดินออกไป ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างคุณแม่และลูกชาย

“ผมจะพาน้องไปเองครับคุณย่า”

หญิงชรามองสบตาหลานชาย ท่านคิดว่าหลานของเขาคงมีเรื่องอยากคุยกับอินทิยา ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีอย่างน้อยสองคนนี้ก็ยังมีเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน

“อินไม่รบกวนดีกว่าค่ะ อิน อยากไปเองค่ะ” อินทิยาปฏิเสธไม่รับคำเสนอของเขา

“ย่าว่า…ให้พี่เขาขับรถไปส่งดีกว่านะหนูอิน” มือเหี่ยวย่นวางทับมือเรียวสวย หญิงชราพยักหน้าเล็กน้อยสื่อความต้องการผ่านสายตาให้เธอรับรู้

“ค่ะ คุณย่า” เธอหลุบตาลงขานเสียงเบาตอบรับอย่างหมดหนทางเลี่ยง

เสียงกระแทกเก้าอี้ดังขึ้น ภาวินีลุกขึ้นยืนตวัดสายตามองอินทิยาสลับมองลูกชายด้วยแววตาโกรธขึงก่อนจะก้าวเดินออกไปจากห้องอาหาร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel