ไม่ยอมลดความอ้วน
น้องเนย...
"อิ่มจังอ่ะขอบคุณน้าาาาเพื่อนเลิฟ"
"อิ่มแล้วแบบนี้ก็ไม่ต้องพาไปกินบิงซูแล้วดิ"
"ไม่ๆๆต้องกิน กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่นะเคยได้ยินป่ะ"
"เครเครอยากกินร้านไหนเลือกดิ"
"อืมมมมเราจำได้ว่ามีร้านนึงนะเคยมากับเจ้ ร้านนี้บิงซูอร่อยมากๆอยู่อีกชั้นนึงอ่ะป่ะ" เราดึงแขนออกัสไปที่บันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปอีกชั้นที่มีร้านบิงซู
ขณะกำลังเดินผ่านร้านต่างๆก็บังเอิญอีกแล้ว บังเอิญเจอพี่วาตะที่กำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นโดยมีผู้หญิงคนนั้นคีบอาหารป้อน พี่วาตะคงจะชอบผู้หญิงแบบนี้สินะ ทั้งสวยทั้งหุ่นดี อกเป็นอกเอวเป็นเอว อยากถามจังว่าชีวิตนี้เคยกินปิ้งย่างแบบเรามั่งป่าว สงสัยจะไม่เคยถึงได้ผอมแบบนี้ใหญ่แค่นม เราไม่อิจฉาหรอกนะ ไม่เลยสักนิด
วาตะ.....
เขามองออกไปข้างนอกร้านก็เจอยัยหมูอ้วนกำลังลากจูงไอ้หมอนั่นเข้าร้านบิงซู นี่เขาเพิ่งเห็นเธอนั่งกินปิ้งย่างอยู่เลยนะ นี่เข้าร้านขนมต่ออีก เอากระเพาะไหนใส่วะ แบบนี้ถ้ามีผัวๆคงต้องทำงานหนักเพราะต้องหาเงินเลี้ยงยัยนี่
แต่ชาตินี้คงจะมีหรอกนะผัวอ่ะตัวเท่าตุ่มขนาดนี้ใครได้ไปเป็นเมียคงจะโชคร้าย
หลายวันต่อมา.....
น้องเนย....
วันนี้เป็นวันหมั้นของเจ้เค้ก เพราะวายุเร่งเร้าให้ลุงนายจัดการก่อนที่จะกลับไปเรียนต่อในอาทิตย์หน้านี้ เรากำลังนั่งมองเจ้เค้กแต่งหน้าโดยมีเจ้ครีมช่วยดูแลความเรียบร้อยอยู่ใกล้ๆ ถามว่าอิจฉาพี่มั้ยที่ได้หมั้นทั้งที่ก่อนหน้านี้ต้องเป็นตัวเองที่ต้องหมั้นกับพี่วาตะ
"เนยพี่ว่าเราลงไปช่วยแม่ดูแลงานข้างล่างดีกว่ามะ มานั่งหงอยอะไรตรงนี้" เจ้ครีมหันมาพูดกับเรา
"ขอน้องเนยนั่งอยู่ใในห้องนี้ก่อนนะเจ้ครีม น้องเนยไม่อยากลงไปเจอใครบางคน"
"เฮ้อออ จะหลบหน้าไปทำไมยังไงๆก็ต้องเจอกันอยู่ดี พี่เราหมั้นกับน้องชายเค้าไม่เจอวันนี้วันหน้าก็ต้องเจอ ยิ่งเราหลบหน้าเค้าแบบนี้เค้าจะหัวเราะเยาะเอานะจะหาว่าเราไม่กล้าสู้หน้า"
"ให้เค้าว่าเถอะค่ะ น้องเนยไม่กล้าสู้หน้าเค้าจริงๆนั่นแล่ะ"
เรานั่งมองเจ้ครีมแต่งหน้าแต่งตัวให้เจ้เค้ก วันนี้เจ้เค้กสวยมากจริง แม้ว่าเราจะเป็นฝาแฝดกันแต่เราไม่เหมือนกันเลย อาจจะเป็นเพราะเราอ้วนเจ้เค้กผอมเลยทำให้เจ้เค้กแต่งชุดไทยแล้วสวยแบบนี้ สักพักแม่ก็ขึ้นมาดูแล้วก็มาบอกเราว่าออกัสมาถึงแล้ว
"น้องเนยออกัสมาน่ะถามหาน้องเนย ลงไปคุยกับออกัสสิ"
"แม่ให้ออกัสขึ้นมาบนนี้ไม่ได้เหรอคะน้องเนยไม่อยากลงไปเลย"
"หลบหน้าวาตะใช่ไหม"
"ค่ะ ไม่ปฎิเสธ"งั้นเดี๋ยวแม่เรียกออกัสขึ้นมาบนนี้ก็ได้ แต่ว่าตอนทำพิธีน้องเนยต้องลงไปร่วมพิธีนะลูก"
"ค่ะแม่" สักพักออกัสก็มา
"โหสวยนะเนี้ย"
"แน่นอนสิวันนี้วันหมั้นเราหนิ"
"ดีใจด้วยนะที่มีคนจอง ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้โดนเท 5555"
"ออกัส!!!! "
"เนยพี่ว่าเนยลดความอ้วนน่าจะดีนะ รับรองสวยแน่" เจ้ครีมจู่ๆมาบอกให้เราลดความอ้วน
"ไม่ค่ะ น้องเนยไม่อยากสวย ถ้าจะมีคนรักน้องเนยก็ต้องรักน้องเนยที่เป็นน้องเนยแบบนี้ไม่ใช่เพราะน้องเนยสวยหุ่นดีมีนม"
"แล้วเธอคิดว่าจะมีมั้ยคนที่เธอว่าคนที่เค้ารักเธอแบบที่เป็น" ออกัสถามด้วยสีหน้าจริงจัง
"ไม่รู้สิ อาจจะมีหรืออาจจะไม่มีก็ได้น้องเนยไม่ซีเรียส น้องเนยไม่มีแฟนน้องเนยก็อยู่กับป๊ากับแม่ไปแบบนี้แล่ะ"
หนึ่งชั่วโมงต่อมา พิธีหมั้นก็เริ่มขึ้น เรานั่งอยู่ฝั่งนึงพี่วาตะก็นั่งอยู่อีกฝั่ง วันนี้พี่วาตะหล่อมากใส่ชุดไทยสากลสีครีม แต่ถึงจะหล่อยังไงเราก็ไม่มีสิทธิ์คิดไม่มีสิทธิ์มองว่าเขาเป็นของเราอีกต่อไป เขาเป็นของคนอื่นท่องเอาไว้ในใจ มาเป็นเพลงเลยสิ เห้ออออ กว่าจะจบพิธีทำเอาเราเหน็บกินขามันชาไปหมดทั้งขาเลย ออกัสพยุงเราให้มานั่งที่โซฟาแล้วเดินไปขอยานวดจากแม่บ้านมานวดให้เรา ออกัสดีกับเรามากจริงๆ ถ้าเราไม่มีออกัสเป็นเพื่อนเราจะเป็นยังไงนะ
"ออกัส"
"อะไร"
"เราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้วอ่ะ"
ถ้านับตั้งแตอนุบาลด้วยก็สิบห้าปีถามทำไม"
"โหนานเหมือนกันเนอะ ว่าแต่เราสงสัยตั้งแต่เรารู้จักกันมาเราไม่เคยเห็นออกัสมีแฟนเลย"
"เธอก็เหมือนกันมั้ยยัยหมูตอน เธอก็ไม่มีเหมือนกันป๊ะ"
"เราอ้วนเราไม่สวยไม่มีแฟนมันไม่แปลกหรอก แต่ออกัสอ่ะหน้าตาดีหล่อเหมือนเจบีgot7เลยนะทำไมไม่มีแฟน หรือว่า....."
"หรืออะไรของเธอ"
"ออกัสชอบ....ผู้ชาย ใช่ไหม"
"ยัยโง่ ไม่รู้อะไรก็อย่าพูดไปเรื่อยเราเสียหายนะเว้ย"
"5555555 แน่ๆเลยออกัสอย่ามาโกหกเรานะบอกมาเหอะนายชอบใคร"
"ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกน่า"
วาตะ.....
"นั่นแฟนหนูเนยเหรอตาหวาน" พ่อถามอาหวานเมื่อหันไปมองยัยเนยที่หัวเราะเสียงดังกับไอ้หมอนั่นที่เขาจำได้มาเป็นคนเดียวกับที่เจอที่ห้าง สองคนนั้นนั่งอยู่ที่โซฟาใกล้ๆที่เขานั่งนี่แล่ะ
"อ๋อ ออกัสเป็นเพื่อนน้องเนยตั้งแต่สมัยอนุบาลค่ะพี่นาย"
"ดูสนิทกันดีนะ ดูสิ"
"ค่ะยัยเนยไม่มีเพื่อนมีแต่ออกัสคนเดียวเพราะที่โรงเรียนชอบมีคนล้อน้องเนยๆเลยไม่อยากคบกับใครสักคนมีแต่ออกัสที่เข้ามาคุยด้วยสองคนนี้เลยเป็นเพื่่อนที่สนิทกันมาก ถ้าน้องเนยไปไหนกับออกัสหวานไม่เคยห่วงเลยค่ะ"
"นัตว่าถ้าน้องเนยลดหุ่นนะต้องสวยมากแน่ๆเลยหวาน ทำไมหวานไม่บอกน้องเนยลดน้ำหนักบ้างล่ะ"
"บอกจนไม่รู้จะบอกยังไงแล้วนัต แต่ไม่ใช่ไม่เคยลดนะ แต่ทำได้แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้นล่ะโดนหามเข้าโรงพยาบาลทันทีเพราะช็อก คุณหมอบอกลดกระทันหันเกินไปทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน ตั้งแต่นั้นมาหวานกับพี่คีย์เลยไม่บังคับให้ลดอีก แต่ก็จะมีเตือนๆบ้างให้ค่อยๆลดทีละนิดแต่เหมือนจะไม่ได้ผล"
"น้องเนยเป็นเด็กน่ารักนะ มองโลกในแง่ดี พี่คงไม่มีวาสนาได้น้องเนยไปเป็นลูกสะใภ้" พ่อพูดจบก็หันหน้ามาทางผมทันทีทำให้ทุกคนต้องมองตาม
"มึงอย่าโลภมากไอ้นาย กูยกน้องเค้กให้ลูกมึงไปคนนึงละ เหลือน้องเนยไว้ให้ดูแลกูกับตาหวานยามแก่ยามเฒาบ้างสิวะ" อาคีย์พูดดีครับผมอยากยกนิ้วให้เลย
"อาการหวงลูกนี่เป็นมาตั้งแต่หนุ่มยันแก่เลยนะไอ้คีย์"
"แน่นอนดิลูกกูๆเลี้ยงมากะมือ"
แล้วทำไมเขาต้องมานั่งฟังเรื่องยัยนี่ด้วยวะเนี้ย...
เขาขอตัวออกไปสูดอากาศข้างนอกเพราะบ้านหลังนี้อยู่นอกเมืองอากาศยามเย็นแบบนี้ดีโคตรๆ เขาเดินเล่นแล้วก็มานั่งอยู่ตรงท่าน้ำ มันทำให้เขาคิดถึงช่วงเวลานึงเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก
"ฮืออพี่วาตะ พี่วาตะไม่ไปได้มั้ยคะ น้องเนยไม่อยากให้พี่วาตะไปไหน ฮืออออ นะคะ"
"พี่ไปไม่นานหรอกน้องเนย พี่สัญญาพี่จะกลับมาหาน้องเนย"
"ฮือออ จริงๆนะคะพี่วาตะไม่ได้หลอกน้องเนยใช่ไหมคะ"
"พี่เคยหลอกน้องเนยเหรอ"
"ไม่ค่ะ พี่วาตะไม่เคยหลอกน้องเนย แต่น้องเนยกลัวว่าพี่วาตะจะลืมน้องเนยฮืออออ"
"งั้นเรามาเกี่ยวก้อยสัญญากัน"
"ทำยังไงคะ"
"เราเอานิ้วมาคล้องกันไว้แบบนี้ พี่สัญญาว่าพี่จะกลับมาหาน้องเนย ถ้าน้องเนยโตขึ้นน้องเนยต้องมาเป็นเจ้าสาวให้พี่นะ"
"อื้มมม น้องเนยสัญญาค่ะ น้องเนยจะโตเร็วๆน้องเนยจะกินเยอะๆจะได้โตเร็วๆพี่วาตะจะได้กลับมาหาน้องเนย"
ภาพในวัยเด็กกำลังกลับมาให้เขาจำมันได้อีกครั้งว่าเขาเคยสัญญากับเด็กผู้หญิงคนนึงเอาไว้ที่นี่ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆในวันนั้นกลายมาเป็นยัยเนยในวันนี
