หนักเป็นบ้าผู้หญิงอะไร
วาตะ.....
คร่อกกกฟี่.... คร่อกกฟี่.... คร่อกกฟี่ ....
เสียงอะไรเหมือนใครมากรนแถวนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองจะต้องตื่นเดี๋ยวนี้และตอนนี้เพราะมันนอนไม่ได้ เสียงมันดังใกล้หูเขามากๆ เขาเอื้อมมือเปิดโคมไฟหัวเตียง
"เฮ้ยยยยยย ใครวะ!!!! " ใครมาฟุบอยู่ข้างเตียงของเขา ผีรึเปล่า เขารีบลุกออกจากเตียงและรีบเปิดไฟในห้องให้สว่างทันที
"ยัยเนย!!!! " แม่งมานอนในห้องเขาได้ยังไงวะ เขารีบเดินไปสะกิดแขน
"นี่ยัยอ้วน ตื่น!! "
"อื้มมม อย่ากวนน้องจะน้อนนน" ยัยหมูอ้วนพลิกหน้าหันมาอีกทาง พร้อมกับคราบน้ำลายที่เลอะเปื้อนผ้าห่มของเขาอีก โอ๊ยยยอะไรกันวะเนี้ย
"นี่!!! จะตื่นไม่ตื่นห๊ะ ไม่งั้นฉันจะเอาน้ำมาสาดนะตื่น!!! " เสียงเขาดังขนาดนี้แม่งยังไม่ยอมตื่น เห้ออ เขาไม่รู้จะทำไงเลยปล่อยไว้ให้นอนแบบนั้นแล่ะ
อย่าคิดว่าเขาจะทำตัวเป็นพระเอกสงสารนางเอกแล้วอุ้มขึ้นมานอนบนเตียง เขาไม่มีวันทำเป็นอันขาด ลองเขาอุ้มมีหวังหลังเขาได้หักแน่ๆ
ทำเขาหัวเสียตั้งแต่เช้าวันแรกที่กลับมาเลยจริงๆ ยัยนี่ เขาเลิกสนใจยัยอ้วนขี้เซาเลยเดินไปอาบน้ำในห้องน้ำทันที พอออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เจอยัยนั่นแล้วเขาคิดว่าคงจะลุกออกไปจากห้องแล้วจึงจัดการปลดผ้าขนหนูออกจากตัวเพราะปกติเวลาอยู่ห้องคนเดียวเขาก็มักจะทำแบบนี้เป็นนี้เป็นประจำ เขาเดินไปเดินมา สุดท้ายก็มานั่งตรงขอบเตียงเพื่อเช็คมือถือขณะกำลังเลื่อนดูนั่นนี่ในมือถือ มันเหมือนมีอะไรไหวยวบยาบบนที่นอน เขารีบหันไปดูทันทีปรากฎว่าเป็นยัยเนยนอนอยู่บนเตียงของเขาและก็ห่มผ้าอยู่ว่าแต่ทำไมเมื่อกี้เขาไม่เห็นวะ??
เขารีบดีดตัวขึ้นทันที ส่วนยัยนั่นก็ลุกขึ้นนั่งและหันหน้ามาทางเขาก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น แล้วจู่ๆ ก็กรี๊ดออกมาดังมากกจนเขาต้องรีบเอามือปิดหูแทบไม่ทัน
"กรี๊ดดดดดดดด กรี๊ดดดดดดด"
"เห้ยยยย จะกรี๊ดเสียงดังทำซากอะไรวะยัยอ้วน"
"กรี๊ดดดด พี่วาตะ โป๊ ฮืออออ น้องเนยกลัวววว" เธอกรี๊ดพร้อมกับเอามือปิดตา
เขารีบก้มดูสภาพตัวเองโป๊อยู่จริงๆ ด้วย เลยรีบเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ถอดออกเมื่อกี้มาพันรอบเอวไว้เหมือนเดิมแต่ยัยนั่นก็ยังกรี๊ดไม่หยุด เขารีบพุ่งไปปิดปากยัยนั่นก่อนที่พ่อแม่เขาจะขึ้นมาดูแต่กลายเป็นว่าเขาล้มทับยัยหมูเนยนี่ทั้งตัว
"เห้ยยเงียบดิวะจะกรี๊ดไรนักหนา"
"ฮืออ ก็ของเอ่อ ของพี่วาตะมัน เอ่ออ"
น้องเนย....
เกิดมาเราก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ของผู้ชายเลยสักครั้งนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นจะจะเต็มสองตา เอ่อ มันทั้งยาว มันทั้งใหญ่ มันเด้งไปเด้งมาอยู่ตรงหน้าแบบใกล้ชิดมากๆ นี่น่ะเหรออวัยวะเพศของผู้ชาย โอ๊ยยทำไมมันน่าเกลียดน่ากลัวขนาดนี้นะ><
ขณะกำลังคิดว่าจะทำยังไงกับตัวเองดีที่มานอนให้เขาทับอยู่กลางเตียงนอนขนาดใหญ่แบบนี้แถมยังถูกเขาเอามือปิดปากอีก จู่ๆ ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามาอย่างแรง ปัง!!!!
"วาตะทำอะไรน้อง"
"พ่อออออ!!! "
เราหันไปมองที่ประตูปรากฎว่าทุกคนในบ้านยืนอยู่ตรงนั้นมองมาที่เรากับพี่วาตะอย่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น มันเป็นท่าที่เรานอนหงายแล้วพี่วาตะก็นอนทับเราเอาไว้มีมือปิดปากเราอยู่
"เอ่อ ผมเปล่านะไม่ได้ทำอะไร"
พี่วาตะรีบลุกออกจากตัวเราทันที เราก็รีบลุกตามพร้อมกับคลานลงจากเตียง ตุ๊บ!!!
"อ๊ะ" ด้วยความไม่ทันระวังขามันพันกับผ้าห่มทำให้เราล้มลงไปกองอยู่ข้างเตียง เจ้เค้กกับอานัตตี้รีบวิ่งเข้ามาพยุง
"ยัยเนยทำไมซุ่มซ่ามแบบนี้เนี้ย"
"อ๊ะ โอ๊ย น้องเนยปวดหลัง"
"อาว่าพาน้องเนยลงไปข้างล่างดีกว่านะน้องเค้ก"
"ค่ะอา"
ทั้งอากับเจ้ก็ช่วยกันพยุงเราลุกขึ้นแต่เหมือนจะลุกไม่ไหว คงเพราะเราตัวหนักแล้วทั้งสองคนตัวเล็กมันเลยลำบาก
"วาตะมาช่วยอาพะยุงน้องสิยืนบื้ออยู่นั่น"
"ผมอ่ะนะ" พี่วาตะชี้ตัวเองก่อนจะหันมามองเราอย่างหัวเสีย แต่ก็จำใจเดินมาหาเราอานัตตี้กับเจ้เค้กเลยถอยออกมา พี่วาตะพยายามดึงแขนเราขึ้นเราก็ช่วยฝืนตัวเองให้ลุกตาม
"หนักเป็นบ้าผู้หญิงอะไรวะ"
"น้องเนยขอโทษ"
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เราพยายามเกาะพี่วาตะเอาไว้แต่มันยืนไม่ไหวทำให้เราทั้งคู่ล้มลงไปบนเตียงอีกรอบ คราวนี้เป็นเราที่ล้มทับพี่วาตะแล้วก็ไม่รู้ไปล้มอิท่าไหน ทำให้เรากับพี่วาตะจุ๊ปากกันอย่างไม่ตั้งใจ เราสองคนสบตากันทันทีเมื่อริมฝีปากแตะกัน และเป็นพี่วาตะที่รู้สึกตัวก่อนรีบผลักเราออกจนเราล้มลงไปนอนแอ้งแม้งบนเตียงอีกรอบ ตอนนี้เราทำอะไรไม่ถูกเลยจริงๆ รู้แค่ว่ามันเขินมากที่ได้จุ๊บกับพี่วาตะแบบไม่ทันตั้งตัว
วาตะ........
เขายืนนิ่งไม่พูดอะไรเพราะไม่รู้จะพูดอะไรไง แม่งวันนี้มันวันซวยอะไรใครให้ยัยนี่เข้ามาในห้อง พ่อ แม่ อากงอาม่า อานัต ไอ้ยุ ยัยเค้กก็เอาแต่จ้องมองมาที่เขาเหมือนจะอยากรู้ว่าเขาจะมีปฎิกริยาอะไรต่อจากนี้ หลังจากที่เขากับยัยหมูอ้วนจูบกัน เขาแทบอยากจะไปล้างปากแม่งแค่คิดก็ยังขนลุกถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุเขาไม่มีทางไปสัมผัสหรือแตะตัวยัยนั่นแม้แต่ปลายเส้นผม
"เอ่อ มี๊ว่าวาตะแต่งตัวละลงไปข้างล่างนะลูก ส่วนหนูเนยให้วายุกับหนูเค้กพยุงลงไป เดินไหวมั้ยหนูเนย"
"ไหวค่ะมี๊" หึ เรียกแม่เขายังกะแม่ตัวเอง
เมื่อทุกคนลงไปข้างล่างกันหมดเขาก็เลยเดินไปใส่เสื้อผ้าก่อนจะไปหยิบมือถือที่วางอยู่บนเตียง แต่เอ๊ะ อะไรมันนููนไอยู่บนที่นอนเขาอีก เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาปรากฏว่าเป็นกระเป๋าสะพายสีชมพูสงสัยจะเป็นของยัยเนย เขาเลยจำใจต้องหยิบมันติดมือมันลงไปด้วยเพราะไม่งั้นยัยนั่นจะต้องหาเหตุเข้ามาให้ห้องนอนเขาอีก เขาจะไม่มีทางให้ยัยนั่นได้เข้ามาอีกเป็นอันขาด
น้องเนย......
เอ๋...กระเป๋าเราอยู่ไหนกันนะ มองหาจนทั่วก็ไม่เจอพยายามนึกว่าเอาวางไว้ที่ไหนถามเจ้ก็บอกไม่เห็น ตุบ!!
"อ๊ะ"
จู่ๆ กระเป๋าใบโปรดของเราก็ลอยหวือมาวางอยู่ที่ตักเราพอดิบพอดี เราหันไปมองว่าใครเอามาให้ก็เป็นพี่วาตะนั่นเอง เออใช่เราคงลืมไว้ในห้องนอนพี่วาตะ เราหันไปยิ้มเพื่อขอบคุณแต่ก็เจอสายตาที่่ว่างเปล่าไร้ความรู้สึก เราเลยหันหน้ากลับมาทานอาหารต่อ พี่วาตะเดินไปนั่งที่นั่งตัวเองซึ่งมันก็อยู่ตรงข้ามเราพอดี พอมองหน้าพี่วาตะแล้วคิดถึงตอนที่เราจุ๊บกันก็รู้สึกเขินขึ้นมาอีก โอ๊ยทำไงดีมันลืมไม่ได้เลยจริงๆ ริมฝีปากพี่วาตะช่างนิ่มเหลือเกิน อยากสัมผัสริมฝีปากพี่เค้าอีกจัง แต่ก็คงได้แค่มโนเพราะคงจะไม่มีวันนั้นอีกแล้วแล่ะ
"กลับมาคราวนี้คือจะมาจัดการเรื่องหมั้นของอาวาตะกับหนูเนยใช่ไหมอานาย" อาม่าเป็นคนเปิดประเด็นค่ะ เราลอบมองหน้าพี่วาตะที่ตอนนี้ทำหน้าเซ็งคูณสิบไปแล้วมองยังไม่ทันได้ละสายตาไปไหนพี่วาตะก็หันหน้ามามองเราด้วยสายตาที่แบบว่าเหมือนโกรธเหมือนเกลียดกันมาแต่ชาติก่อน
"ผมจะไม่หมั้นอะไรทั้งนั้นครับอาม่า ผมบอกพ่อตั้งแต่อยู่ที่โน่นแล้ว"
"ไม่ได้ยังไงก็ต้องหมั้นเราต้องทำตามสัญญาสิเราเป็นผู้ชายนะ"
"ก็ผมไม่ได้รักไม่ได้ชอบยัยนี่ใครๆ ก็รู้"
เจ้ที่นั่งอยู่ข้างๆ เราก็จับมือเราแล้วลูบเพื่อเป็นการปลอบใจเมื่่อเห็นเราเอาแต่ก้มหน้าไม่พูดไม่จา
"พ่อคงต้องบังคับ"
"นี่มันยุคไหนสมัยไหนกันแล้วพ่อจะมาจับคลุมถุงชนแบบนี้ได้ไงผมไม่ยอม นี่เธอ!!! ไม่คิดจะพูดไรหน่อยรึไงวะห๊ะ" พี่วาตะหันมาตะคอกใส่เราจนเราตกใจ
"เอ่อ คือ น้องเนยแล้วแต่ผู้ใหญ่ค่ะ" เราก็ไม่รู้จะพูดอะไรในตอนนี้เพราะไม่คิดว่าจะคุยเรื่องหมั้นกันตอนนี้
" แม่งไรวะ" พี่วาตะสถบออกมาก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้ทันที ทุกคนเงียบกริบ
หลังจากนั้นทุกคนก็มานั่งปรึกษากันเรื่องนี้โดยที่ไม่มีพี่วาตะอยู่ด้วย
"น้องเนยจะเอาไงลูก เราทุกคนให้น้องเนยตัดสินใจเพราะน้องเนยเป็นผู้หญิง ทั้งที่เรื่องนี้เราคุยกันมานานหลายปีว่าจะให้น้องเนยกับวาตะหมั้นกันแล้วรอจนน้องเนยเรียนจบค่อยแต่ง เราทุกคนรู้ว่าน้องเนยรักวาตะ"
