ยัยหมูตอนเจ้าเล่ห์
น้องเนย...
"พูดเล่นอีกแล้วใช่ไหมออกัส"
"พูดจริง"
"ออ...ออกัสนายเป็นไรเมาเค้กสตรอเบอรี่หรือไง" เราแกล้งพูดติดตลกเพราะตอนนี้เราเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเมื่อเห็นสายตาที่ออกัสจ้องมาที่เราแบบนี้มันเป็นสายตาที่เราคุ้นชินมาตลอดแต่มาวันนี้เราเพิ่งรู้ว่ามันหมายความว่าอะไร
"เนย เธอจะโกรธมั้ยถ้าเราบอกว่าเราชอบเธอ ชอบมานานแล้ว"
"เฮ้ยยยย บ้าน่า นายจะมาชอบเราได้ไง เราไม่ได้สวยเลยนะดูสิหน้าตาแบบนี้รูปร่างแบบนี้คนหล่อๆแบบนายจะมาชอบได้ไง"
"ก็มันชอบไปแล้วมั้ยล่ะ ชอบที่เธอเป็นแบบนี้ไง"
"แต่เราไม่ได้คิดอะไรกับนายเลยนะออกัส นายก็รู้ว่าเราชอบใครอยู่"
"แต่เขาไม่ได้ชอบเธอไม่ใช่เหรอ"
"อะ เอ่ออ อื้มมมก็ใช่ไง แต่ถึงเขาไม่ได้ชอบเราแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องมาชอบนายนี่นา"
"ตอนนี้ไม่ได้ชอบแต่อนาคตก็ไม่แน่ป่าววะ เราลองมาคบกันดูมั้ย"
"นายไม่อายเหรอที่มีแฟนอ้วนเป็นหมูแบบนี้"
"อายทำไม ทำไมต้องอาย อ้วนแล้วไม่ใช่คนเหรอ" เราพูดไรไม่ออกเลยค่ะ แล้วเราต้องทำไงดี
"ว่าไงตกลงจะลองคบกันดูไหม"
"เอ่อออ คือเรายังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนสถานะกับนาย นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยนะออกัส ถ้าเป็นไปได้เราอยากเป็นเพื่อนกับนายตลอดไปนะออกัส"
"นี่คือคำตอบของเธอใช่ไหม เป็นได้แค่เพื่อน"
"อื้มมม"
"โอเค เพื่อนก็เพื่อน" พูดจบออกัสก็หันไปตักเค้กตรงหน้าเข้าปากต่อทันทีเหมือนก่อนหน้านี้ไมไ่ด้พูดอะไรกับเราเลย คือเราเดาอารมณ์ไม่ถูกเลยนะ
"นายไม่เสียใจใช่มั้ยออกัส"
"เสียใจดิ แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันไงยังได้อยู่ข้างๆเธอแบบนี้เหมือนเดิม"
"ฮึก ฮึก ฮึก เราขอโทษนะออกัส นายอย่าเสียใจเพระเราเลยนะคนแบบนายหาผู้หญิงดีๆสวยๆที่เหมาะกับนายได้ไม่ยากหรอก ฮือออ เราขอโทษนะ"
"นี่!!! จะร้องไห้ทำไมยัยหมูตอนเดี๋ยวคนอื่นมาเห็นจะเข้าใจผิดหาว่าเราปล้ำ"
"ฮือออออ ฮือออออ " เราหยุดร้องไห้ไม่ได้เลยค่ะมันอธิบายไม่ถูกว่าต้องรู้สึกดีใจหรือยังไงดีที่ออกัสยอมเข้าใจและยอมกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง
วาตะ....
เขานั่งอยู่ที่โต๊ะตรงข้ามกับสองคนนี้ได้ยินทุกอย่างที่สองคนนี้พูด มันบังเอิญนะที่ต้องมาได้ยินอะไรแบบนี้ ยัยนี่ก็นะผู้ชายมาชอบดันปฎิเสธเชื่อแม่งเลย ถ้าหลุดจากนายนี่ก็ไม่รู้จะมีใครมาบอกชอบอีก ทำไมไม่คว้าโอกาสนั้นไว้วะโง่จริงๆ
"อ้าววววาตะมาตั้งแต่เมื่อไหร่"
"เพิ่งมาถึงเองครับอา"
"รอแป๊บนะเดี๋ยวอาไปสั่งงานเด็กๆก่อนว่าแต่วันนี้ไม่รีบไปไหนนะ"
"ครับผมไม่รีบ"
อีกฟากนึง.....
"ว่าไงนะ แล้วตำรวจมารึยัง เอออ เดี๋ยวผมรีบไป"
"เกิดไรขึ้นเหรอออกัส"
"ที่ฟิตเนสเกิดเรื่องน่ะ มีคนไปป่วนสงสัยร้านคู่แข่ง"
"งั้นนายรีบไปเถอะ"
"เธอลุกดิเดี๋ยวเราไปส่งที่บ้าน"
"นายรีบไปเถอะเดี๋ยวเรากลับเองได้"
"มันค่ำแล้วนะ อันตราย"
"เกิดไรขึ้นเหรอเด็กๆทำไมดูรีบร้อนกันจัง"
"เอ่อที่ฟิตเนสของพี่สาวออกัสมีเรื่องค่ะ"
"ผมเป็นห่วงเนยด้วยเลยจะไปส่งเนยก่อน"
"เดี๋ยวอาไปส่งเอง เรารีบไปดูที่ร้านเถอะ"
ออกัสลังเลใจแต่เมื่อเห็นว่าอานัตตี้อาสาไปส่งเขาเลยไว้ใจ เพราะที่ผ่านมาถ้าเนยออกมากับเขาเขาจะเป็นคนไปส่งเธอเองทุกครั้งไม่เคยให้นั่งรถกลับคนเดียวเลยสักครั้ง
"งั้นผมฝากด้วยนะครับ"
"ถึงร้านแล้วไลน์มาบอกด้วยนะเข้าใจมั้ยออกัสอย่าให้เราเป็นห่วงนะ"
"ห่วงขนาดนี้ทำไมไม่ใจอ่อนคบกับเราล่ะยัยหมูอ้วน"
"มันใช่เวลามาพูดมั้ยออกัส รีบไปได้ละ พี่นายรออยู่นะ"
"โอเค ไปนะ"
"เดี๋ยวอาไปส่งเองไม่ต้องห่วง"
"ที่จริงน้องเนยขึ้นแท็กซี่กลับเองก็ได้ค่ะอานัต"
"ไม่ได้สิ นีี่มันจะสองทุ่มละ กลับคนเดียวอันตราย"
เราเดินตามอานัตตี้ออกมาที่หน้าร้าน สักพักก็มีรถสปอร์ตคันหรูสีดำที่บ่งบอกว่าราคาคงจะแพงมากๆมาจอดตรงหน้า แล้วอานัตตี้ก็เปิดประตูแล้วเรียกเราขึ้นไปนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับส่วนอานัตตี้นั่งด้านหลังซึ่งตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าใครขับ เราคิดว่าคงเป็นลุงนายไม่ก็วายุ แต่.....
"พี่วาตะ" รถคันนี้เป็นของพี่วาตะค่ะ แล้วเราจะยังไงจะลงเลยตอนนี้ได้ไหม
"รัดเข็มขัดดิ หรือมันรัดไม่ถึงเพราะติดพุง" เราหันขวับไปมองหน้าทันที ขึ้นมาอุส่าห์ไม่พูดอะไรด้วยแล้วนะยังมาว่าเราอีก
"วาตะไปว่าน้องทำไมเรานี่นะจริงๆเลย" แต่ดูเหมือนคนโดนว่าจะไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร
"ไม่เป็นไรค่ะอานัตตี้ น้องเนยไม่ถือสา"
เราพูดก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบหูฟังออกมาเสียบหูเพื่อฟังเพลงเพราะไม่อยากฟังคนบางคนพูดอะไรไม่เข้าหูอีก ความเย็นของแอร์มันทำให้ง่วงขึ้นมาจนเราหลับไปไม่รู้ตัว
วาตะ.....
"เดี๋ยวเราจะไปเที่ยวต่อใช่ไหมวาตะ"
"ใช่ครับนัดเพื่อนไว้"
งั้นอาฝากส่งน้องกลับบ้านด้วยนะวาตะ ห้ามแกล้งห้ามว่าน้องอีกล่ะ ดูสิหลับไม่รู้เรื่องเลยน่าเอ็นดูจริงๆ เห้อออ"
"อามองยังไงถึงมองว่ายัยเนยน่าเอ็นดู"
"น้องน่าสงสารนะ ดูเหมือนจะร่าเริงแต่จริงๆแล้วใครจะรู้ อาน่ะเห็นเนยมาตั้งแต่เด็ก โดนเพื่อนแกล้งเป็นประจำโดนล้ออยู่บ่อยๆแต่ก็ไม่เคยโกรธใครเลยหัวเราะร่าเริงเพื่อไม่ให้ใครต้องเป็นห่วง แต่พออยู่คนเดียวก็จะมานั่งร้องไห้แต่ไม่ให้ใครเห็นหรอกถ้าไม่ไปแอบดู แล้วรู้มั้ยกำลังใจของเนยคืออะไร" เขาหันไปมองหน้าอานัตพร้อมกับส่ายหน้าเป็นคำตอบ
"กำลังใจของเนยคือวาตะนะรู้มั้ย เวลาน้องเนยเศร้าน้องเนยก็จะเอารูปของเรามาดูแล้วก็พูดกับตัวเองเสมอว่า
เมื่อไหร่พี่วาตะจะกลับมาหาน้องเนยถ้าพี่วาตะอยู่ใกล้ๆคงไม่มีใครกล้ามาแกล้งน้องเนยแบบนี้ "
อากับอาหวานได้ฟังก็อดที่จะร้องไห้ไม่ได้ และทุกครั้งที่เจอกันน้องเนยก็จะมาถามอาว่าเมื่อไหร่เราจะกลับมาซักที ถามแบบนี้ทุกวันทุกวันแต่ในตอนนั้นวาตะก็จำน้องไม่ได้แล้ว ทั้งที่วาตะเป็นคนให้คำสัญญากับน้องเองและเป็นคนลืมสัญญานั้นเอง"
เขาฟังที่อานัตพูดก่อนจะหันไปมองหน้าคนที่นั่งหลับอยู่ข้างๆ มองอยู่อย่างเงียบๆ.....
เวลาต่อมาหลังจากที่เขาส่งอานัตเสร็จเขาก็ต้องขับไปส่งเนยที่บ้านอีก ขับมาเป็นชั่วโมงก็ยังไม่ตื่นไม่ขยับตัวเลย อะไรจะหลับลึกขนาดนี้ เขามองดูเวลาตอนนี้เกือบสี่ทุ่มแล้ว
ตื๊ดดดดดดดดด ตื๊ดดดดดดด
"ว่าไงครับนีน่า"
"ถึงไหนละคะนีน่ารอตั้งแต่สามทุ่มแล้วนะคะพี่วาตะ"
"ขอโทษนะพอดีพี่ติดธุระน่ะ"
"ถ้าภายในครึ่งชั่วโมงไม่มานีน่าโกรธจริงๆนะคะ"
เอาไงดีวะ ผับที่นัดนีน่าก็อยู่ไม่ไกลจากนี่ หรือเขาจะไปหานีน่าก่อนดีแล้วค่อยไปส่งยัยนีี่ที่หลัง เขาต้องหาเหตุผลและเขาก็ใช้เวลาไม่นานก็คิดออก
"ฮัลโหลอานัตพอดีรถผมเสียน่ะจู่ๆก็สตาร์ทไม่ติดนี่กำลังโทรเรียกช่างมาซ่อม อาช่วยโทรบอกพ่อแม่ยัยเนยทีได้ไหมว่าผมจะไปส่งช้าหน่อย ครับ ขอบคุณครับ"
เมื่อแก้ปัญหาเฉพา่ะหน้าได้เขาก็เปลี่ยนเส้นทางไปที่ผับทันที เมื่อเขาขับมาถึงหน้าผับเขาก็วนหาที่จอดและกำลังจะลงไปหานีน่าโดยจะปล่อยยัยนี่นอนรอในรถแต่จู่ๆก็ตื่นขึ้นมานั่งมองตาปรือๆง่วงๆก่อนจะหันไปมองรอบๆบริเวณก่อนจะทำตาโตตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นคือสิ่งที่ไม่เคยเจอ
"ที่นี่ที่ไหนอ่ะคะ"
"ผับ ทำไม อยาบอกนะว่าไม่รู้จัก"
"อ่อ ผับแต่น้องเนยไม่เคยเข้าไปเลย เอ่อขอเข้าไปด้วยได้ไหม"
"อายุเท่าไหร่จะเข้าผับถึงสิบแปดรึยัง"
"ถึงแล้วสิ"
"อยู่นี่แล่ะฉันเข้าไปแป๊บเดียว"
"ไม่เอาค่ะจะเข้าไปด้วย ถ้าไม่ให้เข้าน้องเนยจะฟ้องอานัตฟ้องป๊ากับแม่ว่าพี่วาตะโกหกว่ารถเสีย"
"นี่ยัยหมูเจ้าเล่ห์ เธอแกล้งหลับงั้นเหรอ"
"ใช่ค่ะ"
สุดท้ายเขาก็ต้องพายัยนี่เข้ามาในผับด้วย พอก้าวเท้าเข้ามาทุกสายตาก็มองมาที่เขาทันทีซึ่งไม่ต้องเดาว่ามองทำไม คงคิดว่ายัยนี่เป็นแฟนเขามั้งเพราะเล่นจับแขนจับมือเขาตั้งแต่เข้ามายังไม่ยอมปล่อยซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
"โหหหห ข้างในคนเยอะจัง แล้วพี่วาตะนัดเพื่อนไว้เหรออยู่ไหนล่ะ"
"ชั้นบน"
"งั้นพี่วาตะก็ไปหาเพื่อนสิน้องเนยยืนรอข้างล่างนี้ได้"
"เดินตามมาจะอยู่อะไรตรงนี้ เดี๋ยวเกิดหลงเกิดเป็นไรขึ้นมาป๊าเธอจะมาฆ่าฉันทำไง"
"มันจะมีอะไรในนี้ ก็แค่คนมาเที่ยวกันมาดื่มมาฟังเพลงใครจะมาทำอะไรน้องเนย"
"จำไว้อย่าเดินห่างจากฉันเข้าใจไหมยัยอ้วน"
"เข้าใจก็ได้"
น้องเนย.....
ตอนนี้เราเดินตามพี่วาตะขึ้นมาชั้นสอง มันแบ่งเป็นห้องๆที่ดูจะเป็นส่วนตัวกว่าข้างล่าง พี่วาตะพาเรามายืนอยู่ตรงประตูห้องๆนึงติดป้ายไว้ว่าVIP9 มันคงเป็นห้องวีไอพีสำหรับคนมาเที่ยวที่นี่ซึ่งเราก็ไม่เคยมาหรอก เคยขอป๊ามาแต่ป๊าบอกเรายังเด็กอยู่
พี่วาตะผลักประตูเข้าไปก็เจอกับผู้หญิงสามสี่คนนั่งดื่มกันอยู่ แต่ละคนแต่งตัวได้สุดติ่งมากบอกเลย นี่อยากจะถามนะว่าเอาเศษผ้ามาทำชุดกันหรือยังไง จนมีผู้หญิงคนหนึ่งลุกขึ้นมาหาพี่วาตะ เธอมองมาที่เราแล้วมองตั้งแต่หัวจรดเท้า
"นี่ใครคะพี่วาตะ"
"น้องสาวน่ะ"
"สวัสดีค่ะ เราชื่อน้องเนยนะคะ" เราแนะนำตัวกับผู้หญิงตรงหน้า แต่เหมือนเธอจะไม่อยากรู้จักเราสักเท่าไหร่ เธอดึงแขนพี่วาตะไปนั่งที่โซฟา
เรายืนอยู่ตรงนี้มาจะครึ่งชั่วโมงแล้วค่ะ ตอนนี้พี่วาตะกำลังนั่งคุยกับผู้หญิงกลุ่มนั้นอยู่โดยไม่ได้สนใจเราเลยว่าเราจะยืนหรือจะนั่งตรงไหน เราอยากกลับบ้านแล้ว เราหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเพื่อจะโทรหาพี่อคินให้ออกมารับเพราะถ้าโทรบอกแม่ป๊าก็ต้องรู้และคนที่ซวยก็คือคนที่พาเธอมานั่นแล่ะ แต่แบตมือถือดันหมด แล้วเราจะทำไงดี
