ตอนที่สาม เงื่อนงำ
ภาพถ่ายหลายๆ ใบทำให้ตรัยนั่งไม่ติดหลังจากที่มีนายตำรวจสืบสวนคนหนึ่งได้หลักฐานเกี่ยวกับคดีน้องสาวเสียชีวิตมาได้พักหนึ่งเขาก็หันไปรื้อคดีใหม่เหตุเกิดเริ่มแรกเพราะว่าเพื่อนเขาที่เป็นตำรวจท้องที่และดูแลคดีให้ได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเสียชีวิตของตติยาและหทัยวัตแล้วมันเป็นปมที่ยังไม่คลี่คลายจึงรื้อคดีกันเงียบๆเพราะไม่อยากให้ข่าวกระทบอะไรหลายๆ อย่างโดยเฉพาะทางด้านจิตใจของครอบครัวเขาเอง
“ฉันกำลังให้คนลงพื้นที่ไปสืบสามคน...ต้องรอความคืบหน้าก่อนแต่ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าคนในรูปคือนายหทัยวัต”
“มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ไอ้หมอนั่นยังไม่ตาย...” ตรัยพึมพำ...เขาเองตกตะลึงกับสิ่งที่พันตำรวจตรีเทวันเพื่อนสนิทของเขาเอามาบอกมันเริ่มมาจากที่มีรูปถ่ายหนึ่งที่เทวันเห็นจากบอร์ดถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวทางเหนือแล้วเจอคนหน้าเหมือนหทัยวัตที่พื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุและเขาได้ดูรูปภาพหลายใบมากขึ้นก็เจอคนหน้าเหมือนหทัยวัตในภาพนั้นหลายต่อหลายใบ
วันที่ในรูปภาพนั้นบ่งบอกชัดว่าถ่ายเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง...
“จากสภาพศพไหม้เกรียมอยู่ในรถที่นายหทัยวัตกับน้องสาวนายเช่าขับที่แม่ฮ่องสอนแล้วระเบิดมันทำให้เราพลาดไปที่ไม่ได้ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นทั้งคู่จริงหรือไม่นายตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นมั่นใจและสรุปไวไปแต่ฉันก็ว่าไม่ผิดหรอกที่จะสรุปแบบนั้นเพราะมันตรงตามรูปการทุกอย่าง แต่พอเห็นรูปคนหน้าคล้ายนายหทัยวัตในท้องที่แล้วก็สังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก” เทวันนิ่วหน้าคิด... “ตอนนี้ฉันไม่กล้าสรุปอะไรและจะรื้อคดีใหม่ทั้งหมดรวมทั้งจะเอาตัวไอ้คนในรูปนี้มาให้ได้แต่ก็คงต้องรื้อคดีอย่างเงียบเชียบที่สุดไม่อย่างนั้นมันอาจจะไหวตัวทันถ้ามันคือคนรักเก่าของน้องแกจริง”
“ถ้ามันไม่ตายเป็นไปได้ไหมว่าน้องสาวฉันก็ยังไม่ตาย” คำถามที่อาจจะดูเหมือนมีความหวังในยามที่ไม่สมควรมีแต่การที่ได้พบคนหน้าเหมือนและอาจจะเป็นหทัยวัตทำให้ไม่มีใครกล้าพูดได้ว่าเรื่องที่ตรัยคิดมันจะไม่มีทางเกิดขึ้น...
“ตอนนี้ฉันคิดว่าอะไรมันก็คงเกิดขึ้นได้เพราะเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น”
“เราอาจจะถูกแหกตาก็ได้ใช่ไหม...”
“มันมีแนวโน้มว่าจะเป็นอย่างนั้นได้สูง... นี่คือรายงานการเดินทางของคุณเพลิน เธอเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุถึงสามครั้งหลังจากที่กลับมาจากต่างประเทศ... มันน่าสงสัย”
เอกสารเเจกเเจงเที่ยวบินและการใช้จ่ายบัตรเครดิตและการจองโรงแรมในจังหวัดเเม่ฮ่องสอนใกล้ที่เกิดเหตุถูกยื่นให้ตรัย คิ้วเขาขมวดมุ่นนัยน์ตาวาววับเมื่อเขาได้อ่านอย่างละเอียด
เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานดังขึ้นระหว่างที่กำลังคุยกันอย่างเคร่งเครียด
“คุณหทัยวดีมาขอพบครับ”
“คราวนี้รู้จักเข้าตามตรอกออกตามประตูดีนี่ บอกก่อนว่าฉันคุยกับเพื่อนอยู่ ให้รอก่อน” ตรัยกรอกเสียบอกเลขาส่วนตัวไป วันนี้หล่อนคงได้รู้แล้วว่าไม่สามารถหาเงินจากที่ไหนได้อีกถึงได้กลับมาพึ่งเขาและก็ฉลาดที่ไม่บุกเข้ามาอย่างครั้งที่ผ่านๆ มา เขาจึงให้เพื่อนเก็บหลักฐานไปก่อนที่นางนกต่อจะไหวตัวทัน...
“เขามาหานายด้วยเหรอ” เพื่อนถามตรัย ไม่นึกว่าหทัยวดีจะมาหาเขาด้วยความเสน่หาและก่อนหน้านี้ก็ได้ยินมาว่าทั้งคู่ไม่ถูกกันนัก อีกอย่างหทัยวดีไม่ใช่สไตล์ผู้หญิงที่ตรัยชอบเพราะหล่อนสวยคม มีผิวสีน้ำผึ้งจางๆ แม้รูปร่างสะดุดตาหากแต่หล่อนก็ดูตัวเล็กเมื่อเทียบกับสาวอื่นที่ส่วนสูงและส่วนเว้าโค้งดึงดูดสายตามากกว่า ส่วนผู้หญิงของตรัยมักจะเป็นแนวนักแสดงนางแบบที่มีความขาว อวบอึ๋มและเซ็กซี่ถึงใจตั้งแต่แวบแรกที่เห็น หทัยวดีดูค่อนไปทางพวกเด็กแนว อาร์ตๆ โลกส่วนตัวสูงและดูกะโปโลเกินกว่าตรัยจะทอดสายตามองหากไม่ได้รู้จักกัน ตรัยคงมองผ่านและไม่สนใจหล่อนแน่ๆ เทวันคิดอย่างรู้จักเพื่อนดี
“พอดีว่าสบโอกาสที่จะดึงตัวมาไว้ใกล้ๆ ได้ เลยดึงมาก่อนจะรีดความจริงให้หมด”
“ถึงว่าสิ... เธอไม่ใช่เสป็คนาย ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องพี่ชายของเขา นายคงไม่ชายตาแลผู้หญิงคนนั้นหรอกใช่ไหม”
คำพูดของเพื่อนทำให้ตรัยยิ้มที่มุมปาก... เขาไม่พิศวาสหล่อนไม่เพียงเพราะความสวยของหล่อนไม่เข้าตา แต่นิสัยใจคอและครอบครัวของหล่อนก็ไม่มีทางเป็นที่ชื่นชอบของเขา... การที่เขาดึงตัวหล่อนมาก็ด้วยเหตุผลด้านความสะใจล้วนๆ แค่คิดว่าจะได้คนอวดเก่งถือดีมาเป็นเบ๊คอยถือกระเป๋าเดินตามเข้าต้อยๆ ชี้นิ้วให้ทำอะไรก็นึกสนุกแล้ว
“ให้หทัยวดีเข้ามาได้” หลังจากที่เพื่อนออกไปแล้วตรัยก็โทรสั่งเลขาของตนเอง... รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก เงินส่วนตัวของเขากว่าร้อยล้านถูกเตรียมไว้แต่แรก การเอาเงินไปจมกับบริษัทที่ไม่รู้ว่าจะร่วงหรือรอดอาจมีความเสียงสูงแต่ถึงกระนั้นก็ตาม เขาคิดว่ามันคุ้มแสนคุ้ม หากได้ดอกเบี้ยดอกตูมๆ เหมือนกับหน้าของคนที่เปิดประตูห้องทำงานของเขาแล้วเดินเข้ามา...
หล่อนมาตกอยู่ในมือของเขาได้อย่างง่ายดายเหลือเกิน...
“ยินดีต้อนรับสู่บริษัทตรินิตี้เป็นครั้งที่สามครับ มิสหทัยวดี พิมชล” เสียงเข้มเอ่ยกล่าวต้อนรับด้วยรอยยิ้มแต่คนที่เดินเข้ามากลับหน้าหยิกหนักกว่าเดิมจนตรัยเเทบจะหลุดขำ
เเค่เริ่มก็สนุกปานนี้ ไม่อยากจะคิดต่อเลยว่าหล่อนจะถูกลดศักดิ์ศรีและรีดเค้นให้ยอมรับในสิ่งผิดที่ทำจนพ่ายเเพ้หมดรูปเเค่ไหน
ตรัยทอดมองคนที่ยืนหอบหายใจเพาะข่มกลั้นความโกรธยิ้มๆ เทวันขอตัวออกไปเงียบๆ เหลือเพียงแต่หทัยวดีและตรัยอยู่ในห้องด้วยกัน...
ก่อนจะออกจากห้องมา เทวันมองคนสองคนอีกครั้งแล้วขมวดคิ้วมุ่น เขาว่าเขาวิเคราะห์ผิดอะไรไปหรือเปล่า... สายตาที่มองหทัยวดีเหมือนจะกลืนกินของตรัยนั้นเขาเห็นชัด และเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด เริ่มเชื่อมั่นในใจว่านอกจากเรื่องแค้นของครอบครัวแล้วมันคงเอาเรื่องส่วนตัวมาเอี่ยวเพื่อหาทางขย้ำลูกกวางน้อยสีสันแปลกตาที่มันไม่เคยกินมาก่อน
เทวันคิดว่าเขาวิเคราะห์เกมได้ผิดมาตลอด จนเห็นสายตาผู้ล่าอย่างมัน
