5| ว่าที่เมีย
“อะไรนะ”
“หนูจะแต่งงานค่ะ พ่อว่างเมื่อไหร่คะ” ฉันกำมือแน่นรู้สึกตื่นเต้นเมื่อต้องพูดเรื่องสำคัญต่อหน้าพ่อแล้วก็แม่พลอย
“คบกันนานหรือยัง ฉันไม่เห็นแกพามาให้รู้จักบ้าง ปุบปับก็แต่งงานเลยหรือ”
“คบกันสักระยะแล้วค่ะ หนูอยากพามาเหมือนกันเห็นพ่อไม่ค่อยว่างก็เลยไม่มีโอกาส” ที่จริงพ่อไม่เคยว่างเลยต่างหาก ถ้ามีเวลาสิ่งแรกที่พ่อทำคือพาครอบครัวไปเที่ยวและทุกครั้งฉันก็จะไม่ว่างไปด้วย
“อืม ถ้าแกแน่ใจก็แล้วแต่”
“คุณคะ ไม่ถามสักหน่อยหรือคะว่าลูกเต้าเหล่าใคร” แม่พลอยแย้งขึ้น พ่อแค่ส่ายหน้าแล้วเดินขึ้นบ้านไป เห็นไหมว่าเรื่องของฉันไม่น่าสนใจในสายตาของพ่อเลยสักนิด จะแต่งงานออกเรือนอยู่แล้วท่านก็ยังไม่แล
“พ่อเขายุ่งๆ น่ะ แล้วผู้ใหญ่ฝั่งนั้นจะมาเมื่อไหร่ล่ะ แม่จะได้จัดเตรียมสถานที่”
“ขอบคุณค่ะแม่พลอย ทางนั้นบอกว่าขอเร็วที่สุดค่ะ” ถึงจะเป็นแค่แม่เลี้ยง แม่พลอยก็ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและอยู่ข้างฉันในวันที่ฉันไม่เหลือใคร แม้แรกๆ แม่พลอยจะไม่ค่อยชอบหน้าฉันสักเท่าไหร่ ฉันเข้าใจสถานะลูกเมียน้อยไม่มีบ้านใหญ่ที่ไหนอยากต้อนรับนักหรอก
“ท้องหรือไงยัยณิ” เสียงพี่แพรวดังขึ้นจนฉันต้องหันไปมอง
“เปล่าค่ะไม่ได้ท้อง”
“ทำไมถึงรีบ”
“ได้ฤกษ์มาแล้วไม่อยากรอนานค่ะ”
“อะๆ เอาเป็นว่าทางนี้พร้อม ณิก็ไปบอกทางนั้นนะ”
“ค่ะแม่พลอย” ฉันพยักหน้าแล้วเดินออกจากบ้าน มาถึงบ้านก็เย็นจนค่ำ กว่าจะคุยธุระเสร็จก็เกือบสามทุ่ม ถึงยังไงฉันก็ต้องกลับไปนอนคอนโด ไม่อยากอยู่ขวางหูขวางตาพ่อกับพี่แพรว
“ขับรถดีๆ นะ น่าจะค้างสักคืน”
“ไม่เป็นไรค่ะ พรุ่งนี้หนูต้องไปทำงานแต่เช้าด้วย” อีกเรื่องที่ฉันตั้งใจมาบอกพ่อคือเรื่องงาน ท่านแค่พยักหน้าแล้วบอกดีที่หางานทำ ส่วนพี่แพรวก็ซักไซ้เกี่ยวกับตำแหน่งงานนิดหน่อยพอเป็นพิธีเท่านั้น
“อย่าลืมโทรบอกแม่ล่ะว่าจะแต่งงาน”
“ค่ะแม่พลอย” แม่ที่แม่พลอยหมายถึงคือแม่แท้ๆ ของฉัน ตอนนี้ท่านอยู่ภูเก็ต ฉันมีน้องชายด้วยนะเป็นน้องต่างพ่อ ฉันไม่เคยน้อยใจที่แม่ตัดสินใจแต่งงานกับผู้ชายคนนี้เลย ท่านรักแม่ฉันมากดูแลทำให้แม่ยิ้มมีความสุขทุกวัน
“ขับรถดีๆ นะ”
“ค่ะ”
“ณิบอกที่บ้านแล้วนะคะ พี่เต้พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกณิได้ทันที” ฉันมานั่งรอพี่เต้ตั้งแต่เจ็ดโมง รอจนเก้าโมงพี่เต้เพิ่งเข้าบริษัท มื้อเช้ายังไม่ตกถึงท้องเลยเพราะมัวตื่นเต้นแล้วก็เกร็งกับเรื่องใหญ่ที่พูดออกไปเมื่อกี้
“อืม เสาร์นี้เลยก็แล้วกัน”
“ค่ะ ณิจะได้โทรไปบอกที่บ้าน”
“เรื่องงานแต่งพี่ตามใจเธอ อยากได้แบบไหนก็ไปคิดมา ส่วนเรื่องชุด อยากไปลองก่อนก็ได้ช่วงเตรียมงานพี่อนุญาตให้เธอหยุดงานได้จนกว่าจะเสร็จงาน” เขาพูดเหมือนจดไว้ในหัว ผู้บริหารอะเนอะ ทำงานก็ต้องวางแผน
“ค่ะ แล้วชุดพี่เต้ล่ะคะ”
“เอาที่เธอคิดว่าเหมาะ เลือกได้แล้วพี่จะเข้าไปลอง”
“ค่ะ”
“เริ่มตั้งแต่วันนี้เลยก็แล้วกัน เงินเดือนพี่จะจ่ายให้เหมือนเดิม แต่หลังจากแต่งงานพี่จะเพิ่มให้” ฉันโอเคกับทุกอย่างที่พี่เต้พูดออกมา ดีใจที่เขายังให้ความสนใจกับงานแต่ง นึกว่าต้องมีหน้าที่เข้าพิธีอย่างเดียว อย่างน้อยพี่เต้ก็ถามความเห็นจากฉันว่าอยากได้งานแบบไหน
“ขอบคุณค่ะ”
“ไปคิดมานะว่าอยากได้เท่าไหร่”
“ถ้าพี่เต้หมายถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านหลังแต่งงาน ณิแล้วแต่พี่เต้ค่ะว่าอยากให้เท่าไหร่”
“พี่หมายถึงตำแหน่งของเธอต่างหาก นอกจากเลขาเธอก็ต้องเป็นเมีย คิดค่าตำแหน่งเมียมาด้วย อยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” ตำแหน่งเมีย? ฉันนิ่งแล้วมองมือตัวเอง ไม่สามารถค้นหาคำตอบหรือว่าคำถามในหัวตอนนี้ได้เลย แม้จะทำใจไว้แล้วว่าต้องแต่งงานเพราะอะไร
“ณิไม่รู้ค่ะ ไม่เคยต้องคิดอะไรแบบนี้ด้วย”
“ค่อยๆ คิด พี่ไม่รีบหรอก”
“ถ้าเป็นไปได้ พี่เต้ช่วยร่างข้อปฏิบัติการเป็นเมียให้ณิด้วยนะคะ ณิจะได้รู้ว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไร ของที่พี่เต้ชอบด้วยก็ดี ณิไม่อยากให้ที่บ้านสงสัย แล้วณิก็อยากเป็นภรรยาที่ไม่สร้างปัญหาให้กับพี่ด้วย ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ พี่แตนเพิ่งเอาเอกสารการประชุมมาให้สรุป” พูดจบฉันก็ลุกเดินไปที่โต๊ะทำงานตัวเองทันที ถ้าเขาอยากพูดก็คงพูดเองแหละ อยู่ในห้องเดียวกันได้ยินอยู่แล้ว ฉันหยิบแฟ้มเอกสารที่พี่แตนเอามาวางไว้ให้ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่เงยหน้าขึ้นมองเจ้านายอีกเลย
สถานะของฉันตอนนี้ก็ไม่ต่างจากผู้หญิงที่เขาซื้อกินหรอก ใครๆ ก็อยากแต่งงานกับคุณเต้ทั้งนั้น สาวน้อยสาวใหญ่คลั่งไคล้เขาทั่วประเทศไม่เว้นต่างประเทศที่เขาจากมา
โชคดีของฉันสินะที่ได้แต่งงานกับเขา ถ้าฉันไม่ใช่เพื่อนสนิทของน้องสะใภ้เขา คงถูกเขี่ยทิ้งไปแล้ว
รับฉันเข้าทำงานเพราะเรื่องนี้สินะ
ปึก!
“อะไรคะ” ฉันเงยหน้ามองบางสิ่งที่ถูกวางลงบนโต๊ะทำงานของตัวเอง
“คีย์การ์ด”
“ให้ณิทำไม”
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอต้องย้ายมาอยู่กับพี่ เพ้นเฮ้าท์ด้านบนเป็นของเธอแล้วอยากทำอะไรกับมันก็เชิญ ถ้าอึดอัด แต่งงานแล้วค่อยหาซื้อบ้านที่อยากอยู่ ส่วนรถ พี่ไม่อยากให้ขับรถญี่ปุ่น พี่จะซื้อรถยุโรปให้” ย้ายไปอยู่ด้วยกัน? ฉันไม่ได้ขัดรับคีย์การ์ดที่วางอยู่ด้านหน้ามาแล้วหย่อนลงกระเป๋า ส่วนเรื่องรถไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเปลี่ยน
“ณิเสียดายรถแล้วก็ไม่อยากสิ้นเปลืองด้วย”
“เงินพี่ก็เหมือนเงินเธอ” รวมถึงบริษัทนี้ด้วยหรือเปล่า ดีจริงๆ ยังไม่ทันได้แต่งก็กลายเป็นเศรษฐีซะละ
“แล้วตัวพี่ล่ะคะ เป็นของณิด้วยหรือเปล่า” คราวนี้ฉันตั้งใจถามออกไป กล้าสบตา แล้วก็กล้ามองหน้าเขาชัดๆ ไม่หันหนี
“เธออยากได้ส่วนไหน” ฉันยกยิ้มปิดแฟ้มในมือลง
“หัวใจค่ะ ณิอยากได้หัวใจพี่” ไม่หลบตาตั้งใจพูดต่อ
“อยากได้ก็ต้องทำให้ได้ ถ้าถูกใจพี่เต็มใจยกให้อยู่แล้ว” ทำไมง่ายจังแต่ว่าจะทำยังไงให้ได้ใจเขานี่แหละ ยากจังไม่เห็นรู้สึกเหมือนตอนพูดเลย
“ยากไหมคะ”
“ลองดูสิ” อย่างน้อยๆ ก็ยังมีหวัง จะลองดูแล้วกัน
“จะลองดูค่ะ ถ้าคว้าไม่ได้ก็คงต้องถอย”
“พี่เป็นกำลังใจให้” เกลียดจัง ฉันแต่งงานเพื่อเข้าไปพิชิตหัวใจเขาอย่างนั้นเหรอ ตลกดี เริ่มต้นด้วยการแต่งงานแม้จะลัดขั้นตอนแต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ถ้าเป็นผู้เข้าแข่งขันตอนนี้ฉันนำหน้าอยู่ร้อยก้าว
คอยดู เราจะได้เห็นหัวใจกัน
เริ่มต้นจากวันนี้เลยก็แล้วกัน คอร์สแม่บ้านฉันพร้อมมาก
“เป็นกำลังใจให้งั้นเหรอ หึ” ฉันปิดแฟ้มแล้วพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมา ตอนนี้ในห้องท่านประธานมีแค่ฉันคนเดียว พี่แตนเข้าประชุมกับพี่เต้ ส่วนผู้ช่วยเลขาอย่างฉันสถานะตอนนี้คืออยู่ระหว่างการเตรียมงานแต่ง ดีจริงๆ ว่าที่เจ้าบ่าวโยนทุกอย่างให้
คอยดูเถอะ ฉันจะทำให้พี่เต้สยบแทบอกนุ่มนิ่มของตัวเองให้ได้ เมียจ๋าต้องมา คอยดูนะคอยดู
