04
04
"อัญญาลูก ทำไมอัญญาถึงยังไม่บอกเทพอีกนี่มันใกล้จะคลอดแล้วนะลูก ทำไมอัญญายังไม่บอก" มาลัยเอ่ยถามลูกสาวคนเดียวของตัวเองที่ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียง ด้วยขนาดท้องที่โตแต่ก็ไม่โตมากด้วยเพราะท้องแรก
ในตอนนี้นั้นอัญญาลูกสาวของเธอก็ได้อุ้มหลานของเค้าไว้เป็นอายุครรภ์ 8 เดือนแล้วอีกไม่นานหลานของเค้าก็จะออกมาลืมตาดูโลกกว้าง แต่แม่ของหลานนี่สิทำไมถึงยังไม่บอกพ่อของหลานอีก ทั้งที่คุยกันทุกเวลา
"อัญญาไม่กล้า" อัญญาเอ่ยตอบเสียงสั่น เธอเคยเดินออกไปซื้อของที่ตลาดและบังเอิญเจอแม่ของคฑาเทพ แม่ของคฑาเทพจ้องทาที่เธอ ถ้าสมมุติเธอบอกคฑาเทพ คฑาเทพบอกครอบครัวและพวกเค้าจะไม่มาทำร้ายเธอทำร้ายลูกของเธองั้นหรอ
"อัญญาลูก อัญญาต้องเข้าใจนะว่าพ่อของลูกหนูเค้าก็ไม่ผิด และที่สำคัญเค้ามีสิทธิ์เป็นถึงพ่อของลูกหนู การที่หนูปิดบังเค้ามันไม่สมเหตุสมผลเลยนะ"
"...."
"ตอนนี้แม่อยากให้อัญญาคิดถึงลูกให้มากๆ เพราะตัวลูกเองก็ยอมมีความสัมพันธ์กับพ่อของลูกหนู ไม่ได้มีการขืนใจหรือข่มขืนกัน แถมที่สำคัญที่สุดเทพรักหนูมาก และหนูล่ะไม่รักเทพเค้าหรอจ้ะ หืม"
มาลัยไม่อยากให้ลูกตัดสินใจผิดๆ เธอรู้ว่าลูกสาวห่วงลูกตัวเองมาก แต่เธอก็เชื่อว่าถ้าคฑาเทพรู้เค้าก็จะต้องปกป้องอัญญาลูกสาวและหลานของเธอได้แน่
"รัก หนูรักคฑาเทพ"
"งั้นหนูต้องบอกเค้า ช่วยกันแก้ปัญหา โอกาสที่ลูกของหนูจะมีพ่อแต่หนูเป็นคนปิดโอกาสเค้า แบบนี้มันก็เหมือนทำร้ายลูกของอัญญาไปด้วย แม่อยากให้เราคิดดีๆ ก่อนที่จะทำอะไร จะได้ไม่มาเสียใจทีหลัง"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะแม่ที่เตือนสติหนู" อัญญาเงยหน้ามองแม่ของตัวเอง ที่แม่จริงก็คือทุกอย่าง ทั้งที่ลูกเธอควรมีทั้งพ่อและแม่ แต่เธอกับทำให้เค้านั้นมีแค่แม่คนเดียว
"บอกบอกแล้วไงถ้าลูกมีความสุขแม่ก็มีความสุขด้วย หนูทุกข์แม่ก็ทุกข์ด้วยเช่นกัน"
"อัญญารักแม่นะ" อัญญาขยับตัวลุกขึ้นไปสวมกอดแม่ของตัวเอง แม่คือทุกสิ่งทุกอย่างของเธอจริงๆ พ่อด้วยก็เช่นกันแต่เพียงแค่ท่านก็มีหน้าที่อื่น
"แม่ก็รักอัญญาลูก" มาลัยลูบหัวลูกสาวตัวเองที่เต็มเปี่ยมด้วยความรัก ความใส่ใจ เธอไท่อยากให้ลูกเดินทางผิด และจะต้องทุกข์จมปลักอยู่แต่ความเศร้าเสียใจ
สองชายหนุ่มที่เดินเข้ามาภายในห้องทำงานใหญ่ของเจ้านาย ส่วนเลขาก็เอ่ยรายงานต่างๆ ให้เรียบร้อย พร้อมเสนอออกวิธีการ การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ที่คิวล้นและสถานที่ไม่เพียงพอ
"นายครับ นายว่าเราควรที่จะขยายสถานที่ออกไปอีกไหมครับผมว่ามันน่าจะทำให้เราจัดการคิวและเวลาเร่งด่วนขึ้นได้อีก" เคนมองเจ้านายตัวเองที่เข้าห้องมาได้ก็เปิดโทรศัพท์ทันที
"หือ? อัญญาทักมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ยโทรศัพท์ เฮงซวยไม่แจ้งเตือนกู" แต่เจ้านายตัวเองนั้นกลับไม่ได้ฟังและมาทำหน้าไม่พอใจใส่โทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเอง
และรีบทักตอบกลับไปทันทีว่าอีกไม่เกินสิบนาทีจะรีบโทรกลับ
"อะไรพูดใหม่ ไม่ได้ฟัง" คฑาเทพปลดกระดุมที่คอออกด้วยความหงุดหงิด เพราะอากาศที่ร้อนและแอร์ที่ปิดไว้ทำให้อุณหภูมิในห้องนั้นอบอ้าว
"ผมบอกว่าเราควรจะขยายสถานที่ครับ มันจะได้ทำให้คิวขยับและตัดปัญหาสถานที่ไม่พอออกได้" เคนพูดให้เจ้านายตัวเองฟังอีกรอบ แม้ทีเมียนะค่ะ คะ ทีลูกน้องเสียงห้วนอย่างกับอะไรดี โคตรสองมาตรฐาน
"อืม มึงจัดการเลยกูก็คอยเกริ่นไปแล้วในที่ประชุม เดี๋ยวอีกไม่กี่วันนี้มีประชุมใหญ่มึงก็พูดเรื่องนี้เลย" คฑาเทพเองก็เห็นด้วยแม้บริษัทเราจะใหญ่ขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ ก็ไม่สามารถจัดงานในเวลาเดียวกันได้ เพราะแขกแต่ละงานก็คงไม่ใช่น้อยๆ
ดังนั้นทำให้เวลาหนึ่งก็จัดได้เพียงงานเดียว จนตอนนี้นัเนก็มีคนที่ขอยกเลิกงานไปแล้วหลายคิว ด้วยระยะเวลาที่กำหนดนั้นมันดูเหมือนที่จะช้าจนเกินไป แม้ตัวเองจะจ่ายค่ามัดจำไว้แล้วหลายหมื่นก็ตาม
"ครับนาย"
"เสร็จแล้วใช่ไหม?" คฑาเทพที่เห็นว่าเลขาตัวเองไม่เอ่ยพูดอะไรแล้วจึงเลิกคิ้วถาม เสร็จแล้วจะได้โทรหาเมียคิดถึงชิบหาย
"ครับนาย" เคนก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนที่จะรีบออกจากห้องไป เหอะ ว่างนิดว่างหน่อยใจก็ลอยไปหาเมีย เมียโทรมาหรือทักมานะแม่งหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยความเร็วแสง
ทีพอเขาสรุปงานอะไรต่างๆ ไม่สนใจ ทำอย่างกับเค้านั้นเป็นอากาศ พอเมียโทรมาน่ะจะอ้วกเช่นคำว่า 'ทำอะไรอยู่คะ' 'กินข้าวรึยังคะ' หรือคำนี้ที่โอ้โห้จะอ้วก 'อืออ คฑาเทพเหนื่อยมากเลยค่ะอยากกอดอัญญา อยากให้อัญญาเติมพลังให้'
แหม่ เลขาคนนี้หาข้าวหาน้ำ ช่วยทำงานแทบจะทุกอย่าง อดหลับอดนอนเพื่อทำงานให้เจ้านายคำขอบคุณสักคำไม่มี ทีเมียนะอ้อนอย่างกับแมว ทั้งที่ตัวจริงดุยิ่งกว่าหมา
'ฮัลโหวค่ะ อัญญา อัญญาทำอะไรอยู่คะ' นั่นไงผิดคำพูดทีไหน ขนาดนี่ว่าก็เดินเร็วแล้วนะยังโทรหาเมียเร็วหว่าอีก เสียงอ่อนเสียงหวานทั้งที่ตอนแรกเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าอะไร
"มึงจะออกไปได้ยัง" คฑาเทพตวัดตามองเลขาที่แม่งเดินจนถึงประตูตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่ปิดและเดินออกไปได้สักที
"ครับๆ" เคนก้มหัวให้ก่อนที่จะกดล็อกประตูจากด้านใน และรีบเดินออกไปทันที ขืนอยู่ต่อก็คงหมั่นไส้เจ้านายของตัวเอง
"ฮัลโหวนั่นเทพหรอลูก"
แม่เสียงปลายสายที่ตอบมานั้นกลับเป็นแม่เมียของตัวเอง ไม่ใช่อัญญา
"ครับแม่ แล้วนี่อัญญาไปไหนหรอครับ"
คฑาเทพที่ปิดไมโครโฟนเอาไว้ เมื่อได้ยินคำตอบกลับก็รีบเปิดและคุยกับแม่เมียตัวเอง
"ไปเข้าห้องน้ำน่ะลูก แม่เห็นว่ามีคนโทรมาเลยรับ และเห็นชื่อคฑาเทพด้วย"
มาลัยเอ่ยตอบลูกเขยทันที
"อ้อครับ งั้นแม่สบายดีไหมครับอยู่ที่นู่น ลำบากรึเปล่า"
ในเมื่อมันมีโอกาสคฑาเทพคนนี้ย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือ
"ก็สบายดีลูก ป้าของอัญญาเค้าก็ให้แม่ขายกับข้าวที่หน้าบ้าน เย็นก็แค่ดูแลความสะอาดนิดหน่อย ค่าน้ำค่าไฟก็ไม่เอา"
"ผมต้องขอโทษแม่ด้วยนะครับที่แม่ผมไปทำลายข้าวของ ของแม่ที่ทำมาหมดเลย ผมจะชดใช้แทนแม่ให้อัญญาเค้าก็ไม่เอา"
คฑาเทพรีบเอ่ยขอโทษแม่เมียเพราะยังไม่เคยมีโอกาสเลยและก็กลัวว่าแม่เมียนั้นจะพลอยเกลียดตัวเอง ถ้าแม่เมียโกรธหรือเกลัยดขึ้นมา จะเอาลูกสาวเค้ามาเป็นเมีย มาเป็นแม่ของลูกคงจะยาก
"ไม่เป็นไรหรอกลูก แม่ไม่โกรธคฑาเทพเพราะไม่ใช่ความผิดของคฑาเทพสักหน่อยลูก"
มาลัยที่พอเข้าใจดีว่าคฑาเทพลูกเขยนั้นคงจะกลัวเค้าโกรธ
''ขอบคุณนะครับแม่ แต่ผมขอถามคำถามหนึ่งได้ไหมครับ ก่อนที่อัญญาจะมา''
''อะไรล่ะลูก ถ้าแม่รู้แม่จะบอกนะ''
''แม่รู้ครับและแม่บอกคฑาเทพได้แน่ๆ''
คฑาเทพยิ่มออกมา ในเมื่อถามเมียเมียไม่ตอบ งั้นถามแม่เมียแม่เมียก็คงไม่ใจร้าย
''อะไรล่ะลูก ถามแม่มาได้เลย''
มาลัยว่าให้ปลายสาย อะไรที่สามารถตอบได้เธอก็ย่อมต้องตอบอย่างแน่นอน
''ตอนนี้แม่กับอัญญาอยู่ที่ไหนหรอครับ ผมอยากเจออัญญา ผมคิดถึงอัญญา''
คฑาเทพเอ่ยถามปลายสายอย่างไม่รอช้า ก็ด้วยไม่ได้คาดหวังว่าที่แม่เมียนั้นจะตอบก็เพราะอาจจะโดนเมียคำนั้นขอร้องเอาไว้ แต่ถ้าบอกเค้าก็คงจะเป็นบุญคุณอันยิ่งใหญ่
ที่จะทำให้ผัวคนนี้นั้นได้เจอหน้าเมียในรอบแปดเดือนกว่าๆ ได้เจอหน้ากันครั้งแรก คิดถึงเป็นบ้าเลย
