บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5

"คุณคือ" ปกรณ์เอ่ยถามเป็นคำแรก เมื่อเห็นหน้ากิ่งฟ้าที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้ด้านหนึ่งของโรงแรม

"คุณคือคุณปกรณ์ ลูกชายคุณบวรเพื่อนเก่าของกำนันทองใช่ไหมคะ" กิ่งฟ้าถามอย่างรวดเร็ว

เมื่อครู่ที่เขาไปที่บ้านเธอไม่ทันได้สนใจมองดูว่าหน้าตาเป็นอย่างไร รู้จากแม่เลี้ยงว่าท่าทางใจดีและดูสุภาพ กิ่งฟ้าพิจารณาคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่ค่อยไว้ใจสักเท่าไร

ท่าทางใจดีน่ะใช่ ดูสุภาพนี่ก็คงจะจริง เพราะเสื้อผ้าที่สวมใส่ดูมีราคาและรสนิยมพอสมควร แต่ไว้ใจได้หรือเปล่านี่ กิ่งฟ้าขอใช้เวลาอีกสักเล็กน้อย เพราะเท่าที่เห็นเขาเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่กี่วัน แต่กลับเป็นที่รู้จักของพนักงานเกือบทั้งโรงแรม โดยเฉพาะผู้หญิงที่ส่งยิ้มทักทายตั้งแต่ที่หญิงสาวเห็นว่าปกรณ์เดินมาแต่ไกล นอกจากนี้สาวๆ ที่อยู่แถวนั้นต่างก็พากันแอบมอง รือส่งสายตายิ้มทักทายเมื่อมีโอกาส และหมอนี่ก็ตอบกลับด้วยการส่งยิ้มตอบราวกับรู้จักกันมาก่อนหน้า

"ใช่" ปกรณ์รับคำ

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าปากนิดจมูกหน่อย รูปร่างบอบบางแต่ไม่ใช่ประเภทผอมแห้งแรงน้อย ที่น่าสนใจก็คือดวงตาของเธอที่คอยจับจ้องมองเขาทุกฝีก้าว ไม่ใช่เพื่อจับผิดแต่เหมือนกับจะพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่งในตัวเขามากกว่า

"เธอเป็นใคร" ชายหนุ่มย้อนถามด้วยความสงสัย

เขามาทำงานที่นี่หลายวันก็จริง แต่ไม่เคยออกไปไหนนอกจากหน้างานแล้วก็กลับเข้ามาโรงแรม ไม่มีสัมพันธ์พิเศษกับใคร ไม่มีที่เที่ยวและไม่เคยพบใครนอกจากคนที่ร่วมงานกันเท่านั้น แล้วทำไมเจ้าหล่อนถึงได้รู้จักชื่อ มาหาถูกคนและเหมาะเวลาได้

"ฉันชื่อกิ่งฟ้า" หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงฉะฉาน

"เป็นลูกสาวกำนันทองที่คุณไปหาเมื่อครู่นี้"

"อ๋อ" ปกรณ์ถึงบางอ้อ ลูกสาวเพื่อนพ่อนี่เอง ว่าแต่มาหาถึงที่นี่มีธุระอะไร หรือว่ากำนันทองมีเรื่องอยากจะขอให้ช่วยแล้ว

"ที่ฉันมาที่นี่ก็เพื่อขอให้คุณพาไปพบคุณบวรจะได้ไหม"

"มีธุระอะไรต้องไปพบด้วยตัวเอง ไหนคุณบอกธุระของคุณมาซิ ถ้าผมช่วยได้คุณจะได้ไม่ต้องไปกรุงเทพฯให้เหนื่อย"

ปกรณ์เข้าใจว่าเพื่อนพ่อคงมีเรื่องขอให้ช่วยเสียแล้ว และถ้าให้เดาคงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก ไม่เช่นนั้นลูกสาวคงไม่เดินทางมาหารวดเร็วขนาดนี้แน่

"ไม่จำเป็น ธุระของฉันจะพูดกับคุณบวรเท่านั้น" กิ่งฟ้าเชิดหน้าตอบ

ถึงเขาจะเป็นลูกแต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับปกรณ์ เขามีหน้าที่แค่พาเธอไปหรือถ้าไม่สะดวกกิ่งฟ้าก็สามารถไปกรุงเทพฯเองได้ เพียงแต่

"ถ้าคุณไม่สะดวกจะให้ฉันนั่งรถไปด้วย ถ้างั้นฉันฝากให้คุณบอกท่านด้วยว่า พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปหาท่านที่บ้าน"

ท่าทีถือดีไม่ยอมใครของกิ่งฟ้าทำให้ปกรณ์หมั่นไส้เล็กน้อย เจ้าหล่อนไม่พูดสักคำว่าขอไปด้วย แต่ใช้คำสั่งให้พาไปพบ แหม...แบบนี้มันก็ต้องเจอกันหน่อย

"คุณมีธุระอะไรกับพ่อผม หรือว่ากำนันทองมีเรื่องเดือดร้อนอะไร ว่ามาเลยดีกว่า เพราะถ้ารอคุณไปมาคงไม่ทันการณ์ เผื่อว่าผมจะช่วยได้เร็วกว่า"

"บอกแล้วไงว่า ฉันจะพูดกับคุณบวรเท่านั้น คนอื่นไม่เกี่ยว" กิ่งฟ้าเมินหน้าไม่มองคนที่พูดด้วย ท่าทียียวนที่ปกรณ์พูดจาเหมือนขัดขวางทำให้หญิงสาวเริ่มจะเหม็นหน้า

"คนอื่นที่ไหน ผมเป็นลูกชายคนที่คุณอยากเจอ อีกอย่างใครจะคุยกับพ่อ ผมเป็นลูกก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ไม่ใช่เหรอ" แน่ะ ปกรณ์ยียวนเข้าไปอีก

"ถ้าอยากรู้มากนักว่าทำไมฉันอยากพบพ่อคุณนัก ก็พาฉันไปด้วยซิ จะได้รู้คืนนี้เลยไม่ต้องรอถึงพรุ่งนี้เช้า" นางสาวกิ่งฟ้ายิ้มยั่วเล็กน้อยแล้วเอ่ยต่อว่า

"หรือถ้าคุณทนได้ว่าฉันจะพบพ่อคุณเรื่องอะไร ก็เจอกันที่กรุงเทพฯแล้วกัน อ้อ อย่าลืมบอกท่านด้วยล่ะ ว่าฉันจะเข้าไปหาพรุ่งนี้เช้า" ว่าแล้วกิ่งฟ้าก็ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่ข้างตัว เดินออกไปอย่างไม่ไยดีใครทั้งสิ้น

"เดี๋ยว" ปกรณ์ร้องเรียกเธอไว้

"บอกมาว่าทำไมต้องพบพ่อ แล้วฉันจะพาเธอไปด้วย"

กิ่งฟ้าชะงักฝีเท้าเมื่อได้ยินคำถามที่ไล่หลังของชายหนุ่ม หญิงสาวหันหน้ากลับมาสบตากับคนที่รอฟังด้วยสายตาที่แน่วแน่ ซึ่งยิ่งทำให้ปกรณ์อยากรู้เข้าไปอีกว่า มันเรื่องอะไรกัน

"ฉันจะไปทำงานกับคุณบวร" สาวน้อยเอ่ยด้วยสีหน้ามาดมั่น

"ทำงาน เธอเนี่ยนะจะไปทำงานกับพ่อ" เขาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

ปกรณ์ใช้สายตาสำรวจกิ่งฟ้าอย่างพินิจพิเคราะห์ถ้วนถี่ ตัวเล็กบอบบางแค่นี้จะทำอะไรได้ บริษัทที่ครอบครัวดำเนินกิจการด้านการก่อสร้าง มีคนงานที่เป็นทั้งลูกจ้างรายวันและรายเดือน ทุกคนล้วนมีร่างกายกำยำแข็งแรงพร้อมสู้งานหนัก แต่เธอไม่ใช่

หรือจะนั่งทำงานในออฟฟิศ ปกรณ์ก็นึกภาพไม่ออกว่าเจ้าหล่อนจะทำอะไรได้บ้าง อ่านออกเขียนได้มีความรู้มากน้อยแค่ไหน เป็นลูกสาวกำนันเล็กๆ เช่นนี้คงทำได้แค่ชงกาแฟหรือทำความสะอาดเหมือนแม่บ้านทั่วไป ถ้าเป็นเช่นนั้นล่ะก็ ไม่ต้องถึงบิดาก็ได้ เขาฝากงานให้ทำที่บ้านเกิดเสียเลยจะดีกว่า

"ทำอะไรได้มั่ง" ปกรณ์เอ่ยถาม

"ไม่จำเป็นต้องบอกให้ใครรู้ แต่ฉันทำได้มากกว่าที่คุณคิดแล้วกัน" กิ่งฟ้าโต้กลับไปด้วยความไม่พอใจนัก

เขาใช้สายตาประเมินค่าคนเช่นนี้ทุกครั้งไปหรือไม่ ถ้าใช่ก็แสดงว่าเป็นคนใจแคบ ตัดสินคนอื่นที่รูปลักษณ์ภายนอกโดยที่ไม่ได้ทำความรู้จัก หรือเรียนรู้ส่วนดีของคนอื่นเลยแม้แต่น้อย กิ่งฟ้าเหม็นขี้หน้าชายหนุ่มมากขึ้นไปอีก และเริ่มอยากจะไปให้พ้นหน้าเร็วๆ เพราะไม่ชอบคนที่มีนิสัยดูถูกคนอื่นเช่นนายปกรณ์คนนี้

"กำนันทองบังคับให้เธอมาหางานทำหรือไง" เขายังไม่หยุดซัก และเริ่มสงสัยว่าทำไมกิ่งฟ้าถึงต้องไปหางานในกรุงเทพฯทำด้วย

"ฉันฝากงานให้เอาไหม ที่นี่พอมีคนรู้จักอยู่บ้าง เธอจะได้ไม่ต้องไปดิ้นรนที่กรุงเทพฯ"

"ฉันจะไปพบคุณบวรและทำงานกับคุณบวรคนเดียวเท่านั้น ตกลงนายจะพาไปหรือไม่พาไป ฉันจะได้รีบไปที่ท่ารถ" กิ่งฟ้ายืนกรานคำเดิมหนักแน่น มือเล็กกระชับกระเป๋าพร้อมจะออกเดินทุกเมื่อหากว่าอีกฝ่ายเรื่องมากไปกว่านี้

"จะบอกอะไรให้ถ้าอยากทำงานก็ไม่ต้องไปถึงกรุงเทพฯก็ได้ ทำงานที่นี่ค่าครองชีพถูก อย่างน้อยเธอก็มีเงินเดือนเหลือมากกว่าครึ่งที่จะให้กำนันทองทุกเดือน แต่ถ้าไปกรุงเทพฯเธออาจจะ..."

"เจอกันพรุ่งนี้เช้านะ" กิ่งฟ้าสะบัดหน้าเดินหนีอีกครั้ง ไม่อยากฟังคนพูดไม่รู้เรื่องอีก

"เดี๋ยวซิ เธอ" ปกรณ์ทั้งตกใจทั้งหมั่นไส้ที่จู่ๆ กิ่งฟ้าก็เดินหนีอีกเป็นครั้งที่สอง

"ฉันแค่หวังดีไม่อยากให้เธอจากพ่อ อีกอย่างชีวิตในกรุงเทพฯไม่ได้สวยหรูอย่างในละครหรอกนะ อีกอย่างอยู่กรุงเทพฯถ้าความรู้น้อย มันก็จะยิ่ง..."

"ฉันรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันไปด้วย เราก็ต่างคนต่างไปแล้วเจอกันอีกทีพรุ่งนี้ หรือคุณจะไม่บอกให้คุณบวรทราบก็ได้ว่าฉันจะไปพบ เดี๋ยวฉันหาทางพบท่านเอง จะได้ไม่ต้องเป็นบุญคุณใคร"

เอาล่ะซิ ปกรณ์แสนหมั่นไส้แม่สาวปากดีตรงหน้าเหลือเกิน วาจาเจ้าหล่อนไม่เบาเลยทีเดียว สีหน้าท่าทางก็เอาเรื่องไม่ใช่เล่น ได้ถ้าอยากไปกรุงเทพฯนัก เดี๋ยวเขาจัดให้

"แล้วฉันจะรู้ได้ไง ว่าเธอคือลูกสาวกำนันทองจริงๆ"

"เมื่อกี้คุณไปหาพ่อ แล้วบอกว่าคุณบวรฝากบอกถ้าเดือดร้อนมีเรื่องอะไรให้ช่วย ให้บอกได้ไม่ต้องเกรงใจ เมื่อกี้ที่คุณคุยกับพ่อ คุณคุยเรื่องสมัยที่พ่อคุณมาเป็นชลประทานอยู่ที่นี่" กิ่งฟ้าทวนความจำเรื่องที่ชายหนุ่มคุยกับกำนันทองได้อย่างไม่ผิดแม้แต่นิดเดียว

"ทีนี้ฉันเป็นลูกสาวกำนันทองได้หรือยัง" หญิงสาวย้อนถามเขากลับบ้าน

"แล้วเรียนจบอะไรมา วุฒิแค่ไหน ปวช.หรือปวส. หรือว่าไม่..."

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel