บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6

"บอกแล้วไงว่าจะคุยกับคุณบวรเท่านั้น ถ้าอยากรู้พรุ่งนี้ก็อยู่รอฟังพร้อมกันทีเดียว จะได้หายข้องใจเสียทีว่าฉันทำงานให้คุณบวรได้มากแค่ไหน" ว่าแล้วกิ่งฟ้าก็ก้าวเท้าเดินออกไปทันที

"ก็ได้ ไปพร้อมกันก็ได้" ปกรณ์ตัดสินใจแล้ว

เขาให้เธอนั่งรถไปด้วยก็ได้ เผื่อว่าจะได้จับตาดูว่าเจ้าหล่อนตุกติกอะไรหรือเปล่า หรือว่าปากดีไปอย่างนั้นแต่เอาเข้าจริงมีดีแค่ปาก

"แน่ใจว่าจะให้ฉันไปด้วย บอกก่อนนะฉันจะไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น นอกจากรอคุยกับคุณบวรเท่านั้น" กิ่งฟ้าดักคอไว้ก่อน

"ได้ ดีซะอีก จะได้ไม่รำคาญหู ไปรอที่หน้าโรงแรมฉันเคลียร์ห้องก่อน" ว่าแล้วปกรณ์ก็หันหลังเดินกลับไป ส่วนกิ่งฟ้าเดินไปนั่งรอที่หน้าโรงแรมตามที่ชายหนุ่มบอก

สิบนาทีต่อจากนั้นรถเก๋งคันหรูของปกรณ์ก็เลี้ยวมาจอดหน้ากิ่งฟ้า ชายหนุ่มเปิดกระจกร้องเรียกให้หญิงสาวขึ้นมา

"เอากระเป๋าไว้ท้ายรถ จะได้นั่งสบายหน่อย"

กิ่งฟ้าเก็บกระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ แล้วจึงเดินมาเปิดประตูด้านข้างคนขับขึ้นไปนั่ง แม้สีหน้าของเธอจะไม่แสดงความรู้สึกใดออกมา แต่ในใจของกิ่งฟ้ากลับรู้สึกเคว้งคว้างอย่างบอกไม่ถูก เพิ่งกลับมาจะต้องจากไปอีกแล้ว แต่มันก็คงดีกว่าอยู่ต่อไปแล้วต้องยอมรับเงื่อนไขบ้าๆ ที่ไม่มีวันรับได้ไปตลอดชีวิตแน่ เธอต้องสู้และเดินหน้าต่อไป...กิ่งฟ้า

กิ่งฟ้าและปกรณ์มาถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ ตลอดทางที่นั่งรถมาสาวน้อยทำตามที่พูดทุกคำ คือไม่ปริปากพูดอะไรแม้แต่คำเดียว แม้ว่าพลขับจำเป็นจะชวนคุยก็ตามแต่ ทว่าเธอกลับพูดคำตอบคำราวกับกลัวดอกพิกุลจะร่วง สร้างความหมั่นไส้ให้กับปกรณ์เพิ่มมากขึ้น

“คุณท่านอยู่ในห้องทำงานค่ะ รอคุณปกรณ์อยู่” คุณแม่บ้านที่มารอรับแจ้งให่ชายหนุ่มรู้ พร้อมทั้งสอดส่ายสายตามองสุภาพสตรีแปลกหน้าที่เดินตามมาด้วยความสงสัย

“เดี๋ยวผมไปหาคุณพ่อก่อน ฝากป้าดูแลเธอด้วย อ้อ ไม่ต้องพูดอะไรด้วยทั้งนั้นให้นั่งเป็นใบ้แบบนี้ไปแหล่ะดีแล้ว” ปกรณ์แสนจะหมั่นไส้

เขาไม่เคยเจอใครแบบกิ่งฟ้ามาก่อน ถึงปกรณ์จะไม่ใช่หนุ่มเจ้าชู้เพลย์บอยที่ขยันเป็นข่าว แต่เขาก็ไม่น้อยหน้าใครเรื่องผู้หญิง สุภาพสตรีมากมายที่อยากใกล้ชิดหรือทำความรู้จัก ในฐานะทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทรับเหมาก่อสร้างอันดับต้นของประเทศ

แต่เธอทำให้ปกรณ์รู้สึกขาดความเชื่อมั่นในตัวเองไปในทันที เมื่อการอ่อยเหยื่อด้วยวิธีที่หมายจะสร้างความคุ้นเคยด้วยไม่มีผลกับกิ่งฟ้าเลยสักนิด เขาอยากรู้นักเชียวว่าต้องหน้าตาแบบไหน ท่าทางอย่างไรถึงจะทำให้เจ้าหล่อนรู้สึกอยากสนิทสนมคุ้นเคยด้วย

“นั่งรอก่อน เดี๋ยวจะให้คนเอาน้ำมาให้กิน” ปกรณ์ยังมีแก่ใจเดินมาบอกสาวน้อย ที่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ในห้องรับแขก

“คุณจะไปไหน” เธอถามเป็นคำแรก และเป็นประโยคที่ยาวที่สุดนับตั้งแต่เดินทางด้วยกันมา

“ไปหาพ่อ” น้ำเสียงคนตอบคล้ายกับจะบอกให้กิ่งฟ้ารู้ว่า เขามีสิทธิ์มากกว่า

“ฉันต้องการพบคุณบวร เดี๋ยวนี้” พอรู้ว่าปกรณ์กำลังจะไปหาคนที่ต้องการพบ กิ่งฟ้าก็ไม่รอช้ารีบแจ้งความต้องการทันที

“ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”

ท่าทียียวนกวนประสาทของชายหนุ่ม เกือบทำให้กิ่งฟ้าอดใจตอบโต้กลับไม่ไหว แต่เธอก็ต้องยั้งใจไว้แค่นั้นเพราะไม่อยากมีเรื่องมีราวให้เสียเวลามากไปกว่านี้ อีกทั้งที่นี่เป็นบ้านคนอื่นไม่ใช่ที่ของตัวเอง มีเรื่องตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าบ้านครั้งแรกคงจะไม่ดีเท่าไร

“รอที่นี่ก่อน ฉันจะไปถามว่าพ่ออยากเจอเธอไหม” ปกรณ์ยิ้มยียวนให้อีกครั้ง ก่อนจะหันหลังเดินจากไป โดยมีสายตาของกิ่งฟ้าที่มองอย่างอาฆาตไล่หลัง

คุณบวรอยู่ที่ห้องทำงานกำลังง่วนอยู่กับเอกสารบางอย่าง ปกรณ์เคาะประตูห้องแล้วเดินเข้าไปหาบิดาด้วยรอยยิ้มเหมือนเคย สองพ่อลูกทักทายถามไถ่เรื่องงานจนหอมปากหอมคอแล้ว ชายวัยกลางคนจึงไล่ให้บุตรชายไปพักและยื่นเอกสารสำคัญให้ไปทำการบ้านเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานสำคัญต่อไป

"รายละเอียดโครงการใหม่ เอาไปดูซะ ถ้าไม่เข้าใจหรือติดขัดตรงไหนมาถามพ่อได้ วันจันทร์นี้เราต้องเข้าร่วมการประมูลแล้ว”

“คุณพ่อครับ ผมมีเรื่องหนึ่งลืมเล่าให้ฟังไป” ปกรณ์รับเอกสารมาถือไว้ แล้วเริ่มเกริ่นเรื่องกิ่งฟ้า

“อะไร” ชายวัยกลางคนรอฟัง

“ก่อนผมจะกลับลูกสาวกำนันทองแวะมาหาที่โรงแรม”

“ลูกสาวกำนันทองงั้นเหรอ” คุณบวรทบทวนความจำแล้วเอ่ยว่า

“อืม แล้วไงต่อ กำนันทองมีอะไรหรือเปล่า”

“กำนันไม่มีครับ แต่ลูกสาวกำนันมี”

“อะไร” ชายวัยกลางคนถามด้วยความอยากรู้

“แม่นั่นสั่งให้ผมพามาหาพ่อเพื่อจะขอทำงานด้วย ผมบอกว่าจะฝากงานให้ที่โน่นก็ไม่เอา ยืนยันว่าจะมาหาพ่อให้ได้ ถ้าผมไม่พามาก็จะนั่งรถมาเอง” ปกรณ์เอ่ยด้วยความเหนื่อยใจ

“แล้วตอนนี้ลูกสาวกำนันทองอยู่ที่ไหน แกพามาด้วยหรือเปล่า”

“มาครับ ตอนนี้ให้รออยู่ข้างนอกก่อน ผมว่าพรุ่งนี้คุณพ่อให้ค่าเสียเวลาสักหน่อยแล้วส่งกลับบ้านดีกว่าไหม”

“ทำไม” คุณบวรนิ่วหน้าเล็กน้อยไม่เข้าใจที่บุตรชายพูด

“ก็จะให้มาทำงานอะไรล่ะครับ ตัวก็เล็กนิดเดียวแถมความรู้ก็ไม่มี ให้เป็นคนงานในไซต์ก็คงไม่เหมาะ แต่ถ้าให้ทำงานออฟฟิศก็เป็นได้แค่แม่บ้าน แล้วเราจะ...”

“ไปตามมาพบพ่อก่อน ให้พ่อเห็นหน้าค่าตาหน่อยซิว่าโตขึ้นแค่ไหนแล้ว” คุณบวรโบกมือตัดบท ปกรณ์จำต้องเดินออกมาพากิ่งฟ้าเข้าไปพบบิดาอีกครั้งตามคำสั่ง

กิ่งฟ้าพนมมือไหว้ทำความเคารพเพื่อนบิดาด้วยความเคารพ คุณบวรพอคุ้นหน้าบุตรสาวคนเดียวของกำนันทอง เพราะตอนที่เขายังไม่ลาออกจากงานราชการเคยไปมาหาสู่ที่บ้านกำนันบ่อยๆ เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าในเวลานั้นกำลังจะเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เสียดายที่ไม่ได้ติดตามถามข่าวว่าลูกสาวเพื่อนเป็นอย่างไรหลังจากนั้น

“สวัสดีค่ะ” กิ่งฟ้าทักทายผู้ใหญ่ด้วยรอยยิ้ม ปกรณ์ซึ่งยืนอยู่แถวนั้นเบะปากเล็กน้อยด้วยความหมั่นไส้

“เป็นไง ไม่ได้เจอกันเสียนานสบายดีนะ แล้วนี่มากรุงเทพฯกำนันรู้หรือเปล่า” คุณบวรถามด้วยความเอ็นดู

“รู้ค่ะ พ่อฝากจดหมายมาให้ท่านด้วย” กิ่งฟ้าควักกระดาษใบหนึ่งจากกระเป๋ากางเกงยื่นให้ชายวัยกลางคน ปกรณ์ตาโตด้วยความอยากรู้ว่าข้อความในจดหมายเขียนว่าอย่างไรบ้าง

“นี่ค่ะ เอกสารที่กิ่งเตรียมมาด้วย” หญิงสาวยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลส่งให้ ปกรณ์มองด้วยความสงสัย นี่กิ่งฟ้าเตรียมตัวมาดีขนาดนี้เชียวหรือ

“อืม ผลการเรียนดีขนาดนี้ เคยฝึกงานกับบริษัทระดับโลกมาแล้ว ทำไมไม่กลับไปทำงานที่นั่นอีก ฉันว่าถ้าหนูสมัครไปรับรองได้เลยว่าไม่พลาด” สีหน้าชายวัยกลางคนชื่นชมกิ่งฟ้าอย่างเห็นได้ชัด

ปกรณ์เริ่มรู้สึกเอะใจกับคำพูดของบิดาที่แสดงถึงความรู้ความสามารถของหญิงสาว หรือว่าลูกสาวกำนันทองคนนี้จะมีอะไรพิเศษเกินกว่าที่เขาคิดไว้

“นั่นถือเป็นประสบการณ์มากกว่าค่ะ แต่ถ้าทำงานจริงๆ หนูอยากทำงานกับท่าน เพราะพ่อชมนักชมหนาว่าท่านเป็นคนดีมีเมตตา”

“ขนาดนั้นเชียวหรือ” คุณบวรหัวเราะออกมาด้วยสีหน้าที่พึงพอใจมากกว่าเดิม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel