บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3

สองสามีภรรยามองหน้ากันด้วยความหนักใจ รู้ดีว่ากิ่งฟ้าพูดคำไหนคำนั้นและไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่ ปัญหาของกำนันทองก็คือจะทำอย่างไรที่จะพูดให้ชาติชายเข้าใจ โดยไม่มีผลกระทบกับความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานของกำนันชิต

“เอ็งกลับไปก่อนได้ไหม ไอ้ชาติชาย ข้ายังไม่ได้คุยกับนังกิ่งเลย” กำนันทองตะโกนลงมาจากด้านบน

"ถ้าอากำนันยังไม่ได้คุย งั้นฉันคุยกับน้องกิ่งฟ้าเองก็ได้จ้ะ ไหนล่ะ น้องกิ่งฟ้าคนสวยของฉันอยู่ไหน" ชาติชายมองหาและทำท่าว่าจะขึ้นมาบนเรือน กำนันทองจึงต้องรีบพูดว่า

"เอ็งกลับไปก่อน ไว้ข้าคุยกับนังกิ่งได้เรื่องอย่างไร แล้วจะไปบอกเอ็งอีกที"

“แต่พ่อให้ฉันมาเอาคำตอบวันนี้ และเดี๋ยวพ่อกำลังจะตามมาด้วย อากำนันรีบไปคุยกับน้องกิ่งเถอะว่าจะเรียกค่าสินสอดเท่าไร เรียกยังไงฉันก็ไม่อั้นทุ่มสุดตัวเลยจ้ะงานนี้” คนอยากมีเมียพูดอย่างมีความสุข ในขณะที่กำนันทองแทบล้มทั้งยืน

กำนันทองหันกลับมาปรึกษานางจันทาที่ยืนอยู่ข้างๆ กิ่งฟ้าไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว สีหน้าชายวัยกลางคนเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด จะหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ให้สวยงามได้อย่างไร

“พี่กำนันก็บอกไปเลยซิว่าหนูกิ่งไม่อยากแต่ง จะได้เลิกทำแบบนี้ซักที ฉันล่ะรำคาญเต็มทีแล้ว”

จันทาเองก็ไม่รู้จะหาเหตุผลใดมาหักล้างได้เช่นกัน เมื่อเจ้าตัวยืนกรานว่าไม่ และเป็นการปฏิเสธที่ว่าไปนางเองก็เห็นด้วยเช่นกัน การแต่งงานที่มาจากเดิมพัน ไม่ใช่ความรักแล้วมันจะเรียกว่าแต่งงานได้อย่างไรกัน

“ไม่ได้นะ...”กำนันร้องเสียงหลง แล้วพูดต่อว่า

“ขืนทำแบบนั้น รับรองว่าไอ้ชาติชายได้มาถอนหงอกข้าแน่” กำนันทองเองก็หนักใจไม่ใช่น้อย ลูกสาวสุดที่รักไม่ให้ความร่วมมือทุกอย่างก็จบ

“แล้วพี่มีวิธีรับมือไอ้ชาติมันไหม ท่าทางวันนี้มันเอาจริงแน่ๆ”

จันทาเองก็หนักใจไม่แพ้กัน ท่าทางว่าชาติชายคงไม่ยอมรามือเรื่องนี้ง่ายๆ แน่ และยิ่งถ้ากำนันชิตกำลังจะเดินทางมาที่นี่ด้วยแล้วล่ะก็ ไม่อยากคิดเลยว่าเรื่องจะบานปลายแค่ไหน

“เอาอย่างนี้นะ วันนี้เอ็งกลับไปก่อนแล้วพรุ่งนี้เอ็งมาหาข้า แต่ว่าไม่ต้องเอาแตรวงมาด้วย แล้วเราค่อยมาคุยกันเรื่องนังกิ่ง ตกลงไหม” กำนันทองตะล่อมหวังว่าจะชาติชายจะยอมทำตาม

“งั้นให้ฉันได้เห็นหน้าน้องกิ่งฟ้าสุดที่รักของฉันสักหน่อยเถอะ อากำนัน ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้น้องกิ่งสวยแค่ไหนแล้ว”

เอาแล้วไงล่ะ กำนันทองกับนางจันทาพูดไม่ออก อึ้งไปตามๆ กัน เท่านั้นยังไม่พอ ชาติชายยังทำท่าจะวิ่งขึ้นบันไดเพื่อหมายจะทำอย่างที่พูดให้จงได้ โดยมีเสียงแตรวงบรรเลงให้กำลังใจดังลั่น

“เฮ้ย! ใครทำอะไรกูวะ ไม่รู้หรือไงว่ากูลูกใคร” เสียงชาติชายตะโกนลั่น

ทุกอย่างหยุดชะงักแล้วหันมามองที่ชาติชายกันตาเดียว เอาอีกแล้ว เสื้อผ้าหน้าผมที่หล่อเท่ห์มาจากบ้าน แปรสภาพเป็นลูกหมาตกน้ำเหมือนเมื่อวันวานอีกครั้ง ฝีมือใครกัน ใครกล้าทำให้ลูกชายทุ่งบ้านขามมีสภาพแบบนี้

“ไม่รู้ว่าลูกใคร รู้แต่ว่าถ้าไม่รีบไปจะโดนอีกแน่ และถังนี้จะเป็นน้ำซักผ้าถูบ้าน อยากจะลองไหม” เสียงกิ่งฟ้าตะโกนลั่นเรือน

หญิงสาวถือกระป๋องน้ำเตรียมพร้อมจะทำอย่างที่พูด สีหน้าจริงจังคล้ายกับจะโกรธมากกว่ายินดีที่เห็นหน้าชาติชายเวลานี้

“โถๆ น้องกิ่งเหรอจ้ะ ไม่บอกพี่ก่อนว่าจะราดน้ำลงมา พี่จะได้หลบได้ทันไม่เปียกปอนเป็นลูกหมาตกน้ำแบบนี้” ชาติชายทำเสียงออดอ้อน แต่กิ่งฟ้าไม่อ้อนด้วย

“กลับไปตอนนี้เลยนะ ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ” กิ่งฟ้าไม่ได้ขู่แต่จะทำจริง ยกถังขึ้นมาพร้อมจะสาดลงมาทันที

ชาติชายกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย เห็นใบหน้าหวานที่บึ้งตึงอยู่บนเรือนแล้วก็รู้ว่าเอาจริงตามที่พูดแน่ แค่น้ำธรรมดาเขายังพอทน แต่ถ้าเป็นน้ำผ้าถูบ้านเห็นทีจะไม่ไหว ที่สำคัญยังไม่ต้องการมีเรื่องกับว่าที่เมียตอนนี้ เอาไว้ให้แต่งเป็นผัวเมียจริงๆ กันเสียก่อน

พ่อจะขอคืนทั้งต้นทั้งดอกที่ทำให้อับอายได้ขนาดนี้เลย คอยดู...

"งั้นพี่ชาติชายกลับก่อนก็ได้จ้ะ น้องกิ่งฟ้าคนสวย พี่คิดถึงนะ คิดถึงมากด้วย" ชาติชายหยอดคำหวาน หากแต่กิ่งฟ้าเมินหนีไม่ยอมพูดจาด้วยสักคำ ทำให้ชายหนุ่มเริ่มใจคอไม่ดี ไม่รู้ว่ากิ่งฟ้าโกรธจริงหรือแค่แกล้ง

“อาอย่าลืมนะจ้ะ พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่” ชาติชายหันมาหากำนันทอง ที่ยืนหน้าเครียดอยู่ด้านหลัง แล้วลาจากไปแต่โดยดีโดยมีคณะแตรวงนำทางไปเหมือนเคย

"ไม่รู้ล่ะ พ่อต้องจัดการเรื่องนี้ให้ฉัน" กิ่งฟ้าเอ่ยด้วยสีหน้าหนักใจ

เมื่อครู่เธอไม่ได้โกรธชาติชายเพียงแต่ต้องการให้หยุดและกลับไปเท่านั้น แต่มันก็แค่ยั้งได้ชั่วครู่เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องให้คำตอบเรื่องแต่งงานอยู่ดี ดังนั้นกิ่งฟ้าจึงต้องการให้กำนันทองตัดสินใจทำอะไรสักอย่างให้เด็ดขาด

"เอ็งจะให้ข้าทำไง ก็ข้าเอ่ยปากยกเอ็งให้ไอ้ชาติชายแล้ว เอ็งต่างหากที่ทำให้เรื่องมันยุ่ง" กำนันโบ้ยไปที่ลูกสาว

"พ่อพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก พ่อห่วงลูกบ้านฉันเข้าใจ แต่พ่อก็น่าจะถามฉันสักคำว่าฉันโอเคไหม" กิ่งฟ้าโมโหแต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ที่เก้าอี้

คนกลางอย่างจันทามองกำนันทองที มองกิ่งฟ้าทีด้วยความหนักใจ นางรักกิ่งฟ้าราวกับลูกสาวในไส้ นับตั้งแต่ที่จันทร์แรมพี่สาวสิ้นบุญไปก่อนเวลาอันควรนั้น นางก็ประคบประหงมเลี้ยงดูกิ่งฟ้าอย่างดีราวกับลูกแท้ๆ ก็ไม่ปาน ยิ่งเห็นหลานน่ารักเพียงใดก็ยิ่งไม่อยากให้หลานมีปมหากว่าพี่เขยจะแต่งงานใหม่

เมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควรว่าจะให้ทั้งสองลงเอยกันเพื่อผลดีจะได้ตกกับกิ่งฟ้าโดยตรงนั้น จันทาจึงไม่ปฎิเสธหนำซ้ำยังทำหน้าที่ทั้งเมียและแม่ได้ดีในเวลาเดียวกันด้วย เวลานี้เห็นทั้งพ่อทั้งลูกต่างมีท่าทีที่ขัดเคืองใจกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้ คนกลางอย่างจันทาก็พลอยรู้สึกอึดอัดไปด้วยเช่นกัน

"ค่อยๆ คุยกันดีไหม พี่กำนัน ฟังหนูกิ่งก่อนว่าทำไมถึงได้ไม่เห็นด้วย" จันทาพยายามประนีประนอมให้มากที่สุด

"เป็นลูกก็ต้องทำตามที่พ่อแม่บอก นี่อะไร ส่งให้เรียนสูงๆ กลับมาเถียงพ่อเถียงแม่" น้ำเสียงกำนันขึงขังแต่หน้าตากลับไม่ใช่

รู้อยู่เต็มอกว่าตนผิด คิดมาตลอดว่าทำความลำบากใจให้รู้ ไม่ใช่ว่ากำนันทองจะหัวเก่าเห็นดีเห็นงามกับเรื่องคลุมถุงชนเสียเมื่อไร แต่ศักดิ์ศรีที่ลั่นวาจาไปแล้ว จะให้คืนคำได้อย่างไร

“ฉันยอมพ่อได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียว พ่อก็เห็นว่าชาติชายเป็นคนอย่างไร แล้วพ่อยังอยากให้ฉันแต่งกับมันอีกเหรอ” กิ่งฟ้าย้อนถาม

ชาติชายไม่ใช่คนไม่ดี ถึงแม้จะมีดีบ้างเสียบ้างกิ่งฟ้าก็ไม่ถือ แต่หัวใจต่างหากที่ไม่ได้รู้สึกอะไรนอกจากเพื่อนที่เคยเล่นมาด้วยกันแต่เล็กแต่น้อย อีกทั้งตอนนี้เพิ่งเรียนจบตั้งใจจะกลับมาอยู่ให้พ่อชื่นใจแล้วค่อยหางานทำ แต่พ่อกลับจะหาทางให้แต่งงานแล้วแบบนี้จะไม่ให้กิ่งฟ้าเถียงได้อย่างไร

“ก็มันไม่ได้เห็นเอ็งมานานมากก็เลยอาจจะจำเอ็งไม่ได้ เอ็งก็อย่าเรื่องมากนักเลย ไอ้ชาติมันรักเอ็งขนาดไหน ดูที่มันทำก็พอจะรู้ ขี้คร้านแต่งไปเอ็งจะรักมันเอง” กำนันพยายามตะล่อม

“พ่อ...” กิ่งฟ้าขึ้นเสียงเล็กน้อย

“พ่อพูดแบบนี้ก็แต่งเองซิ ฉันไม่เอาด้วยหรอก พ่ออุตส่าห์ส่งให้ฉันไปเรียนกรุงเทพฯจนกลับมา งานการก็ยังไม่ได้ทำสักอย่าง อยู่ดีๆ จะให้แต่งงานกับไอ้ชาติ ฉันไม่แต่งหรอกพ่อ ถ้าพ่ออยากแต่งพ่อก็แต่งไปคนเดียวแล้วกัน” คราวนี้บุตรสาวหันหน้าหนี น้อยใจเล็กน้อยว่าพ่อเห็นดีเห็นงามได้อย่างไรกัน บอกแล้วพูดแล้วว่าไม่ได้รักไม่มีหัวใจคิดเรื่องแต่งงาน แต่พ่อคิดแต่จะรักษาคำมั่นที่ให้ไว้กับคนอื่น โดยไม่สนความรู้สึกลูกสาวตัวเองสักนิด ทำแบบนี้เหมือนรักคนอื่นมากกว่าลูกในไส้เสียอีก

กำนันทองหงุดหงิดเริ่มนั่งไม่ติดสีหน้าเครียดมากขึ้นกว่าเก่า เห็นลูกไม่เข้าใจเป็นทุกข์ก็ยิ่งทำให้รู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจกิ่งฟ้า เพียงแต่ยังคิดหาวิธีที่จะหาทางออกเรื่องนี้ไม่ได้ต่างหาก

“พี่กำนันจะโทษลูกก็ไม่ถูกนะ เรื่องแบบนี้ต้องปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ปลูกอู่ตามใจผู้นอน” จันทาเอ่ยขึ้นตามเหตุตามผล

“อีกอย่างตอนที่พี่กำนันตกลงเรื่องที่จะให้หนูกิ่งแต่งงาน ตอนนั้นหนูกิ่งเพิ่งไปกรุงเทพฯได้ปีเดียว ถ้าเราลองคุยกับฝ่ายโน้นให้ยืดเวลาไปอีกสักหน่อย ไหนๆ ก็รอมาได้ตั้งหลายปี ถ้าให้รอจนหนูกิ่งกับไอ้ชาติรักกันจริงๆ แล้วค่อยคุยเรื่องแต่งงาน น่าจะดีกว่าไหมพี่” จันทาช่วยสามีหาทางออกเรื่องนี้

ทางแก้ปัญหาที่จันทาเสนอมาน่าจะดีที่สุดสำหรับในเวลานี้ กำนันทองคิดว่าพรุ่งนี้จะลองเจรจาดูแต่กิ่งฟ้าส่ายหน้าปฏิเสธ เธอไม่มีทางเจรจาเรื่องนี้แน่ เพราะไม่ว่าอย่างไรเสีย ชาตินี้กิ่งฟ้าก็ไม่มีวันแต่งงานกับชาติชายเป็นอันขาด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel