ตอนที่ 5 ทาส
ตอนที่ 5
แต่ว่าความสุขนั้นมักอยู่กับเราได้ไม่นาน หมู่บ้านชีเป่าก็ต้องเผชิญกับเหตุร้ายอีกแล้ว เมื่อมีกลุ่มโจรป่าที่ออกอาละวาดปล้นหมู่บ้านตามขอบชายแดนมาแล้วหลายหมู่บ้าน
คราวนี้ก็เป็นคราวเคราะห์ของชาวบ้านหมู่บ้านชีเป่า ขณะที่ชาวบ้านกำลังพากันนอนหลับอย่างมีความสุข โจรกลุ่มนี้ก็พากันบุกเข้าหมู่บ้านอย่างเงียบเชียบ
“แยกย้ายกันไปปล้น แต่ห้ามฆ่าคนเด็ดขาด” หัวหน้าโจรสั่งการลูกสมุน นับว่าเป็นโชคดีของชาวบ้านอยู่บ้างที่โจรกลุ่มนี้ไม่ฆ่าคนเป็นผักปลา
คืนนั้นเสียงหวีดร้องระงมด้วยความตกใจ เสียขวัญของชาวบ้านที่ถูกโจรป่าบุกเข้าปล้นแบบไม่รู้ตัว
พวกโจรเหล่านี้ไม่สังหารชาวบ้านตามคำสั่งหัวหน้า ทำแค่เพียงจับเจ้าของบ้านมัดเชือกไว้ แต่หากมีชาวบ้านขัดขืน กลุ่มโจรก็แค่ลงมือซ้อมแต่ไม่ให้ถึงตาย หลังจากได้ทรัพย์สินตามที่ต้องการแล้ว โจรเหล่านี้ก็ควบม้าออกจากหมู่บ้านไป
แต่ระหว่างทางได้สังเกตเห็นกระท่อมหลังน้อยตั้งอยู่โดดเดี่ยว หัวหน้าโจรจึงส่งสัญญาณให้ลูกสมุนหยุด
“พวกเจ้าสองคนไปดูหน่อยสิ เผื่อได้อะไรติดไม้ติดมือมา”
ลูกสมุนโจรสองคนกระโดดลงจากหลังม้า ตรงเข้าไปหากระท่อมที่เก่าซอมซ่อ ในมือถือดาบเล่มยาว แต่โจรคนหนึ่งซุ่มซ่ามทำดาบหล่นพื้น
“เบา ๆ หน่อยซิวะ”
กุ้ยหลินที่กำลังนอนหลับพักผ่อนก็ต้องสะดุ้งตกใจตื่น เพราะได้ยินเหมือนเสียงดังกุกกักมาจากนอกกระท่อม เด็กสาวลงจากเตียงมาแนบใบหูลงกับพื้น ได้ยินเสียงฝีเท้า ฟังจากเสียงที่เคลื่อนไหว น่าจะมีสักสองคนเห็นจะได้
เด็กสาวอาศัยความเคยชิน คลำทางไปที่ห้องครัว ก่อนจะควานหามีดทำครัวจนพบ แล้วรีบหาทางไปยังห้องนอนของพี่ชาย ที่ยังคงหลับสนิทไม่รู้ตัว
กุ้ยหลินย่อง ๆ ไปจนถึงเตียงของพี่ชายจนได้ เด็กสาวเขย่าตัวพี่ชายเบา ๆ พอหยางเสี้ยวรู้สึกตัว นางก็รีบเอามือปิดปากพี่ชายเอาไว้ ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบที่ข้างหู
“พี่ใหญ่ มีคนบุกรุก ท่านเงียบ ๆ ไว้ก่อน” กุ้ยหลินรู้สึกหวาดกลัว ไม่รู้ผู้ที่บุกรุกเข้ามา จะมาดีหรือมาร้าย เด็กสาวกำมีดในมือไว้แน่น เหงื่อเกาะตามใบหน้า
เด็กสาวเงี่ยหูฟังเสียงความเคลื่อนไหว ดูเหมือนฝ่ายนั้นจะเข้ามาภายในบ้านแล้ว เพราะได้ยินเสียงเหมือนรื้อค้นข้าวของ กุ้ยหลินเห็นแสงสว่างลอดผ่านรอยแยกของผนังห้องเข้ามา จึงเดินไปแอบมองลอดผ่านรอยแยกนั้น เห็นชายฉกรรจ์สองคนกำลังรื้อค้นหาของมีค่า
“อะไรกัน ไม่มีของมีค่าอะไรเลย” โจรคนหนึ่งพูด
“ยังมีห้องอีกสองห้อง ข้าว่าแยกกันไปหาคนละห้องดีกว่า” โจรคนที่สองออกความเห็น
โจรคนหนึ่งเดินมาทางห้องนอนของหยางเสี้ยว พอเปิดประตูก็ต้องสะดุ้งเฮือก เพราะถูกมีดทำครัวฟันเข้าที่บริเวณอก โดยที่ไม่ทันตั้งตัว มันก้มลงมองบาดแผลที่มีเลือดสีแดงฉานไหลออกมา ก่อนจะมองไปทางมือมีดที่ยืนตัวสั่นอยู่หน้าเตียง
“แกกล้ามากที่ทำร้ายข้า”
โจรย่างสามขุมเข้าหาเด็กผู้หญิง ที่ยกมีดขึ้นเตรียมป้องกันตัว มันแสยะยิ้ม น่าขันที่เด็กตัวแค่นี้ช่างหาญกล้ามาสู้กับเขา
“โถ! ดูสิตัวสั่นเหมือนลูกนกตกน้ำเลย ข้าจะสั่งสอนคนที่ทำร้ายข้า ให้ต้องจดจำไปจนวันตาย”
“ยะ...อย่าเข้ามานะ” กุ้ยหลินเสียงสั่น แม้หวาดกลัวสักเพียงใด พอเข้าตาจนก็ต้องกัดฟันสู้
แต่โจรที่ไม่สนแม้แต่บาดแผลบนร่างกายของตนเอง หาได้หยุดตามคำสั่งของกุ้ยหลินไม่ มันยังคงก้าวเท้าอย่างมั่นคง ชักดาบออกจากฝัก หมายจะใช้คมดาบกรีดใบหน้าของเด็กสาวให้เป็นรอยแผลเป็น
พอเห็นโจรเข้ามาใกล้กุ้ยหลินก็ตวัดมีดทำครัว แต่คราวนี้โจรคว้าข้อมือบางของเด็กสาวเอาไว้ได้ มันจับมือเล็กของนางบิดเพียงนิดเดียวมีดก็หลุดจากมือร่วงไปอยู่ที่พื้น
“โอ๊ย!” กุ้ยหลินร้องด้วยความเจ็บปวดที่บริเวณข้อมือ
“นึกว่าจะแน่ มาข้าจะสอนให้ลิ้มรสชาติของความเจ็บปวดที่แท้จริง” โจรปล่อยข้อมือบาง เปลี่ยนมาบีบคอระหงแทน ก่อนจะยกดาบจ่อเข้ามาใกล้ใบหน้าของเด็กสาว
“ปล่อย ปล่อยข้า ไอ้คนชั่ว” กุ้ยหลินใช้สองมือชกไปที่หน้าอกของโจร ที่ทำหน้าเหยเกเล็กน้อย เมื่อหมัดของกุ้ยหลินถูกบาดแผล
“ฤทธิ์เยอะนักนะนางตัวดี ตายซะเถอะ” โจรเกรี้ยวกราดจนลืมคำสั่งของหัวหน้า มันยกดาบจะสังหารเด็กสาว
“อย่าทำน้องสาวข้า”
หยางเสี้ยวที่ยันกายลุกขึ้นนั่งโดยที่โจรไม่ทันได้สังเกต ว่าภายในห้องที่มืดสลัวมีอีกหนึ่งคนที่นอนอยู่บนเตียง เขาคว้าจับแขนข้างที่ถือดาบเอาไว้ได้ และใช้แรงที่มีทั้งหมดจับแขนโจรเอาไว้ให้มั่น
กุ้ยหลินเห็นดังนั้นก็กระหน่ำรัวหมัดชกต่อยซ้ำรอยบาดแผลของโจรร่างยักษ์ จนมันทนไม่ได้โยนร่างของนางไปกระแทกที่ผนังห้อง หล่นลงไปกองที่พื้น
กุ้ยหลินเจ็บเจียนตายจากแรงกระแทก แต่พอเห็นโจรชั่วกำลังทำร้ายพี่ชายของตนเอง เรี่ยวแรงที่หดหายในตอนแรกก็กลับฟื้นคืนมา
เด็กสาวฝืนข่มความเจ็บปวด ค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้น เดินไปหยิบมีดที่หล่นอยู่บนพื้น
โจรชั่วคนนี้มัวแต่สนใจคนพิการที่ไม่ยอมปล่อยมือ จึงไม่ทันสังเกตว่าเด็กสาวที่ตนเองทุ่มออกไป กำลังอ้อมมายืนทางด้านหลัง
กุ้ยหลินเกิดมาไม่เคยสังหารสัตว์สักตัว แต่เมื่อเห็นพี่ชายตกอยู่ในอันตราย นางก็ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ในชั่วพริบตา ด้านคมของมีดทำครัวก็เฉือนคอหอยของเจ้าโจรชั่ว
หยางเสี้ยวรีบปล่อยมือโจร เพราะเลือดที่พุ่งกระฉูดจากลำคอของมัน กระเด็นเปื้อนตามใบหน้า ตามตัวของเด็กหนุ่ม
โจรชั่วยกสองมือกุมบาดแผล หันมามองกุ้ยหลินแววตาอาฆาต ก่อนที่มันจะล้มลงไปดิ้นพล่าน ชักกระตุกอยู่ที่พื้นสองสามครั้งแล้วสงบนิ่งไป
“ข้าฆ่าคน พี่ใหญ่ ข้าฆ่าคนตาย”
กุ้ยหลินทำมีดหล่นจากมือ เด็กสาวมองไปที่ร่างที่นอนแน่นิ่ง มองไปที่เลือดที่ไหลเต็มพื้น ปากก็พร่ำบ่นพูดแต่ประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมา เด็กสาวในตอนนี้เหมือนคนไม่มีสติแล้ว แม้พี่ชายจะพยายามร้องเรียกอย่างไรนางก็ไม่ได้ยิน
สายตาที่เคยแจ่มชัดกลับพร่าเลือน ก่อนที่สติสัมปชัญญะของกุ้ยหลินจะดับลง
“เอาน้ำราดให้มันตื่นสิ”
หญิงวัยกลางคนออกคำสั่งให้ลูกน้องนำน้ำเย็นไปราดบนตัวเด็กสาวที่นอนแน่นิ่ง สลบไสลอยู่ที่พื้น
บ่าวชายคนหนึ่งหิ้วถังไม้ที่มีน้ำอยู่เต็มถัง ก่อนจะสาดใส่เด็กสาวอย่างไม่ปรานี
กุ้ยหลินที่ได้รับความเย็นของน้ำ ก็รู้สึกตัว เด็กสาวค่อย ๆ ปรือเปลือกตาขึ้น มองเห็นคนแปลกหน้าจำนวนหนึ่งพากันยืนรายล้อมก้มลงมามองที่ตนเอง ก็รีบยันกายลุกขึ้นนั่ง
“ที่นี่ที่ไหน ข้ามาอยู่นี่ได้อย่างไร” เด็กสาวพึมพำออกมา หลังจากมองสำรวจสถานที่ที่ไม่คุ้นตา
“ได้สติแล้วหรือนังหนู ข้าจะตอบเจ้าให้ว่าที่นี่คือที่ใด ที่นี่คือสถานที่ซื้อขายทาสที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง” หญิงวัยกลางคนที่แต่งกายดูดีกว่าใครเพื่อนเอ่ยขึ้น
ทาส? ...กุ้ยหลินที่ยังคงมึนงงอยู่จึงคิดตามคำพูดของหญิงผู้นี้ช้าไปหน่อย
ใช้เวลาสักพัก กุ้ยหลิน ถึงเข้าใจคำว่า ทาส สถานที่ซื้อขายทาส พอคิดได้เด็กสาวรีบลุกพรวดพราดขึ้นยืนมองคนนั้นคนนี้ แต่ละคนช่างมีท่าทางน่ากลัวไม่แพ้เจ้าโจรชั่วนั้น
โจรชั่ว...ใช่สิ เพิ่งมีโจรบุกเข้ามาในกระท่อม แล้วกำลังทำร้ายพี่ใหญ่ ด้วยความกลัวพี่ชายเป็นอันตราย จึงตัดสินใจสังหารเจ้าโจรนั้น แล้วทำไมตนเองถึงมาอยู่สถานที่แบบนี้ได้ แล้วยังพี่ใหญ่อีก...สมองของกุ้ยหลินหนักอึ้งไปหมด
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ ท่านอยู่ที่ไหน” กุ้ยหลินตะโกนแหกปากเรียกหาพี่ชายของตนเอง ที่อาจอยู่ส่วนไหนส่วนหนึ่งของสถานที่แห่งนี้
