บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5.1 เยื่อใยที่หลงเหลืออยู่

เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น

สหัสสะที่ได้นอนพักอย่างเต็มอิ่มเป็นครั้งแรกในรอบสองเดือนที่ผ่านมาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เขากวาดตามองไปรอบห้องโดยเริ่มจากหลังมือของตัวเองที่เชื่อมด้วยสายน้ำเกลือ น้ำใส ๆ ในขวดพลาสติกนั่นอยู่ในระดับต่ำจนใกล้จะหมดขวด กอปรกับสภาพรอบ ๆ ทำให้เขาเดาว่าที่นี่คือโรงพยาบาล แต่ที่เดาไม่ได้ก็คือคนที่นอนอยู่บนเตียงข้าง ๆ กัน เหตุใดวีรพัทธ์จึงไปนอนอยู่บนเตียงคนไข้เช่นนั้นเล่า

“พี่วีร์!”

ชายหนุ่มอุทานด้วยน้ำเสียงแหบโหย แต่นั่นก็ทำให้คนที่ตื่นก่อนนานแล้วผุดลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างรวดเร็วโดยลืมไปว่าที่หลังมือของตัวเองก็มีเข็มแทงอยู่เช่นกัน แรงกระชากทำให้สายน้ำเกลือหลุดจากหลังมือของวีรพัทธ์พร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดตามออกมาในทันที

สหัสสะตกใจเพิ่มอีกเท่าตัวเพราะเป็นห่วงคนพี่ เขาจึงผุดลุกขึ้นมาจากเตียงในทันทีเช่นกัน แต่ยังไม่ทันได้ถึงตัววีรพัทธ์ก็ต้องร้องโอยเพราะอาการเจ็บระบมของร่างกาย

“อย่าเพิ่งขยับ นายเจ็บอยู่”

วีรพัทธ์ร้องห้ามพร้อมกับเข้าไปกดร่างของสหัสสะให้กลับลงไปนอนนิ่ง ๆ สายตาที่มองคนตัวเล็กกว่าบนเตียงเต็มไปด้วยแววกังวล ความรู้สึกผิด และการตำหนิอยู่ในที

“พี่วีร์ เอ่อ… คุณวีร์เลือดออก” สหัสสะชี้ไปที่หลังมือของวีรพัทธ์ ด้วยสีหน้าเหยเก แววตาหวาดกลัว

วีรพัทธ์จึงรีบยกมืออีกข้างมาปิดตาของสหัสสะไว้เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายกลัวเลือดมากแค่ไหน “อย่ามอง” เขาสั่ง และยังคงวางฝ่ามือไว้บนใบหน้าเล็กจนสหัสสะสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่ถูกระบายออกมา

“ไม่สบายเหรอครับ ทำไมตัวร้อนแบบนี้” สหัสสะถามอย่างร้อนรน เพราะรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของอีกฝ่าย

“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร” วีรพัทธ์รีบปฏิเสธทั้ง ๆ ที่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวมาตั้งแต่เมื่อคืน แม้จะหลับไปเพราะฤทธิ์ยาที่หมอฉีดให้ แต่พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ แต่หากยอมรับกับสหัสสะคิดว่าอีกฝ่ายคงต้องรีบลุกขึ้นมาเจ้ากี้เจ้าการเช็ดเนื้อตัวให้ตามหน้าที่ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่

“แต่มือคุณร้อนมากเลยนะครับ เป็นไข้แน่ ๆ” เพราะรู้ดีว่าอุณหภูมิของร่างกายวีรพัทธ์ในยามปกตินั้นเป็นอย่างไร ด้วยเพราะเคยใกล้ชิดกันมาก่อน แม้ตอนที่กลับมาเจอกันอีกครั้งวีรพัทธ์จะไม่เคยกอดมอบไออุ่นเหมือนเมื่อในอดีต แต่ยามที่ร่วมรักกันก็ยังได้สัมผัสแตะต้องกันตลอด สหัสสะจึงมั่นใจว่าตอนนี้ชายหนุ่มเป็นไข้อย่างแน่นอน

“บอกว่าไม่ได้เป็นก็คือไม่เป็น ทำไมถึงดื้อนักนะ” ท้ายประโยคน้ำเสียงดูจะตำหนิ แต่สหัสสะรับรู้ได้ถึงความเอ็นดูในน้ำเสียงนั้น มันเหมือนพี่วีร์เวอร์ชันเมื่อสามปีก่อนมากกว่าคุณวีร์เวอร์ชันสองเดือนที่ผ่านมาเสียอีก

สหัสสะยอมเงียบปากลงเพราะกลัวว่าวีรพัทธ์จะรำคาญ พร้อมกับหันไปตะแคงข้างแล้วเอื้อมมือไปกดปุ่มตรงหัวเตียงเพื่อเรียกพยาบาล ไม่นานพยาบาลนางหนึ่งก็เดินเร็ว ๆ เข้ามา สหัสสะจึงรีบชี้มือไปที่เตียงด้านหลังโดยไม่หันไปมองเพราะกลัวเลือด

“สายน้ำเกลือหลุดครับ”

หลังพยาบาลจัดการกับวีรพัทธ์เสร็จก็มาเปลี่ยนน้ำเกลือขวดใหม่ให้สหัสสะ “ขวดสุดท้ายนะคะ”

“ยังต้องให้น้ำเกลืออีกเหรอครับ ผมว่าผมดีขึ้นมากแล้ว ขอกลับบ้านเลยได้มั้ยครับ”

“คุณหมอให้นอนพักอีกหนึ่งคืนค่ะ แต่ยังไงลองถามคุณหมออีกครั้งก็ได้ค่ะ ช่วงสายคุณหมอจะเข้ามาดูอาการนะคะ”

“ให้นอนต่ออีกสองคืนเลยครับ”

เสียงที่สั่งมาจากเตียงข้าง ๆ ทำให้สหัสสะต้องหันขวับไปมองพร้อมกับคำคัดค้าน “ไม่ได้นะครับ บ่ายนี้คุณวีร์มีงาน”

“ฉันไม่เทหรอกน่า”

“ผมรู้ครับว่าคุณไม่เคยเทงาน ผมถึงต้องรีบออกจากโรงพยาบาลก่อนเที่ยงยังไงล่ะครับ”

“ฉันไปคนเดียวได้”

“แต่ผมเป็นผู้จัดการ”

“ดูสังขารตัวเองด้วย” เสียงขุ่นแสดงความหงุดหงิดรำคาญ ก่อนจะลดลงในประโยคถัดมา “ฉันไม่หักเงินนายหรอก”

“มันเป็นหน้าที่ของผม ไม่ได้กลัวว่าจะโดนหักเงิน”

พยาบาลที่ยังยืนอยู่ตรงกลางระหว่างเตียงคนไข้มองทั้งสองสลับไปมา ก่อนจะตัดสินใจห้ามศึกด้วยการยื่นยาก่อนอาหารมาให้

“ยาก่อนอาหารค่ะ ถ้าไม่รีบทานคงไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแน่นอนค่ะ” เธอวางยาเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียงพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป

ช่วงสายเมื่อหมอเข้ามาตรวจอาการ สหัสสะก็รีบขอกลับบ้าน แต่คุณหมอบอกว่าอยากให้นอนพักอีกสักคืน และวีรพัทธ์ก็ออกคำสั่งว่าให้ผู้จัดการส่วนตัวอยู่ต่อ แถมยังฝากฝังพยาบาลคนเดิมว่าให้ช่วยเฝ้าเอาไว้เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนีออกไป

“ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชนคงแพงน่าดู” และในที่สุดเหตุผลที่คนป่วยอยากออกจากโรงพยาบาลก็หลุดออกมาจากริมฝีปากสีซีด “ผม… ไม่มีเงินจ่าย”

วีรพัทธ์ได้ยินก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที “ใครเขาให้นายจ่ายกันล่ะ” เขายัดชายเสื้อยืดตัวเดิมที่ใส่มาเมื่อคืนเข้าไปในขอบกางเกงเพียงด้านหน้าแล้วปล่อยชายเสื้อด้านหลังให้ห้อยลงไปเหมือนที่เคยทำเมื่อตอนเป็นนักศึกษา ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงของสหัสสะ “เลิกกังวลแล้วก็พูดถึงแต่เรื่องเงินสักที น่ารำคาญ” ปากบอกรำคาญ แต่เอื้อมมือไปปรับเตียงให้ แล้วออกคำสั่ง “นอนพักซะ เสร็จงานแล้วฉันจะกลับมานอนเฝ้า”

“คุณวีร์กลับไปนอนที่คอนโดสบาย ๆ เถอะครับ”

“ไม่มีคนให้กอดจะนอนสบายได้ยังไง”

สหัสสะตกใจกับคำพูดประโยคนั้นจึงช้อนตาขึ้นมองคนพูดในทันที แต่วีรพัทธ์กลับมีท่าทีปกติราวกับว่าการนอนกอดเขาเป็นเรื่องเคยชิน ทั้ง ๆ ที่ความจริงไม่เคยเลย

และคนถูกจ้องมองก็ไม่ยอมสบตากลับ เขาทำเพียงยกฝ่ามือขึ้นแตะลงบนกลางอกของคนป่วยแล้วออกแรงบังคับให้ล้มตัวลงนอน นั่นทำให้สหัสสะนึกขึ้นมาได้ว่าอีกฝ่ายไม่สบายและหมอเพิ่งจะให้ยาลดไข้ แต่ก็อนุญาตให้ไปทำงานได้

“ไข้ยังไม่ลดเหรอครับ” สหัสสะคว้ามือนั้นมากุมไว้อย่างลืมตัว พร้อมกับออกแรงบีบเบา ๆ ราวกับอยากช่วยระบายความร้อนจากฝ่ามือนั้นมาที่ตัวเอง

“อืม กินยาไปแล้ว เดี๋ยวก็คงดีขึ้น”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel