บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2.1 คนรักเก่า

“อาการมันเป็นยังไงไหนว่ามาซิ”

ชานนท์ชนแก้วเหล้าของตัวเองกับวีรพัทธ์ ก่อนจะเลื่อนมันมาไว้ตรงหน้าโดยที่ไม่ได้ดื่ม ในขณะที่เพื่อนรักสาดน้ำสีอำพันลงคอไปค่อนแก้ว และเพราะวีรพัทธ์ทำท่าจะดื่มหนักราวกับมีอะไรบางอย่างทับถมอยู่ในใจ ชานนท์จึงพยายามคาดคั้นให้เขาระบายมันออกมา

แต่วีรพัทธ์ที่มีสีหน้าครุ่นคิดกลับส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่มีอะไร”

“เอ้า! แล้วมึงลากกูมาทำไมเนี่ย แทนที่กูจะได้กลับไปนอนกอดเมีย แต่กูต้องมานั่งเฝ้ามึงแดกเหล้าเนี่ยนะ”

“เผื่อกูเมามึงจะได้พาไปส่งไง”

“นั่นมันหน้าที่ผู้จัดการมึงไม่ใช่เหรอไง?”

ทันทีที่ชานนท์พาดพิงถึงคนที่อยู่ในใจ วีรพัทธ์ก็ชะงักไปในทันที และแน่นอนว่าอาการแบบนั้นย่อมไม่หลุดรอดสายตาของ MC ฝีปากกล้าอย่างชานนท์ไปได้

“ถ้ามึงไม่มีอะไรเล่า งั้นกูขอถาม” ชานนท์จึงเริ่มเปิดฉาก “เรื่องมึงกับน้องไมล์ยังไงเนี่ย เคลียร์ใจกันหรือยัง?”

วีรพัทธ์หลุบตาลงมองแก้วเหล้าในมือที่เขาคลึงไปมา ก่อนจะตอบกลับ “ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ ก็แค่ผู้จัดการชั่วคราว เดี๋ยวพี่เดียร์กลับมานายนั่นก็ไปแล้ว”

“นายนั่น?” ชานนท์กระตุกยิ้มมุมปากกับสรรพนามที่เพื่อนรักใช้เรียกหนุ่มรุ่นน้องอย่างสหัสสะหลังจากทั้งสองโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งเมื่อสองเดือนก่อนในสถานะที่เปลี่ยนไป และเพราะการจากกันในครั้งนั้นสร้างบาดแผลไว้ให้วีรพัทธ์จนชายหนุ่มกลายเป็นผู้ชายอีกคนที่เพื่อนสนิทอย่างเขาแทบไม่รู้จัก ที่เคยใช้คำว่า ‘ที่รัก’ กับรุ่นน้องบัดนี้จึงแปรเปลี่ยน แม้แต่ชื่อวีรพัทธ์ก็ยังไม่อยากเอ่ยถึง

“ไมล์… ออกเสียงแบบนี้” ชานนท์แกล้งแหย่โดยการเรียกชื่อเล่นของสหัสสะให้วีรพัทธ์เรียกตาม

ดาราหนุ่มตาขวางขึ้นมาทันที ก่อนที่จะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มทีเดียวจนหมด แล้วเลื่อนแก้วแรง ๆ ไปตรงหน้าเพื่อนพร้อมกับพเยิดหน้าให้จัดการ

“นอกจากลากกูมานั่งเฝ้า แล้วกูยังต้องชงเหล้าให้มึงด้วย?”

ชานนท์เลิกคิ้วถาม แต่ก็ยอมทำให้ เขาชงเหล้าไปพลางก็ลอบมองใบหน้าหมองของวีรพัทธ์อย่างเป็นห่วง เขาเคยคิดว่าการที่สหัสสะกลับเข้ามาในชีวิตวีรพัทธ์อีกครั้งจะทำให้ทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิด เพราะยิ่งนานวันทุกอย่างก็ดูจะแย่ลงไปทุกที

และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่ทำให้ทุกอย่างมันแย่ก็เพื่อนรักของเขานี่แหละ วีรพัทธ์คอยแต่จะหาเรื่องสหัสสะตลอดเวลา ไม่ถาม ไม่ฟัง และไม่พยายามที่จะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ยอมลืมความเจ็บปวดในอดีต จ้องจะเอาคืนทุกวิถีทางด้วยการทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของสหัสสะ แต่ที่น่าแปลกก็คือ…

สหัสสะยินยอมและปกป้องเพื่อนของเขาทุกครั้งที่ถูกคาดคั้น หลายครั้งหลายคราที่ชานนท์พบร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย แม้ไม่ใช่แผลใหญ่มากมาย แต่ผิวขาว ๆ นั่นก็ช้ำเป็นรอย ขอบตาคล้ำ บางครั้งตาก็เหลือง แต่สหัสสะก็ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นอะไร

จะมีเหตุผลอะไรที่คนเราจะปกป้องคนที่ทำร้ายเราถ้าไม่ใช่เพราะความรัก เรื่องนั้นชานนท์พอจะเดาได้ แต่ที่เขาเดาไม่ออกและคิดไม่ตกก็คือสิ่งที่รุ่นน้องทำลงไปเมื่อสามปีก่อน ขนาดตัวเขาที่เป็นแค่รุ่นพี่ที่เอ็นดูยังตกใจ แล้วคนที่เป็นคนรักอย่างวีรพัทธ์จะไม่หัวใจสลายได้อย่างไรกัน

แต่มาวันนี้ดูเหมือนว่าสหัสสะจะยอมจำนนทุกอย่าง ก้มหน้ารับในสิ่งที่วีรพัทธ์ทำโดยที่ไม่ปริปากว่าอะไร รวมถึงไม่แก้ตัวหรืออธิบายเหตุผล แม้ว่าตัวเขาเองจะเคยถามอยู่หลายครั้ง แต่สหัสสะก็ยังยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องจริง วันนี้เขาไม่ได้กลับมาเพื่อขอโอกาส เขาเพียงแต่ต้องการทำหน้าที่ของตัวเองเท่านั้น และเมื่อหมดสัญญาชายหนุ่มรุ่นน้องก็จะออกไปจากชีวิตของวีรพัทธ์… หรือนี่อาจเป็นสิ่งที่เพื่อนของเขากำลังกลัว

ชานนท์จับจ้องไปที่ดวงตาเศร้าของเพื่อนรัก “มึงไม่อยากให้ไมล์ออกไปจากชีวิตมึงใช่มั้ย?” เขาถามราวกับไปนั่งอยู่กลางใจของวีรพัทธ์ เล่นเอาเจ้าของแววตาเศร้าวูบไหวขึ้นมาในทันที “ถ้าต้องการแบบนั้นมึงก็ควรทำดีกับน้องมันให้มาก ๆ” ชานนท์แนะนำอย่างจริงใจ

“ทำไมกูต้องทำดีกับคนที่เคยทำเหี้ย ๆ กับกู?”

“เพราะมึงรักเขาไง” ชานนท์สวนกลับเพื่อหวังให้เพื่อนรักยอมรับความจริง “ถ้ามันหาเหตุผลไม่ได้หรือว่ามึงไม่อยากฟัง มึงก็ลืมมันแล้วเริ่มต้นใหม่ดีมั้ย กูดูออกว่าไมล์ยังรักมึงมาก แล้วมึงเองก็…”

ชานนท์ยังพูดไม่จบ วีรพัทธ์ก็สวนกลับ “เกลียด!” แล้วน้ำเสียงกดต่ำก็หลุดลอดไรฟันออกมาช้า ๆ “ความรู้สึกเดียวที่กูเหลืออยู่คือความเกลียด”

แล้ววีรพัทธ์ก็แย่งแก้วเหล้าที่ชานนท์ยังไม่ได้เติมมิกเซอร์มาดื่มอั้ก ๆ ราวกับคิดว่ามันจะช่วยลืมความเจ็บช้ำและเยียวยาบาดแผลในใจได้ แต่ทว่า… เขาเคยทำแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน ดื่มจนเมามาย แต่สุดท้ายเมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็รับรู้ได้ว่าเขายังเจ็บอยู่ เจ็บมาตลอดระยะเวลาสามปี และราวกับถูกขยี้ลงที่เดิมซ้ำ ๆ หลังจากได้พบว่าสหัสสะเข้ามารับหน้าที่ดูแลเขาแทนดาวิกาเป็นเวลาสามเดือน

หลังแอบถามจากชานนท์ว่าทั้งสองคนอยู่ที่ไหน สหัสสะก็รีบเดินทางไปที่ผับแห่งนั้นทันที ตอนที่เขาไปถึงเป็นเวลาสี่ทุ่มกว่า อีกทั้งยังเป็นคืนวันศุกร์สิ้นเดือน ผู้คนจึงมากมายหนาตา

สหัสสะกวาดสายตามองหาวีรพัทธ์กับชานนท์ แต่กลับพบเข้ากับรุ่นพี่ที่เคยเรียนที่เดียวกันเสียก่อน

“ไมล์ มาเที่ยวเหรอ?” กรกันต์พุ่งเข้ามาดักหน้าสหัสสะด้วยท่าทางดีใจ

“อ้าวพี่กันต์ สวัสดีครับ”

สหัสสะยกมือไหว้ชายหนุ่มรุ่นพี่ที่เพิ่งจะพบกันเมื่อหลายวันก่อน วันนี้บังเอิญได้เจออีกครั้งก็อดดีใจไม่ได้ เจ้าของใบหน้าหวานจึงฉีกยิ้มกว้าง นั่นทำให้กรกันต์แทบใจละลายเพราะชายหนุ่มรุ่นน้องคือคนที่เขาหลงรักมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นสหัสสะเป็นนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง ส่วนเขาเป็นรุ่นพี่ปีสี่ในคณะเดียวกัน

กรกันต์แอบมองอยู่นานใช้ความเป็นรุ่นพี่เข้าไปตีสนิท แต่พอตัดสินใจจะขยับความสัมพันธ์ก็มีมารเข้ามาขวาง ตอนนั้นวีรพัทธ์รุ่นน้องปีสามก็ตามจีบสหัสสะเช่นกัน รบราฆ่าฟันกันอยู่ร่วมเทอม น้องปีหนึ่งก็เลือกพี่ปีสามแล้วย้ายไปอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นกรกันต์เรียกได้ว่าอกหัก แต่เพราะใกล้จบการศึกษาจึงเจ็บไม่นาน แล้วเขาก็เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ พอกลับมาก็ได้ยินจากเพื่อนว่าทั้งสองเลิกกันแล้ว แต่กรกันต์ก็ขาดการติดต่อกับสหัสสะไปนานจนหากันไม่เจอ เมื่อมาพบกันอีกจึงอดดีใจไม่ได้ และหัวใจของเขาก็เต้นแรงเหมือนเดิม นั่นคงเป็นเพราะเขายังรักสหัสสะอยู่

“มีโต๊ะหรือยัง นั่งกับพวกพี่มั้ย?” กรกันต์ผายมือไปที่กลุ่มเพื่อนของตัวเอง “ไอ้เมก็อยู่ด้วยนะ น้องไมล์จำได้มั้ย?”

สหัสสะมองไปที่โต๊ะก็พบกับเมธีรุ่นพี่ที่เป็นเพื่อนของกรกันต์ “จำได้ครับ” ตอบพร้อมกับรอยยิ้มและก้มศีรษะให้คนที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว พลางก็คิดในใจว่าจะจำไม่ได้ได้อย่างไร ในเมื่อเมธีคนนี้แหละที่คอยถือป้ายไฟอยู่ข้างกรกันต์ตอนที่แข่งกันจีบเขา ยังเคยต่อยกับวีรพัทธ์ด้วยซ้ำ

กรกันต์ถือโอกาสรวบรัดดันแผ่นหลังของสหัสสะไปที่โต๊ะ ก่อนจะแนะนำสหัสสะให้เพื่อนอีกสองคนรู้จัก “พวกมึง นี่น้องไมล์” แล้วก็แนะนำเพื่อนของเขาให้สหัสสะรู้จักด้วย “น้องไมล์ นี่พี่กล้า นั่นพี่ดิว ส่วนพี่เมพี่คงไม่ต้องแนะนำนะ”

“สวัสดีครับพี่กล้า พี่ดิว” สหัสสะยกมือไหว้อย่างนอบน้อมพร้อมกับรอยยิ้มหวาน และยิ้มกว้างขึ้นเมื่อไปถึงเมธี “พี่เม สบายดีนะครับ”

“ไอ้กันต์มันบอกว่าเจอไมล์เมื่อหลายวันก่อน มันพูดถึงไมล์ทุกวันเลย ดีใจที่ได้เจอนะ” เมธีทักทายรุ่นน้อง ก่อนจะแซวเพื่อน “แหม มึงก็แนะนำยังกับน้องไมล์เป็นแฟน อย่าบอกนะว่าคบกันแล้วน่ะ?” เมธียังคงทำหน้าที่ชงได้เป็นอย่างดี

“กูก็ว่าจะขออยู่ น้องไมล์ว่าไงครับ” กรกันต์ก็รับมุกเพื่อน เอี้ยวใบหน้ามาใกล้สหัสสะแล้วถามความเห็น

“คงไม่ได้หรอกครับ”

แต่คนที่ตอบเสียงดังฟังชัดกลับไม่ใช่คนถูกถาม แต่เป็นใครอีกคนที่เดินออกมาจากมุมหนึ่งของผับ

“ไอ้วีร์!” กรกันต์อุทานอย่างแปลกใจ ไม่คิดว่าจะเจอคู่ปรับเก่าที่นี่ และให้บังเอิญว่าในสถานการณ์ที่มีสหัสสะอยู่ด้วย

วีรพัทธ์ที่มีใบหน้าแดงก่ำ แต่ไม่แน่ใจนักว่าเพราะฤทธิ์เหล้าหรือว่าเพราะความโกรธ เขาก้าวเข้าไปประชิด แล้วกระชากสหัสสะออกไปอย่างแรง

กรกันต์เห็นการกระทำหยาบคายนั้นก็ไม่พอใจ จึงรีบเข้าไปขวาง ฝ่ายเมธีก็ลุกตามไปด้วย

“มึงทำแบบนี้กับน้องได้ไงวะ” กรกันต์ดึงสหัสสะเข้ามาประคองไว้อย่างพยายามปกป้อง

วีรพัทธ์จะเข้ามาแย่งตัวเมธีก็รีบเข้ามาขวาง เขายกมือขึ้นผลักหน้าอกของวีรพัทธ์จนเซไปด้านหลัง “เป็นเหี้ยอะไร ไอ้หมาหวงก้าง”

วีรพัทธ์ไม่ยอมจึงง้างหมัดต่อย แต่เพราะอาการมึนเมาจึงพลาดเป้า เมธีที่เบี่ยงหน้าหลบสวนหมัดกลับไปในทันทีจนวีรพัทธ์หน้าหันและเสียหลักจะล้มลง

“พี่วีร์!” สหัสสะตกใจจึงอุทานเรียกด้วยสรรพนามที่เขาไม่เคยใช้ตั้งแต่ทั้งสองโคจรกลับมาพบกันเมื่อสองเดือนก่อน พร้อมกับถลาเข้าไปประคองอย่างเป็นห่วง

เมื่อเจ้าของร่างเล็กกว่ามาอยู่ในรัศมีที่จะคว้าเอาไว้ได้ วีรพัทธ์ก็ใช้จังหวะนั้นกระชากตัวสหัสสะเข้าไปหา เขาบีบต้นแขนอย่างแรงจนสหัสสะร้องอุทาน นั่นยิ่งทำให้กรกันต์ไม่พอใจ และไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ของทั้งสอง

แต่เมื่อกรกันต์กับเมธีจะเข้าไปช่วย ชานนท์ก็รีบเข้ามาขวาง “พี่กันต์ พี่เม ผมขอเถอะครับ อย่ามีเรื่องกันเลยพี่”

“มึงดูเพื่อนมึงนะไอ้นนท์ ทำแบบนี้คิดว่าถูกแล้วเหรอ เลิกกันไปแล้วยังจะพาล ยังทำรุนแรงกับน้องมันอีก” กรกันต์ชี้หน้าวีรพัทธ์อย่างไม่พอใจ แต่เขาก็ยังใช้ถ้อยคำสุภาพ แม้ความจริงจะอยากกระทืบรุ่นน้องอย่างวีรพัทธ์มากก็ตาม

“เลิกกันแล้ว แต่ยังนอนด้วยกันอยู่ พวกพี่มีปัญหาอะไรป๊ะ?” วีรพัทธ์เลิกคิ้วใส่รุ่นพี่ ก่อนจะกระชากสหัสสะเข้ามากดจูบต่อหน้าทุกคน

ไม่เพียงแต่กรกันต์กับเมธีที่ตกใจ ชานนท์เองก็ตกใจเช่นกัน รวมทั้งกล้ากับดิวและคนอื่น ๆ ที่มามุงดูตั้งแต่มีเรื่องถกเถียงกัน

ในขณะที่วีรพัทธ์กำลังใช้กำลังบังคับคนใต้อาณัติอย่างเอาแต่ใจต่อหน้าผู้คนมากมาย แสงไฟในผับก็สาดเข้ามาที่สองร่าง หลังจากนั้นแสงสว่างวาบจากสมาร์ตโฟนหลายเครื่องก็พากันระรัวใส่มาจากหลายทิศทาง ชานนท์ที่ดูจะตั้งสติได้ก่อนจึงผลักสองร่างให้หลบไปจากกล้องและแสงไฟ โดยมีกรกันต์กับเมธีคอยกันไม่ให้ใครตามไปได้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาอยากช่วยดาราดังอย่างวีรพัทธ์ แต่เพราะต้องการปกป้องรุ่นน้องอย่างสหัสสะมากกว่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel