บท
ตั้งค่า

12

บทที่ 12

เวลานั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงร้องดังขึ้นจากทางด้านหลัง จึงหันไปมอง “คุณปู่!” และต้องตกใจซ้ำสอง เมื่อเห็นชายชรานอนหงายหลังอยู่กับพื้น เขารีบวิ่งเข้าไปช่วยประคอง “เป็นยังไงบ้าง ไหวไหม ไปโรงพยาบาลก่อนไหม”

“ผมไม่เป็นไร รีบไปโรงพักกันก่อนดีกว่า ผมเป็นห่วงหลาน” แม้จะรู้สึกเจ็บที่เหนือท้ายทอยอย่างมาก แต่ก็ทนข่มเอาไว้เพราะเป็นห่วงหลานสาวมากกว่า

“แต่สีหน้าของปู่ดูไม่ค่อยดีเลยนะ”

“ผมไม่เป็นอะไรจริง ๆ ก็แค่ตกใจเท่านั้น รีบไปหาหนูหยินกันก่อนเถอะ หรือว่าคุณไม่เป็นห่วงเธอ”

ชายหนุ่มรู้สึกไม่ดีเลย อยากจะพาท่านไปหาหมอก่อน แต่ในเมื่อท่านยืนยันหนักแน่น และเขาก็เป็นห่วงเธอมากเช่นกัน จึงตัดสินใจทำตามที่ท่านต้องการ

สถานีตำรวจ

“ผมเป็นปู่ของปันหยีครับ”

เสียงแนะนำตัวที่คุ้นหู ทำให้หญิงสาวที่อยู่ในอาการหวาดกลัว ที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะสอบปากคำหันไปมอง

“ปู่จ๋า” เธอเรียกหาท่านพร้อมกับวิ่งไปกอดด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ น้ำตาที่อดกลั้นมานานไหลออกมาด้วยความรู้สึกกลัวที่ยังค้างคาอยู่ภายในใจ

“เกิดอะไรขึ้นกับเธอครับคุณตำรวจ” ฟิลลิปเห็นน้ำตาและอาการขวัญเสียของหญิงสาว ก็อยากจะปลอบประโลมให้หายหวาดหวั่น แต่เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นกับเธอได้ จึงหันไปซักถามกับตำรวจคนหนึ่ง และเขม่นไปที่ผู้ชายรุ่น ๆ เดียวกับตน ที่มีบาดแผลฟกช้ำตามใบหน้า เพราะดูน่าสงสัยที่สุด

“จากการสอบปากคำคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างคนนี้ เขาบอกว่าเห็นแท็กซี่คันหนึ่งขับผ่านหน้าไป และเห็นว่าน้องผู้หญิงนั่งมาด้วย แต่แล้วรถแท็กซี่ก็เลี้ยวเข้าไปในซอยเปลี่ยว ก็เลยเอะใจเพราะจำได้ว่าน้องคนนี้ไม่ได้อยู่ซอยนั้น ก็เลยขี่ตามเข้าไปดูเพราะรู้สึกไม่ชอบมาพากล พอไปถึงก็เห็นน้องผู้หญิงกำลังถูกคนขับแท็กซี่ฉุดเข้าไปในบ้านร้าง ก็เลยลงไปช่วยและเกิดการต่อสู้กับคนขับแท็กซี่ จนได้แผลอย่างที่คุณเห็นนี่แหละ”

สายตาของฟิลลิปเปลี่ยนไปเมื่อรู้ว่าเขาไม่ใช่คนร้าย “แล้วผู้ต้องหาล่ะ มันอยู่ไหน”

“มันหนีไปได้ ตอนนี้เรากำลังแจ้งสกัดจับอยู่ครับ”

“จับให้ได้นะครับ ผมจะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด”

“เอ่อ ขอโทษนะครับ คุณเป็นอะไรกับน้องผู้หญิงคนนี้ครับ”

“ผมเป็นอะไรกับเธอ มันสำคัญมากกว่าการตามจับคนร้ายเหรอคุณตำรวจ”

“เขาเป็นผู้ปกครองของหนูเองค่ะคุณตำรวจ” ปันหยีรีบชี้แจง เมื่อรู้สึกว่าตำรวจเริ่มมีอาการไม่พอใจคำพูดกระด้างกระเดื่องของฟิลลิป เธออยากจะแนะนำไปว่าเขาคือคุณอาของเธอ แต่เพราะเขาเคยสั่งห้ามเรียกคุณอาเด็ดขาด จึงไม่รู้ว่าจะแนะนำเขาในฐานะอะไรที่ดีไปกว่านี้

ชายหนุ่มเลิกสนใจตำรวจ เมื่อเธอหันมาให้ความสนใจเขาด้วยการมองหน้า พร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้า ยิ่งเห็นเธอในสภาพนี้เขาก็ยิ่งบันดาลโทสะ อยากจะลากตัวไอ้แท็กซี่สารเลวนั่นมากระทืบให้จมฝ่าเท้า

“เจ็บมากไหม” เขาถามเธออย่างอ่อนโยน และสุดท้ายก็สุดจะหักห้ามใจเมื่อเห็นน้ำตาเม็ดโตไหลอาบแก้มที่บวมช้ำจากการถูกทำร้าย ดึงเธอเข้ามากอดแนบอกต่อหน้าปู่ของเธอ ลูบหลังเบา ๆ พร้อมกระซิบปลอบใจ

อุดมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่โล่งในหัวอก ความเจ็บปวดที่ศีรษะเริ่มมีมากขึ้น ที่สะโพกก็เริ่มรู้สึกปวดร้าวแปลบ ๆ แต่เขาก็ยังแข็งใจฝืนทน อยู่ทำเรื่องที่สถานีตำรวจจนเสร็จ

“คุณครับ” ระหว่างที่เดินออกจากสถานีตำรวจ ฟิลลิปก็เรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ช่วยเหลือหญิงสาวเอาไว้ “ผมรบกวนขอเบอร์คุณหน่อยได้ไหมครับ ผมอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแท็กซี่คันนั้น”

“ได้สิครับ” คนขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รับปากกาจากชายหนุ่มมาเขียนเบอร์โทรลงบนหลังนามบัตรที่เขายื่นให้

“ขอบคุณมากนะครับ พรุ่งนี้ผมจะโทรไป” บอกกับอีกฝ่ายแล้วโค้งศีรษะเผื่อไปถึงภรรยาท้องแก่ของเขา ที่ตามมาหาสามีถึงที่นี่ด้วยความเป็นห่วง

นอกจากอยากรู้รายละเอียดแล้ว เขายังอยากให้รางวัลแก่อีกฝ่ายด้วย อย่างน้อยพวกเขาจะได้มีเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องลูกที่กำลังจะเกิด

เช้าวันใหม่

ก๊อก ๆ ๆ ก๊อก ๆ ๆ

เสียงเคาะประตูที่ติดกันถี่ ๆ ทำให้ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนที่นอน ต้องตะเกียกตะกายลุกขึ้นมานั่งอย่างไม่สบอารมณ์ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านที่ฮ่องกง คนที่เคาะก็คงไม่ใช่ใคร นอกจากหญิงสาวหรือปู่ของเธอ เขาจึงรีบเดินไปเปิดประตู

“ปู่เป็นอะไรก็ไม่ทราบค่ะคุณฟิลลิป ตัวร้อนแล้วก็เพ้อด้วยค่ะ”

เพียงแค่เปิดประตูเขาก็ถึงกับตกใจ เมื่อเห็นใบหน้าที่เคยเรียวได้รูปและงดงามตรึงใจนั้นบวมเขียวไปทั้งซีกขวา แต่ก็ไม่มีเวลาแสดงความเป็นห่วงเป็นใย เมื่อได้ยินเรื่องที่เธอบอกเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและหวาดวิตก.. คงเป็นเพราะหกล้มเมื่อคืนนี้แน่ ๆ เขาก็ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย

“รีบไปโทรเรียกรถพยาบาล เดี๋ยวฉันจะรีบตามออกไป” เขาปิดประตูแล้วรีบจัดการทำธุระส่วนตัว ไม่ถึงสิบนาทีก็ไปถึงห้องนอนของอุดม

“ปู่ครับ ปู่ได้ยินผมไหม” เขาเขย่าร่างบอบบางของชายชราที่นอนเพ้ออยู่บนเตียง ภายในใจเต็มไปด้วยความกังวลอย่างมาก เพราะรู้สึกไม่ดีตั้งแต่เมื่อวานที่เห็นเขาล้มแล้ว

ชายชราค่อย ๆ ลืมตาอย่างยากลำบาก เมื่อได้ยินเสียงกระซิบคุ้นหูที่ตั้งใจรอคอย มองชายหนุ่มผู้มีพระคุณแล้วน้ำใส ๆ ก็ไหลออกมาจากตา แล้วเหลือบไปมองหลานสาวสุดที่รักที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กับเขา ยิ่งทำให้น้ำตาไหลรินมากขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ใช่เพราะความรู้สึกเสียใจแต่อย่างใด

“หยินลูก” เสียงแผ่ว ๆ ดังออกจากปากของเขา

“จ๋าปู่” หญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดปีขานรับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกลัวจับใจกับอาการป่วยของปู่ เพราะท่านไม่เคยต้องล้มหมอนนอนเสื่อแบบนี้มานานหลายปีแล้ว

“ปู่มีความสุขมาก ที่เห็นหลานเติบโตมาอย่างดีแบบนี้” ชายชราพยายามจะบอกความในใจที่เก็บเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะมีโอกาสได้พูดอีกไหม “ให้สัญญากับปู่อย่างหนึ่งได้ไหม”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel