บท
ตั้งค่า

11

บทที่ 11

ห้าปีผ่านไป

ฮ่องกง

(รถพร้อมแล้วครับบอส)

“อือ เดี๋ยวฉันลงไป” ฟิลลิปบอกกับบอดี้การ์ดคนสนิทก่อนจะกดวางสาย หยิบถุงกระดาษสุดหรูที่บรรจุกล่องหนังสีน้ำเงินเข้มขนาดเท่าฝ่ามือเดินออกไปจากห้อง

“บอสจะไปแล้วเหรอครับ” ไซม่อนเดินออกมาจากลิฟต์และเห็นเจ้านายพอดีจึงทัก

“อือ เรื่องหุ้นของคุณหวังเรียบร้อยดีไหม”

“เรียบร้อยดีครับ เรากว้านซื้อได้ทันทีที่มีการประกาศขายครับ”

“ดีมาก ผมไปก่อนล่ะ” ฟิลลิปบอกลาคนสนิทที่เรียกได้ว่าเป็นเงาของเขาเลยก็ว่าได้

“ครับ ขอให้เดินทางปลอดภัยนะครับ” ไซม่อนโค้งศีรษะให้อีกฝ่ายเล็กน้อย ยืนส่งเขาจนประตูลิฟต์ปิดจึงเดินไปที่ห้องทำงานของตัวเอง

ประเทศไทย

อุดมรีบโค้งกายรับการทักทายของฟิลลิป ที่ก้มศีรษะให้เล็กน้อยเมื่อได้เจอกัน.. นับตั้งแต่ที่ก้าวเท้าเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะผู้ดูแล ปีนี้ก็เข้าสู่ปีที่หกแล้ว แต่เขาก็ประหม่าทุกครั้งที่ได้เจอกับชายหนุ่มผู้นี้

และนอกจากความประหม่าแล้ว เขาก็ยังจดจำทุกการพบเจอเอาไว้ จดจำสายตาที่อีกฝ่ายมีให้หลานสาวของตน แต่ก็ไม่เคยปริปากซักถาม หรือแพร่งพรายให้หลานสาวได้รับรู้ เพราะอยากให้เธอสนใจกับการเรียนให้มากที่สุดในตอนนี้

“เดินทางเป็นอย่างไรบ้างครับ รถติดมากไหม”

“พอสมควรครับ ปู่สบายดีนะครับ”

“สบายดีตามประสาคนแก่แหละครับคุณท่าน”

“แล้วหนูหยินล่ะครับ”

“ยังไม่กลับมาเลยครับ เอากระเป๋ามาให้ผมเถอะครับ” อุดมยื่นมือออกไป หมายจะเอากระเป๋าล้อลากขนาดยี่สิบนิ้วมาจากมือเขา

“ไม่เป็นไรครับ”

มันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง เขาไม่เคยให้ตนได้ช่วยเหลืออะไรเลย คงเพราะเห็นตนเป็นปู่ของปันหยีสินะ หรืออาจจะเห็นว่าตนแก่มากแล้วก็ได้ แต่ที่แน่ ๆ คือเขาค่อนข้างจะมีน้ำใจกับตนมากทีเดียว

“ให้ผมได้ทำอะไรให้คุณท่านบ้างเถอะครับ”

“ปู่ได้ทำเพื่อผมแน่ครับ แต่ไม่ใช่เวลานี้เท่านั้น” ฟิลลิปไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกของตัวเอง ที่มีต่อหลานสาวของชายชราผู้นี้ เพราะมั่นใจว่าท่านรู้ แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายจิตใจท่านอย่างหยาบคาย เขาให้เกียรติและปฏิบัติต่อท่านอย่างดีเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เช่นเดียวกับที่ปฏิบัติต่อหลานของท่าน

“คุณท่านก็รู้ว่าผมไม่แข็งแรง ไม่รู้ว่าจะอยู่ถึงวันที่ได้ตอบแทนคุณท่านหรือเปล่า ถ้ามีอะไรให้ผมทำตอนนี้ก็บอกผมมาเถอะครับ”

“ถ้าอย่างนั้นปู่ก็ควรหมั่นรักษาสุขภาพ ไปหาหมอตามนัดทุกครั้ง ปู่จะได้อยู่กับหลานไปนาน ๆ” สิ่งที่เขาต้องการ เขาไม่ได้ต้องการมันในเวลานี้ เขาต้องการหลังจากที่ได้ขัดเกลาให้เธอเป็นเพชรเม็ดงามที่เลอค่าแล้ว เขาจึงรอคอยเวลานั้นอย่างอดทน

“ขอบคุณนะครับคุณท่าน ที่ดีกับเราขนาดนี้” จะมีขี้ข้าบ้านไหนบ้างที่สุขสบาย ใช้ชีวิตเยี่ยงคนมีอันจะกินได้อย่างเขาและหลานสาว เขามีหน้าที่ดูแลบ้านหลังนี้ที่เปรียบเสมือนบ้านของตัวเองก็ไม่ผิด หลานสาวนั้นก็มีหน้าที่เรียนอย่างเดียว

แม้เธอจะหางานพิเศษทำท่านก็ยังไม่ให้ทำ บอกให้เรียนอย่างเดียวเท่านั้น เรียนอะไรก็ได้ที่อยากเรียน เธอจึงตั้งใจเรียนภาษาเพิ่มอีกหลายภาษา ที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่องานของท่าน และเธอยังเรียนจบปริญญาโทได้ตั้งแต่เพียงแค่อายุยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น

“ด้วยความยินดี ผมขอขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ” ชายหนุ่มยิ้มรับบาง ๆ ก่อนจะบอกลาชายชรา

ฟิลลิปเปิดประตูห้องนอนของตน แล้วก็ต้องคลี่ยิ้มกว้างออกมา ทุกครั้งที่เขาเดินทางมาเมืองไทย เขาก็มักจะแวะมาพักที่นี่ เพราะอยากจะมาเจอเด็กสาว ที่ตอนนี้กลายเป็นหญิงสาวเต็มตัวแล้วให้หายคิดถึง

อยากเห็นการเติบโตของเธอ ที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีทุกครั้งที่ได้เจอ เธอสวยสะดุดตาและมีรูปร่างที่สมส่วน สวยชนิดที่ทำให้เขากังวลทุกครั้งที่ต้องแยกจากกัน เพราะกลัวว่าจะมีไอ้หนุ่มหน้ามนมาแทะเล็ม สาวน้อยที่เขาเฝ้าฟูมฟักมาตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาว

และสิ่งหนึ่งที่เธอทำให้เขาประทับใจมาตลอด ก็คือการทำให้ห้องนี้สะอาดเอี่ยมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน จะหนึ่งเดือน สองเดือน หรือสามเดือน ที่เขาไม่ได้มาที่นี่ ห้องนี้ก็ยังถูกดูแลทำความสะอาดอย่างดี สามารถมานอนได้ตลอดเวลา และยังมีดอกไม้สดปักใส่แจกันเสมอ เขามั่นใจว่าต้องเป็นเธอ เพราะปู่ของเธอคงไม่มีอารมณ์แบบสตรีเช่นนี้หรอก

สองทุ่มกว่าแล้ว อาหารก็ตั้งโต๊ะจนเย็นแล้วเย็นอีก แต่ทำไมหลานสาวของเขาถึงยังไม่กลับมา อุดมเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข ผุดลุกผุดนั่งด้วยความเป็นกังวล เพราะปกติแล้วเธอไม่เคยกลับผิดเวลา แต่ถ้าวันไหนจะกลับช้า เธอก็จะบอกให้รู้หรือโทรมาบอกทุกครั้ง

“เดี๋ยวนี้หนูหยินกลับดึกแบบนี้ทุกวันเลยเหรอครับ” ชายหนุ่มที่นั่งกดไอแพดอยู่บนโต๊ะรับแขกแสร้งถามอย่างใจเย็น ทั้ง ๆ ที่ในใจนั้นก็กระวนกระวายด้วยความเป็นห่วงเธอไม่น้อย

เขารู้ว่าเธอจบปริญญาโทด้วยคะแนนอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัย ก็ถึงกับทิ้งงานไปหาซื้อของขวัญให้ด้วยตัวเอง และรีบเดินทางข้ามประเทศมาอย่างเร็วที่สุด แล้วผลที่ได้รับเป็นอย่างไร เธอกลับไปเถลไถลอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้

“ไม่นะครับ ปกติหยินเขาจะบอกผมทุกครั้งถ้าจะกลับช้า หรือบางทีก็โทรมาบอก แต่วันนี้ทำไมถึงไม่โทรมาก็ไม่รู้” ชายชรารู้สึกถึงความเป็นห่วงเป็นใยในน้ำเสียงที่ราบเรียบนั้น แต่ก็มั่นใจว่าหลานสาวจะต้องมีเหตุผลที่เป็นเช่นนี้ “เดี๋ยวผมโทรไปถามเขาดีกว่า”

“ครับ”

อุดมเดินไปถึงโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ ยังไม่ทันได้ยกหูมันก็ส่งเสียงดังขึ้นมาพอดี เขารีบรับสายแล้วกรอกเสียงลงไป

“สวัสดีครับ.. ใช่ครับ ผมเองครับ.. ครับ ๆ คุณตำรวจ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”

“เกิดอะไรขึ้นกับหนูหยินครับ” ฟิลลิปเข้ามาประชิดตัวชายชรา ถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก

“ตำรวจบอกว่าหยินถูกแท็กซี่จะทำมิดีมิร้าย แต่โชคดีที่หนีเอาตัวรอดมาได้ ตอนนี้อยู่ที่โรงพักครับ”

“ไปครับ เดี๋ยวผมพาไป” เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบวิ่งไปหยิบกุญแจรถที่แขวนไว้

“โอ๊ย!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel