บทที่ 5.จบตอน
“เย้ๆ ดีใจจัง ได้กลับบ้านแล้ว” นวลหงส์วิ่งไปรอบๆ รถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถของโรงพยาบาลที่ตนพักรักษาตัวอยู่สามวันเต็มๆ อย่างดีใจสุดขีดจนเก็บอาการไม่อยู่จนต้องแสดงออกมาด้วยการวิ่งไปรอบๆ รถเหมือนคนสติไม่ดี ถ้าคนไม่รู้จักเธอก็คงคิดว่านวลหงส์เป็นคนสติไม่สมประกอบล่ะ
“นี่ๆๆ นังหงส์ แกหยุดวิ่งไปรอบรถฉันเหมือนเป็นคนบ้าได้ไหม” ทินวัฒน์แหวเพื่อนรักพลางเท้าสะเอวมองแม่คนที่ระริกระรี้วี้ดว้ายดีใจเกินงามอย่างหมั่นไส้
“แหมแกก็คนมันดีใจนี่หว่า” นวลหงส์เอ่ยหอบๆ เพราะวิ่งอยู่หลายรอบ
“ฉันก็รู้ว่าแกดีใจ แต่แหมมันเกินไปไหมแก เหมือนคนบ้าชัดๆ สงสัยหัวฟาดฟื้นน้อยเกินไป น่าจะฟาดแรงกว่านี้นะ” ทินวัฒน์พูดพลางเปิดประตูรถให้เพื่อนรัก
“โอ๊ยแก บ่นเป็นยายแก่ไปได้”
“เป็นใครก็ต้องบ่นแกทั้งนั้นแหละ นี่ฉันไม่น่าจะมารับแกเล้ย ให้พี่ช้างมารับไม่รู้จะกล้าแหกปากร้องวิ่งรอบรถเหมือนเมื่อกี้หรือเปล่าหรอก”
“นี่ตกลงแกไม่เต็มใจมาใช่มั้ย ทำไมไม่ให้ตะวันมาล่ะ”
“ตะวันต้องอยู่ช่วยงานศพคู่หมั้นพี่ช้างไงแกวันนี้เขาเก็บอัฐิกันที่วัดนั่นล่ะ เออพูดถึงคู่หมั้นพี่ช้างฉันก็เพิ่งนึกได้ว่าจะเล่าให้แกฟัง” ทินวัฒน์เอ่ยขึ้นเมื่อค่อยๆ ขับเคลื่อนรถยนต์คันเก่งออกจากโรงพยาบาล
“ว่ามา”
“ก็คุณอิงดาวน่ะสิแก น่ารักมากขนาดในรูปนะดูสดใสน่ารักราวกับยังมีชีวิตเห็นว่าคุณอิงดาวเขามีโรคประจำตัว และฉันแอบได้ข่าวมาว่าเขาเป็นนักเขียนด้วยนะแก”
“จริงเหรอแกเขาใช้นามปากกาอะไรแล้วเขาเขียนนิยายเรื่องอะไรบ้างแกพอจะรู้ไหม” นวลหงส์ถามอย่างตื่นเต้น
“แกต้องไม่เชื่อแน่ๆ ถ้าฉันจะบอกแกว่าเขาใช้นามปากกาอะไร”
ทินวัฒน์หยุดเล่าชั่วครู่แล้วหันมามองใบหน้าขาวใสที่ซีดเซียวไปบ้างของเพื่อนรักเนื่องจากการนอนพักอยู่ในโรงพยาบาลถึงสามวัน
“นามปากกาอะไร..”
“อิงดารา..” สิ้นเสียงบอกเล่าของทินวัฒน์ก็เหมือนกับว่ามีมวลน้ำเย็นๆ ก้อนใหญ่ซัดโครมลงบนตัวเธออย่างจังความหนาวเหน็บที่ไม่สามารถอธิบายได้แล่นพล่านไปทั่วร่างแล้วภาพในความฝันที่ค่อนข้างจะเลือนรางตลอดสามวันที่ผ่านมาก็แจ่มชัดขึ้นมาทันที…
“แล้วแกได้ถ่ายรูปมาดูไหม..” นวลหงส์ถามกึ่งกล้ากึ่งกลัว กลัวว่าสิ่งที่เธอคิดไว้จะเป็นจริง...
“มีสิ แกเปิดดูรูปในโทรศัพท์ได้เลย ฉันถ่ายมาเมื่อวานแต่ถ่ายจากรูปถ่ายหน้าศพนะ” ทินวัฒน์บอก นวลหงส์เอื้อมมือที่สั่นๆ เล็กน้อยไปหยิบโทรศัพท์เครื่องบางทันสมัยราคาแพงลิบซึ่งเป็นข้าวของราคาแพงที่สุดเพียงอย่างเดียวที่ทินวัฒน์ยอมควักเงินร่วมสามหมื่นบาทซื้อมันมา
นวลหงส์พยายามบังคับมือไม่ให้สั่นเปิดไฟล์รูปภาพในโทรศัพท์ด้วยหัวใจที่กระหน่ำระรัวลุ้นระทึกในอกอยู่คนเดียว และแล้วภาพใบหน้าเรียวรูปไข่สวยน่ารักที่แย้มยิ้มสดใสราวมีชีวิตนั้น มันทำให้มือบางอ่อนแรงลงทันทีจนเกือบจะทำให้สิ่งที่อยู่ในมือหล่นร่วง...
“ต๊าย.. นังหงส์แกเกือบจะทำโทรศัพท์ฉันหลุดมือ ถ้าของฉันพังนะ ฉันเลิกคบหล่อนเลยนะยะ” ทินวัฒน์เอ่ยอย่างไม่ใคร่จะจริงจังนัก แต่อดใจหายใจคว่ำไม่ได้เมื่อเห็นว่ามันเกือบจะหลุดมือนวลหงส์เมื่อครู่
“ขอโทษๆ ฉันแค่มืออ่อนแรงน่ะแก สงสัยนอนมากไปหน่อย แหะๆ” หญิงสาวพยายามฝืนทำเสียงให้ดูสดชื่นก่อนจะรีบวางโทรศัพท์ลงอย่างแผ่วเบาราวกลัวว่ามันจะแตกหัก
อิงดาว อิงดารา อย่างนั้นหรือนวลหงส์ครางในอกเมื่อภาพสาวน้อยที่เธอได้เห็นเมื่อครู่นั้นชัดติดตา ใบหน้าเรียวซีดเผือดพลางโอบกอดตัวเองอย่างใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ดวงตากลมโตไหวระริกก่อนจะปิดลงเมื่อไม่สามารถทนต่อความง่วงที่เกิดขึ้นกะทันหันซึ่งเธอเองก็ไม่อาจหาสาเหตุอธิบายได้
“ฉันบอกแล้วว่าแกจะต้องอึ้ง เป็นไงเงียบไปเลยนะแก อ้าวเฮ้ยแกหลับเฉยเลย..” ทินวัฒน์หันมาจะคุยด้วยก็เห็นว่าอีกฝ่ายหลับไปเสียแล้ว เขาจึงตั้งหน้าตั้งตาขับรถมุ่งสู่บ้านของนวลหงส์
