บทที่ 6 มอซอ
“เออ... คุณจะทำอะไรคะ อือ... ไม่... อย่า... ”
“เธอเองก็ต้องการแบบนี้มานานแล้วไม่ใช่เหรอยัยคุณหนูอลิซจอมมั่ว”
คาร์เตอร์ไม่ปล่อยให้ร่างเล็กได้กล่าวเถียงคำใดออกมาอีกเพราะเขากำลังก้มปิดปากบางด้วยปากของเขาเอง จนเสียงลิฟท์ดังขึ้นเมื่อทั้งคู่มาถึงชั้นที่คาร์เตอร์พักชายหนุ่มถึงได้ยอมถอนริมฝีปากของเขาออกไป
“ปากหวานดีนี่นึกว่าจะสำส่อนมั่วจนเน่าในหมดแล้วเสียอีกมานี่” คาร์เตอร์กล่าวพร้อมจับข้อมือเล็กกำแน่นลากพาเดินตรงไปที่ห้องพักของเขา ทั้งที่ในใจยังนึกสงสัยว่าทำไมเธอถึงทำท่าทางดีดดิ้นเหมือนไม่เต็มใจ
“คุณคะฉันเจ็บ โอ้ย... ช่วยปล่อยข้อมือฉันด้วยค่ะฉันเจ็บนะคะ”
“ดูเหมือนวันนี้เธอจะอยากแสดงละครมากเลยนะอลิซ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเยาะหยันและมองจ้องหน้าเธอ
“เออ... ฉันไม่ได้... ชื่อ... ”
“เจ้านายครับเจ้านายเกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ”
“มีอะไร ถ้าเรื่องไม่ใหญ่จริงฉันจะไล่นายออก” คาร์เตอร์
กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวโมโหไม่พอใจ
““มีอะไรก็รีบว่ามา”
“ลูกค้าตีกันบนเรือครับเจ้านาย”
คำกล่าวรายงานของลูกน้องส่งผลให้คาร์เตอร์ถึงกับโกรธลุกเป็นฟืนเป็นไฟมากยิ่งขึ้นกว่าเก่า
“อะไรวะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้มีพนักงานเกือบพันคนยังไม่สามารถจัดการเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ได้แล้วแบบนี้ยังต้องมารายงานฉันให้ไปจัดการเองน่าไล่ออกให้หมดจริง ๆ”
“เจ้านายครับคือที่พวกผมทุกคนไม่กล้าไปเคลียร์ปัญหานี้ด้วยตนเองเพราะคนที่มีเรื่องด้วยคือคุณทามัสครับ”
“ว่าไงนะไอ้หมอนั่นนึกยังไงถึงกล้าขึ้นมาบนเรือของฉันที่แท้มันคงอยากจะลองดีกับฉันถึงได้มาก่อกวนสร้างความวุ่นวายบนเรือของฉันได้ เดี๋ยวนายอยู่เฝ้าที่ประตูนี้อย่าให้แม่นี่หนีออกจากห้องมาสร้างความวุ่นวายเป็นอันขาด”
คำสั่งของคาร์เตอร์ทำให้ลูกน้องหนุ่มถึงกับหันไปมองผู้หญิงที่ยืนอยู่แอบ ๆ ด้านข้างของเจ้านายตนเองก่อนจะเห็นใบหน้าเรียวสวยหวานที่ไร้การแต่งแต้มสีสันของเครื่องสำอางใด ๆนั้นด้วยความตกใจและนึกสงสัย ว่าคุณหนูอลิซที่รักสวยรักงามยิ่งกว่าอะไรทำไมถึงได้แต่งตัวมอซอปลอมตัวขึ้นมาบนเรือเพื่อหาเจ้านายได้ขนาดนี้
“นำเธอเข้าไปในห้องล็อคประตูแล้วเฝ้าเธอไว้ถ้าเธอหนีออกไปได้ฉันจะไล่แกออก” คาร์เตอร์สั่งด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดเพราะทามัสกับเค้าเป็นคู่อริตั้งแต่สมัยเรียน จนมาถึงการแย่งประมูลที่ดินครั้งล่าสุด
“ครับเจ้านาย”
ภายในห้องนอนของคาร์เตอร์สาวน้อยมุกนาราถึงกับเดินไปเดินมาด้วยความกระวนกระวายใจที่หน้าประตูห้องด้านในหลังจากที่ถูก เชิญให้เข้ามาอยู่ในห้องนี้อย่างสุภาพนอบน้อมของชายหนุ่มที่เฝ้าอยู่ที่หน้าห้องมุกนาราได้แต่คิดสงสัยกับตัวเองแปลกใจกับกริยานอบน้อมและสุขภาพมากของบุรุษหนุ่มคนนั้น ไม่เหมือนเจ้านายหนุ่มของเขาเลยที่หน้าตาดีแต่กลับดิบเถื่อนปากร้ายแถมหื่นอีกต่างหาก มุกนาราเดินตรงไปที่กระจกเลื่อนผ้าม่านออกแล้วถึงกับรู้สึกตกใจกับระดับความสูงจากห้องที่เธออยู่ ก็พอจะบ่งบอกให้เธอรับรู้ว่าห้องที่เธอกำลังยืนมองอยู่นี้น่าจะเป็นชั้นบนสุดของเรือแล้ว
ห้องนี้มีความกว้างใหญ่ราวกลับบ้านหนึ่งหลังมีครบทั้งห้องโถงห้องนอนห้องครัวเล็ก ๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างล้วนเป็นของราคาแพง จนเธอไม่กล้าที่จะจับแตะต้องสิ่งของใด ๆ ทั้งนั้นเพราะกลัวว่าหากเธอทำอะไรให้เสียหายหรือแตกหักคงจะต้องชดใช้ตลอดทั้งชาติแน่กว่าเธอจะชดใช้หมดข้าวของเหล่านี้เรียกได้ว่าเธอจะเห็นแต่ในนิตยสารของพวกนักธุรกิจและมหาเศรษฐีเท่านั้นที่เขามีใช้กัน ก่อนที่เธอจะหันมาจากหน้าต่างมานั่งที่โซฟาตัวหรูใช้มือลูบคลำกับความนุ่มนิ่มของโซฟาตัวนี้
"นุ่มจังเลยชาตินี้เพิ่งเคยได้นั่งกับคนอื่นเขา ว่าแต่ผู้หญิงที่ชื่ออลิซทำไมผู้ชายสองคนนี้ถึงได้เรียกเธอว่าคุณหนูอลิซนะ อยากเห็นหน้าของเธอจังเธอกับเรามีความเหมือนมากขนาดนี้เลยเหรอ"
มุกนาราพูดกับตนเองด้วยความสนใจ แต่ในใจของเธอก็ยังคงเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและอาการสั่นก็ยังคงมีหลงเหลืออยู่ในตัวของเธอ เพียงนึกถึงสิ่งที่ชายหนุ่มร่างสูงแต่งกายดีหน้าตาหล่อเหลาคมดุ สิ่งที่ชายหนุ่มทำกับเธอในลิฟต์จนมาถึงหน้าห้องนี้ทำให้เธอได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้คงเป็นเจ้าของเรือบวกกับความมีอำนาจในตัวของเขา ที่แม้แต่ตัวเธอเองหรือผู้ที่ได้พบเห็นต่างก็รู้สึกหวาดกลัวในน้ำเสียงและตัวของเขา มุกนาราเดินไปที่ประตูก่อนที่จะเคาะสองสามครั้ง
"คุณคะคุณได้โปรดเปิดประตูให้ฉันหน่อยได้มั้ยคะฉันรู้สึกหิวมากจริง ๆ ค่ะได้โปรด"
เสียงของมุกนาราที่กล่าวจบลงประตูกว้างก็ถูกเปิดเข้ามาโดยชายหนุ่มที่เฝ้าอยู่ที่ประตู
"คุณหนูอลิซว่ายังไงนะครับ"
คำพูดของหนุ่มที่เฝ้าอยู่หน้าห้องทำให้มุกนาราจำเป็นต้องรับสมอ้างเป็นหญิงสาวคนนั้นอย่างจำใจพร้อมกล่าวขอโทษเธอในใจตนเองที่จำเป็นต้องแอบเป็นเธอ
"เออ… คืออลิซรู้สึกหิวข้าวนะค่ะตั้งแต่มาถึงที่นี่ยังไม่ได้ทานอะไรเลย" มุกนารากล่าวด้วยกริยาอาย ๆ เหมือนคนทำตัวไม่ค่อยถูกเมื่อยืนต่อหน้าคนแปลกหน้า
"คุณหนูอลิซยกหูโทรศัพท์ที่อยู่ข้างโซฟานั้นกดหมายเลขแปดแปดต่อด้วย สามสั่งอาหารได้เลยครับเดี๋ยวพนักงานจะยกขึ้นมาเสิร์ฟให้ครับ"
ชายหนุ่มบอดี้การ์ดหน้าห้องกล่าวออกมาอย่างนอบน้อมให้กับคุณหนูที่เขาเข้าใจว่าเป็นคู่หมั้นของเจ้านายตนเองพร้อมกับมองสำรวจอีกครั้งอย่างเต็มตา
"เออ… ทำไมคุณหนูถึงได้แต่งตัวโทรมอย่างนี้ล่ะครับดูเหมือนคุณหนูจะปลอมตัวได้ดีกว่านักแสดงหลาย ๆ คนอีกนะครับ"
ชายหนุ่มบอดี้การ์ดกล่าวชมออกมาให้กับการปลอมแปลงตัวของคุณหนูอลิซผู้เลอโฉม
"ก็มันจำเป็นนี่คะฉันเลยต้องแต่งตัวแบบนี้ค่ะ"
มุกนารากล่าวออกไปยิ้มแบบจืด ๆ ให้กับชายหนุ่มบอดี้การ์ดคนนั้น ก่อนที่เธอจะหันหลังดึงประตูปิดกลับเข้ามาในห้องเมื่อเธอรู้ว่าไม่สามารถที่จะหนีออกไปจากห้องนี้ได้จริง ในเมื่อมีคนเฝ้าที่ประตูตลอดเวลาแบบนี้
