บท
ตั้งค่า

#3

ไป๋ลู่ชิงกลับมาถึงเรือน ยังมิทันที่จะได้ลงนั่ง สาวใช้ก็ตามเข้ามารายงาน “ฮูหยินน้อยเจ้าคะ แม่นางฉางมาขอเข้าพบเจ้าค่ะ”

“คุณหนู นางมาทำอันใดเจ้าคะ?” มู่ตานกับเหลียนฮวา มองเจ้านายด้วยความกังวล

ลู่ชิงส่ายหน้าอย่างฉงน ก่อนจะหันไปบอกสาวใช้ที่มารายงาน “ไปบอกนาง ว่าข้าไม่สะดวกจะให้พบ”

“เจ้าค่ะ”

ดูเอาเถิด มีแต่คนสั่งมิให้นางไปรบกวนหญิงสาวนางนี้ ไฉนจึงมิห้ามสตรีนางนี้บ้าง ว่ามิให้มารบกวนนางบ้างเล่า! ไป๋ลู่ชิงคิดอย่างสมเพชตนเอง ก่อนจะยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา

เหลียนฮวารีบเข้ามารินน้ำใส่จอกส่งให้ ยังมิทันที่ลู่ชิงจะยื่นมือไปรับ เสียงของฉางฟางเยว่ก็ดังขึ้น

“ข้าแค่จะมาทักทายตามมารยาท ไฉนเจ้าต้องหลบหน้าข้า หรือว่ารู้สึกผิดจนมิกล้าสู้หน้า?” ฉางฟางเยว่สาวเท้าเข้ามาลงนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม โดยไม่รอให้เจ้าของเรือนกล่าวเชิญ

บรรยากาศในห้องโถงเรือนหลิว พลันเปลี่ยนเป็นน่าอึดอัดขึ้นมาทันใด ลู่ชิงถึงกับกล่าววาจาไม่ออกไปชั่วขณะ ไม่นึกว่าฉางฟางเยว่จะไร้มารยาทเช่นนี้

“เป็นอันใด พูดไม่ออกเลยหรือ” ฉางฟางเยว่เลิกคิ้วถาม มองลู่ชิงอย่างดูแคลน “คนที่กล้าแต่งเข้าสกุลหยาง ทั้งๆ ที่รู้ว่าข้ากับพี่เทียนเล่อรักกันเช่นเจ้า ยังมีเรื่องไม่กล้าทำอีกหรือ?”

เหลียนฮวาทนฟังไม่ไหว รีบเอ่ยขึ้น “แม่นางฉาง หากว่าท่านตั้งใจจะมาหาเรื่องคุณหนูก็เชิญกลับไปเถิดเจ้าค่ะ”

นางอยู่กับคุณหนูมาตั้งแต่เด็ก ย่อมรู้ว่าคุณหนูของตนอ่อนแอบอบบางเพียงใด ไหนเลยจะมีฝีปากสู้หญิงกร้านโลกอย่างฉางฟางเยว่ได้

“เจ้าเอาตาข้างไหนมอง ว่าข้ามาหาเรื่องเจ้านายของเจ้า เป็นแค่สาวใช้ กล้ากล่าววาจาเช่นนี้กับข้าหรือ! เจ้านายเจ้าไม่เคยอบรมเลยหรือไร!?” ฉางฟางเยว่หันไปตวาดเหลียนฮวาเสียงดัง ก่อนจะผินหน้ากลับมามองลู่ชิง “ถ้ารู้ตัวก็จงรีบหย่าให้พี่เทียนเล่อโดยไว คนอย่างเจ้าต่อให้ตายแล้วเกิดใหม่ ก็ไม่มีวันได้หัวใจของเขา!”

ฉางฟางเยว่พูดจบพลันลุกขึ้นยืน ทิ้งสายตาเหยียดหยามให้ลู่ชิง ก่อนจะก้าวออกจากเรือนด้วยท่าทางสง่างาม

เหลียนฮวากับมู่ตานโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ แต่มิอาจทำอันใดได้ ได้แต่หันมาปลอบเจ้านายของตน “คุณหนู อย่าไปสนใจนางเลยเจ้าค่ะ นางก็แค่อดีตนักโทษ”

“อดีตนักโทษที่ครอบครองดวงใจของสามีข้า” ลู่ชิงเอ่ยทั้งน้ำตา คำพูดของฉางฟางเยว่ยังดังก้องในหัว

‘คนอย่างเจ้าต่อให้ตายแล้วเกิดใหม่ ก็ไม่มีวันได้หัวใจของเขา’

ลู่ชิงเคยถามตนเองหลายครั้ง ว่าหากย้อนกลับไปได้ นางยังจะแต่งให้หยางเทียนเล่ออีกหรือไม่ แต่คำตอบที่ได้ ยังคงเป็นคำว่า ‘แต่ง’ เพราะนางดื้อรั้นทำตนเองให้เจ็บช้ำเองใช่หรือไม่

เหลียนฮวาเห็นสีหน้าของเจ้านายซีดเผือด พลันรีบกล่าวขึ้น “คุณหนู แม่นางฉางฟางเยว่ผู้นั้น ตั้งใจมาหาเรื่อง อย่าไปฟังวาจาของนางนะเจ้าคะ”

“ข้าอยากอยู่คนเดียวสักครู่ พวกเจ้ามิต้องตามมา” ลู่ชิงพูดแล้ว ลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องนอน

เหลียนฮวากับมู่ตานได้แต่มองตามไปด้วยความเป็นห่วง

เรือนหลิว ที่ไป๋ลู่ชิงพำนัก ธรรมดาแล้วสมควรเป็นเรือนที่สามีภรรยาอยู่ร่วมกัน ทว่าตั้งแต่แต่งงาน หยางเทียนเล่อได้ย้ายตนเองไปอยู่เรือนเล็กท้ายจวน และตั้งแต่บัดนั้นก็ไม่เคยมาเหยียบเรือนหลิวอีก พึ่งจะมีวันนี้ ที่เขามาเหยียบเรือนหลิวถึงสองครา คราแรกเข้ามาเตือนนางมิให้ไปเสนอหน้าให้คนรักของเขาเห็น ส่วนอีกครา ก็คือตอนนี้

หยางเทียนเล่อสาวเท้าเข้ามาในเรือนได้ พลันตวาดเสียงดังด้วยโทสะ “ข้าบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ ว่าอย่าได้เสนอหน้าไปให้นางเห็น! นี่เจ้าถึงกับกล้าพาสาวใช้ไปกล่าววาจาดูถูกนางเลยหรือ!”

แค่ถูกเขาตวาด ไป๋ลู่ชิงก็ตกใจจนทำอันใดไม่ถูกแล้ว ไหนเลยจะคิดถึงเรื่องเอ่ยวาจาแก้ตัว

เหลียนฮวากับมู่ตานเห็นอย่างนั้น รีบช่วยกันเอ่ยปาก

“ตั้งแต่ที่ท่านเขยออกไป คุณหนูยังมิได้ก้าวออกจากเรือนเลยเจ้าค่ะ ท่านเขยเข้าใจคุณหนูผิดไปแล้วเจ้าค่ะ” เหลียนฮวากล่าว พลางสาวเท้าเข้ามายืนข้างกายเจ้านาย เพราะเกรงว่านางจะหวาดกลัวจนเป็นลมไปเสียก่อน นายท่านกับฮูหยินเลี้ยงดูคุณหนูมาราวกับไข่มุกกลางฝ่ามือ ไหนเลยจะเคยประสบพบเจอกับโทสะผู้อื่น

“เจ้านายคุยกัน ใครอนุญาตให้เจ้าสอดปาก! คงเป็นเจ้ากระมัง ที่กล่าววาจาดูแคลนเยว่เอ๋อ เห็นทีหากไม่สั่งสอนเสียบ้างคงไม่สำนึก!”

“บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านเขยโปรดอภัยด้วย” เหลียนฮวากับมู่ตานพากันคุกเข่าลงด้วยความตระหนก ไม่นึกว่าท่านเขยที่เป็นที่ปรึกษาสิงห์ปู้จะไร้เหตุผลถึงเพียงนี้ ยังมิทันสอบสวนหาความจริง ก็จะเอาผิดพวกนางเสียแล้ว

หยางเทียนเล่อมิได้ให้ความสนใจสาวใช้ทั้งสองอีก หันมามองไป๋ลู่ชิง ครั้นเห็นท่าทางหวาดกลัวจนตัวสั่นงันงกของนาง พลันยิ่งรู้สึกรังเกียจ คิดว่านางเสแสร้ง เขากล่าวเสียงเยียบเย็นว่า “หากมีครั้งต่อไป ข้าจะโบยสาวใช้ของเจ้าให้ตาย!” พูดแล้วก็สะบัดชายแขนเสื้อจากไปทันที

ไป๋ลู่ชิงร้องไห้จนตัวโยน ทั้งตกใจ ทั้งหวาดกลัว มู่ตานกับเหลียนฮวารีบเข้ามากอดปลอบ “คุณหนู ไม่มีอันใดแล้วเจ้าค่ะ ท่านเขยไปแล้ว”

“แต่เขาบอกว่าต่อไปจะโบยพวกเจ้า ฮึก ฮือๆ ไฉนท่านพี่เทียนเล่อ ถึงใจร้ายใจดำเช่นนี้ เป็นความผิดของข้าใช่หรือไม่ ที่ยอมแต่งให้เขา ฮือๆ” ลู่ชิงพลั่งพลูวาจาออกมาด้วยความอัดอั้น ใช้เวลาไปนานพอดู กว่าที่นางจะสงบลง

“ข้าอยากกลับไปหาท่านพ่อท่านแม่”

เหลียนฮวากับมู่ตานหันมามองหน้ากัน ก่อนที่มู่ตานจะหันไปกล่าวอย่างไม่เต็มเสียงนัก “เกรงว่าฮูหยินจะไม่อนุญาติน่ะสิเจ้าคะ”

ลู่ชิงได้ยินเช่นนั้น พลันยิ้มหยันให้ตัวเอง นางลืมไปได้อย่างไร ว่าสกุลหยางรักหน้าตายิ่งกว่าสิ่งใด ไม่มีทางปล่อยให้สะใภ้อย่างนางกลับบ้านเดิมช่วงนี้เป็นแน่

เหลียนฮวาเห็นเจ้านายทำหน้าเศร้า จึงเอ่ยปลอบไปว่า “เอาเช่นนี้ดีหรือไม่เจ้าคะ รอสักสองสามวัน พวกเราค่อยขออนุญาติฮูหยินออกไปเที่ยวตลาดท่าเรือ คุณหนูชอบไปที่นั่นมิใช่หรือเจ้าคะ คิดว่าแค่ออกไปชมดูตลาดท่าเรือ ฮูหยินกับนายท่านคงมิว่าอันใด”

ไป๋ลู่ชิงได้แต่พยักหน้า นางยังจะทำอันใดได้อีกเล่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel