บท
ตั้งค่า

3.หวนคืน (2)

หลังจากบิดามารดาออกไป ลี่อิ่งก็นั่งมองตนเองผ่านกระจกบานใหญ่ แทบไม่อยากเชื่อว่านางจะย้อนกลับมาเป็นเด็กสาวในวัยสิบหกหนาวอีกครั้ง

นัยน์ตาสีนิลเหม่อมองเงาสะท้อน พลางย้อนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้วซ้ำไปซ้ำมา

ลี่อิ่งยอมรับว่านางควบคุมตนเองไม่ได้ คิดทำลายหลักฐานปลอมพวกนั้น จนทำให้บุตรในครรภ์ต้องตาย แต่ความผิดนี้ยังมีอีกสองคนที่ร่วมกันก่อ

ตัวนางได้รับโทษอย่างแสนสาหัส เจ็บปวดกับการสูญเสีย จนมิอาจให้อภัยตนเอง แล้วพวกเขาเล่า…จะเสียใจกับเรื่องนี้หรือไม่

“สวีเสี่ยวปิง เจี้ยนอี้โจว พวกท่านจะเจ็บปวดเหมือนที่ข้าเป็นอยู่หรือไม่” มือเล็กสัมผัสหน้าท้องเบาๆ พลันหลับตาลงสกัดกั้นความเสียใจเอาไว้ เพราะตอนนี้มิใช่เวลามาร้องไห้ แต่ต้องคิดวางแผน ว่าจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

หากนางยอมถอนหมั้น เรื่องราวทั้งหมดอาจเป็นเช่นเดิม และก็อาจจะเป็นนางที่ต้องเจ็บปวดอยู่อย่างนี้

แกรก! แกรก! แกรก! นิ้วเล็กเคาะลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด และสิ่งเดียวที่วนเวียนอยู่ในหัวนางตอนนี้ คือคำพูดสุดท้ายของตัวเอง…

“หากรอด อึก! ตายไปได้ ข้าจะทำทุกอย่างให้ท่านเจ็บปวดเช่นข้า”

“คุณหนูเจ้าคะ คุณชายใหญ่กลับมาแล้วเจ้าค่ะ สำรับก็จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว”

“อืม ท่านพ่อได้เชิญทุกคนมาร่วมงานเลี้ยงด้วยใช่หรือไม่” คุณหนูสวีมองสำรวจตนเองผ่านกระจกบานใหญ่ ใบหน้าแต่งแต้มสีสัน สวมชุด สวมเครื่องประดับเต็มยศราวกับจะออกไปงานเลี้ยงนอกเรือน

“เชิญทุกคนอย่างที่คุณหนูบอกเจ้าค่ะ แต่บ่าวไม่เข้าใจว่าเหตุใดคุณหนูต้องให้เชิญคุณหนูใหญ่ด้วย” บ่าวตัวน้อยทำหน้าบึ้ง นางไม่ชอบคุณหนูใหญ่ แม้สตรีผู้นั้นจะพูดจาไพเราะ กิริยาเรียบร้อย แต่กลับชอบกดดันให้คุณหนูมอบของมีค่าให้ บางคราก็ผลักคุณหนู แล้วแสร้งว่าไม่ได้ตั้งใจ

“เชิญมาเถิด…ข้าอยากรู้ว่านางจะสู้หน้าทุกคนอย่างไร ที่แอบไปมีสัมพันธ์กับคู่หมั้นของน้องสาว” ว่าเสร็จก็ลุกออกไปจากห้อง ทิ้งให้มี่มี่ขนลุกซู่ ยามเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของคุณหนู ตั้งแต่นางปรนนิบัติข้างกายคุณหนู ยังไม่เคยเห็นสายตาโกรธแค้นเช่นนี้เลยสักครา

“โอ้โห สมกับเป็นน้องสาวพี่ งดงามทุกกระเบียดนิ้ว” สวีต้าหัวเอ่ยทักทันทีที่เห็นร่างงามเดินขึ้นมาบนศาลา

“พี่ใหญ่เอ่ยยกยอข้าเกินไปแล้ว ขออภัยที่ข้ามาช้าเจ้าค่ะ” ลี่อิ่งเข้าไปนั่งที่ของตน พลางก้มคำนับท่านพ่อท่านแม่

“มิเป็นไรๆ นั่งลงเถิด มารดาเจ้าทำแต่ของที่เจ้าชอบทั้งนั้น”

“ของข้าไม่มีเลยหรือท่านแม่ นี่พวกท่านเลี้ยงต้อนรับข้าจริงหรือไม่ รองแม่ทัพแคว้นเจี้ยนอุตส่าห์กลับมาเรือนทั้งที” เสียงโวยวายของคุณชายใหญ่สร้างความขบขำให้กับทุกคน จะมีก็แต่อนุเหลียง กับบุตรสาวอย่างเสี่ยวปิงที่ทำหน้าบูดบึ้ง เพราะถูกปฏิบัติราวกับธาตุอากาศ ขนาดอนุจูก็ถูกท่านราชครูเอ่ยทักบ้าง

ไม่รู้ว่าพวกนางทำผิดเรื่องใดหนักหนา ไม่ว่าผู้ใดก็อยากถีบตนเองขึ้นสูงทั้งนั้นมิใช่หรือไร

“อาลู่! เจ้าอยู่นิ่งๆ พี่ใหญ่จะสวมกำไลให้” สวีต้าลู่ เด็กชายวัยสี่เดือนขยับเท้าไปมาไม่ยอมให้พี่ชายใส่กำไลให้

“พี่ใหญ่พูดเสียงแข็งราวกับอาลู่เป็นนายทหาร ประเดี๋ยวก็ร้องไห้กันพอดี” ลี่อิ่งยื่นมือไปรับเด็กชายจากอนุจูมาอุ้มไว้เอง พลางหยอกเล่นอยู่สักพัก จึงช่วยใส่กำไลข้อเท้าให้เด็กน้อย

“คุณชายน้อยก็ยังชอบคุณหนูของบ่าวเช่นเคย” มี่มี่เอ่ยทัก

“งั้นหรือ เอาไว้พี่จะแวะไปหาอาลู่บ่อยๆ ดีหรือไม่” สวีลี่อิ่งมองน้องชายร้องอ้อแอ้ ก็นึกถึงบุตรของนาง ที่ไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลก

‘เจ้าจะชอบแม่เหมือนที่อาลู่ชอบหรือไม่นะ เด็กน้อยของแม่’

“คุณหนูเลี้ยงเด็กเก่งมากเลยเจ้าค่ะ ขนาดท่านราชครูอุ้ม อาลู่ยังร้องไห้เลย คิกๆ” อนุจูหัวเราะสามี

“เช่นนั้นถือว่าข้าสอบผ่าน วันหน้ามีบุตรให้ท่านชายจะได้ไม่บกพร่อง” แน่นอนว่าลี่อิ่งตั้งใจพูด ในเมื่อคิดจะทำให้เจี้ยนอี้โจวและสวีเสี่ยวปิงเจ็บปวด ก็ต้องเริ่มจากเรื่องนี้

รักกัน แต่มิอาจตบแต่งกันได้ อยากรู้นักว่าเจ็บปวดเพียงใด

คำพูดของลี่อิ่งทำให้ทุกคนชะงักนิ่ง ต่างคนก็ต่างตกอยู่ในความคิดของตน และก็เป็นอนุเหลียงที่เอ่ยทำลายความเงียบนั้น

“เอ่อ คุณหนูคงจะลืมไปว่าเมื่อหลายวันก่อน ท่านชายมาขอถอนหมั้น เพราะรักกันกับเสี่ยวปิงของข้า”

“หึ อนุเหลียงก็คงลืมไปแล้ว ท่านอ๋องเอ่ยว่าทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของข้า หากข้าจะแต่ง ผู้ใดจะค้านได้”

“อิ่งเอ๋อร์ เรื่องของพี่กับท่านชายมีคนรู้กันทั่วตลาดแล้ว หากมิได้ตบแต่งพี่คงมิมีหน้าไปสู้กับผู้ใด” เสี่ยวปิงยังคงทำตัวน่าสงสาร ให้ลี่อิ่งยอมทำตามที่นางต้องการเช่นเคย

ปัง!!!

“เสี่ยวปิง!!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel