ตอนที่ 5 : สตรีร้ายกาจไม่ยอมหย่า
ตอนที่
[5]
สตรีร้ายกาจไม่ยอมหย่า
กู้ซูฉินค่อย ๆ เดินไปตามทางจากเรือนของตนเองไปยังห้องทำงานของผู้เป็นสามี ในใจเอาแต่ครุ่นคิดว่าเขาจะกล่าวอันใดกับนาง เมื่อไปถึงที่หมาย บ่าวรับใช้ที่ทำหน้าที่อยู่ที่หน้าประตูก็เปิดประตูให้นางทันที
“คุณชายรออยู่ ฮูหยินน้อยเข้าไปได้เลยขอรับ”
กู้ซูฉินไม่กล่าวอันใดได้แต่พยักหน้าให้อีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในห้อง ทว่ากิริยานั้นก็ทำให้บ่าวรับใช้ผู้นั้นขนลุกซู่ ฮูหยินน้อยน่ากลัวเพียงใดผู้ใดจะไม่รู้ เมื่อครู่จึงทำให้เขาเผลอหดคออย่างไม่รู้ตัว
เมื่อเดินเข้าไปนางก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาทว่าเย็นชาของใครบางคนที่เงยหน้าขึ้นจากเอกสารบางอย่าง
“นั่งลงสิ” เขาพเยิดหน้าให้นางไปนั่งยังเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับโต๊ะของเขา ไม่รอช้าจึงรีบนั่งลงทันที
“ท่านพี่มีอันใดจึงเรียกหาข้าหรือเจ้าคะ” น้ำเสียงของกู้ซูฉินเต็มไปด้วยความสดใส นั่นทำให้เหรินฮุนเผลอจ้องนางอย่างไม่ตั้งใจ
นางทำใจได้แล้ว?
หรือกำลังเก็บซ่อนเอาไว้
กู้ซูฉินเห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่จ้องมองตนจึงได้โบกมือไปมาเบา ๆ ในตอนนั้นเองที่เหรินฮุนได้คืนสติ
“อะแฮ่ม ข้าจะถามเจ้าว่าเรื่องของฝู่อ้ายเจ้าจะเอาอย่างไร”
“ข้าก็ว่าจะถามท่านพี่เช่นกันเจ้าค่ะ ว่าจะเอาอย่างไร เมื่อครู่ข้านึกว่าท่านจะลงโทษนางเสียอีก” แต่เขากลับสั่งปิดข่าวเงียบ
“นางเป็นคนของเจ้า ข้าเลยยกให้เจ้าจัดการ
“อ้อ เจ้าค่ะ” นี่เป็นสิ่งที่นางต้องการอยู่แล้ว
“ท่านพี่เรื่องที่วางยาข้าที่จวน แม้ว่าจะเป็นฝีมือของฝู่อ้าย แต่นางก็ไม่มีความสามารถที่จะไปหาพิษที่ร้ายแรงเช่นนั้นมาได้หรอกเจ้าค่ะ” แม้จะราวกับกล่าวเรื่องทั่ว ๆ ไป แต่เนื้อหากลับน่าประหลาดใจนัก
“เจ้าหมายถึง…”
“เกรงว่าจะมีบางคนยืมมือนางมาจัดการข้ามากกว่า” เหรินฮุนได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งไปพลางครุ่นคิด เห็นทีเขาต้องไปสอบปากคำฝู่อ้ายอีกครั้ง
“เจ้ามีคนที่สงสัยหรือไม่”
“ย่อมมีเจ้าค่ะ ดังนั้นที่ท่านให้คนเงียบเรื่องของฝู่อ้ายไว้ นั่นเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะจะได้ไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น”
“หากมีอันใดอยากให้ข้าช่วยเหลือก็บอก” กู้ซูฉินที่ได้ยินดังนั้นจึงเผยรอยยิ้มกว้างและรีบตอบรับไป
“เจ้าค่ะ”
“แล้วก็เรื่องที่ฝู่อ้ายใส่ร้ายข้าว่าไม่พอใจที่ท่านพี่จะมาหานั่นไม่เป็นความจริงนะเจ้าคะ” ก่อนที่นางจะเล่าเรื่องราวคร่าว ๆ ให้เขาฟัง
แต่ทว่าจากนั้นเขากลับไม่กล่าวอันใด ต่างคนต่างเงียบ นางจึงได้เลิกคิ้วขึ้น
“ที่ท่านพี่เรียกหาข้ามีแค่เรื่องนี้หรือเจ้าคะ มีอันใดอีกหรือไม่”
“การรักษาของเจ้าจะต้องใช้เวลาราวสามเดือนใช่หรือไม่”
“ใช่เจ้าค่ะ ท่านหมอตู้กล่าวเช่นนั้น”
“แล้วหลังจากนั้นเจ้าคิดว่าจะทำอย่างไรต่อ” นางยังไม่เข้าใจว่าเขาจะกล่าวอันใดกันแน่
“จะต้องทำอันใดหรือเจ้าคะ” เหรินฮุนเห็นคิ้วที่ปูกเป็นปมของอีกฝ่ายก็กะพริบตาถี่ ๆ เพราะมันดู…น่ารัก แปลก ๆ ก่อนที่เขาจะพยายามนึกถึงจุดประสงค์ที่เขาเรียกนางมาในครั้งนี้
“ข้ารู้ว่าการแต่งงานของเรามันเกิดขึ้นด้วยความไม่เต็มใจของทั้งเจ้าและข้า…”
“ตัวข้านั้นไม่ได้อะไรมาก ยิ่งเมื่อมีอี้เออร์ ข้ายิ่งไม่ได้คิดถึงเรื่องความผิดพลาดใด แต่สำหรับเจ้า ข้ารู้ว่านี่เป็นสิ่งที่เจ้าผิดหวังมากที่สุด”
“ดังนั้น ถ้าหากว่าเจ้าหายดีแล้ว ข้าจะเขียนหนังสือหย่าให้เจ้า เราสามารถหย่าขาดกันได้ ไหน ๆ เรื่องนี้เจ้าก็ต้องการมาตลอด แต่ข้าขอเตือนไว้ ว่าการไปยุ่งเกี่ยวกับองค์ชายสี่นั้นมิใช่เรื่องที่ดี เอาละเรื่องที่ข้าจะพูดก็มีเท่านี้ หากเจ้ามีอันใดอยากจะพูดก็พูดมาได้เลย”
“….”
เขากล่าวออกมารวดเดียวทว่าตลอดที่อีกฝ่ายกล่าวกู้ซูฉินนั้นไม่เอ่ยขัดเลยแม้แต่น้อย จวบจนเขากล่าวจบ หญิงสาวจึงค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินอ้อมไปยังจุดที่อีกคนนั่งอยู่ ทำให้เหรินฮุนนั้นถอยกายออกแทบไม่ทัน
นางจะเข้ามาใกล้อะไรกันถึงเพียงนี้!
กู้ซูฉินเห็นท่าทางเช่นนั้นก็ยกยิ้มมุมปากก่อนจะกล่าว
“แล้วหากข้าบอกว่าข้าไม่อยากหย่าแล้วเล่าท่านพี่จะว่าอย่างไร”
“…..”
“แล้วองค์ชายสี่อะไรนั่นข้าไม่ได้มีความสนใจสักนิด เพราะข้ามีสิ่งที่ดีและน่าสนใจมากกว่าอยู่ตรงหน้าแล้ว”
นางว่าอย่างไรนะ!? เหรินฮุนแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
กู้ซูฉินจงใจยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย จนระยะห่างแทบเรียกว่าเกือบแนบชิด ก่อนที่จะกระซิบที่ข้างหูอีกฝ่าย
“เอาเป็นว่าข้าไม่หย่าแล้ว ท่านก็อย่าได้พูดเรื่องนี้อีกนะเจ้าคะ…ท่านพี่”
กล่าวจบก็ฉีกยิ้มกว้างถดกายกลับมา ก่อนจะบอกลาอีกฝ่ายแล้วออกจากห้องไป
ทิ้งให้อีกคนพรูลมหายใจออกมาหนัก ๆ เมื่อครู่นี่มันอะไรกัน แล้วอาการหายใจไม่ทั่วท้องนี่คืออะไร
กู้ซูฉิน เจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่
ด้านกู้ซูฉินเมื่อออกจากห้องทำงานของผู้เป็นสามี ก็พบว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมาที่ตนด้วยสายตาตื่น ๆ
ทว่าดวงตากลม ๆ นั่นช่างทำให้ใจละลายยิ่งนัก
น่ารัก
“อะ อี้”
“คุณหนู!!”
มือที่กำลังจะยกขึ้นทักบุตรสาวตัวเองก็เป็นอันต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเร่งร้อนของใครบางคน
กู้ซูฉินทบทวนความจำเล็กน้อยก็พบว่าคนตรงหน้าคือ จางตานฉง หลานสาวของท่านป้าหยวน บ่าวคนสนิทของแม่สามี
อีกฝ่ายรีบรวบบุตรสาวตัวน้อยของนางเข้าสู่อ้อมกอด แล้วมองนางด้วยความไม่ไว้วางใจ ราวกับกลัวว่านางจะทำอันใดบุตรสาวของตนเองอย่างไรอย่างนั้น
“ขออภัยด้วยเจ้าค่ะที่คุณหนูมารบกวนท่าน ข้าจะพาคุณหนูไปเดี๋ยวนี้” แม้คำกล่าวจะดูกลัวเกรงแต่น้ำเสียงนั้นกลับแข็งยิ่งนัก ไหนจะท่าทางนั่นอีก ไม่รอกล่าวสิ่งใดต่อ เหรินซ่งอี้ บุตรสาวตัวน้อยวัยกว่าสี่หนาวของนางก็ถูกพี่เลี้ยงสาวอุ้มไปเสียแล้ว
อะไรกัน
เอาเถอะ ยังมีเวลาอีกเยอะ
เรื่องของบุตรสาวก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่นางอยากจะแก้ไขความสัมพันธ์ระหว่างมารดาและบุตรสาวไม่ควรที่จะต้องเป็นเช่นนี้
แต่ตอนนี้นางต้องไปจัดการเรื่องหนึ่งเสียก่อน
ฝู่อ้าย บ่าวตัวแสบ!
