ตอนที่ 4 : สาเหตุความร้ายกาจที่เพิ่มทวี
ตอนที่
[4]
สาเหตุความร้ายกาจที่เพิ่มทวี
“เพิ่งผ่านความตายมายังคิดไม่ได้อีกหรือ ข้า…”
“ท่านรองแม่ทัพขอรับ!” ระหว่างที่รองแม่ทัพหนุ่มกำลังตีหน้ายักษ์ใส่ภรรยา บ่าวรับใช้ก็มารายงานของการมาถึงของท่านหมอตู้ทั้งที่ไม่มีการนัดหมายกันวันนี้แต่อย่างใด เขาสูดลมหายใจเข้าก่อนจะสะบัดหน้าจากไปด้วยความขุ่นเคือง หากเขามองกลับไปที่ด้านหลังคงจะยิ่งไม่พอใจกว่าเดิมเพราะบัดนี้ภรรยาเจ้าปัญหาผู้นั้นกลับกำลังแย้มยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาใด ๆ
สายตาของกู้ซูฉินยามนี้เต็มไปด้วยความเอื้อเอ็นดูต่อสามีของตนเอง เหรินฮุนผู้นี้ถึงจะเป็นรองแม่ทัพของกองทัพหลวงที่ประจำการที่เมืองหลวง แต่ใบหน้าของเขานั้นหล่อเหลาค่อนไปทางอ่อนหวาน นิสัยนั้นก็หาใช่เป็นดังที่แสดงออกเมื่อครู่ ที่ผ่านมาแม้จะแต่งงานด้วยเพราะเหตุจำเป็น แต่เขาก็ให้เกียรติกู้ซูฉินเป็นอย่างดี นอกบ้านคือรองแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่แต่ในบ้านคือบิดาที่รักบุตรสาวมากผู้หนึ่ง ในจวนนี้ผู้ที่มีปัญหาเห็นทีจะมีแค่กู้ซูฉินผู้เดียว และท่าทางเมื่อครู่ของเขาคงจะสุด ๆ แล้ว
ความอดทนอดกลั้นคงใกล้จะหมดลงแล้ว…
นางจึงรู้สึกเอ็นดูกับท่าทางเช่นนั้นของเขาที่มันดูน่ารักมากกว่าน่ากลัว คล้ายลูกแมวน้อยขู่ฟ่อ ๆ มากกว่า ในความทรงจำของกู้ซูฉินก็ไม่เห็นว่าเขาเป็นเช่นไรเมื่ออยู่ในกองทัพจะเป็นเช่นเมื่อครู่หรือไม่ คิดแล้วก็อยากเห็นไม่น้อย แล้วหากถามว่าเพราะเหตุใดจึงไม่เห็นภาพของเขาในความทรงจำของร่างนี้นั่นก็เพราะสตรีผู้นั้นไม่เคยสนใจเขา ไม่เคยรักเขา เพราะมีคนที่แอบชื่นชมในใจแล้ว รวมถึงเมื่อประสบกับปัญหาบางอย่างก็ยิ่งห่างเขาออกไป
“ฮูหยินน้อยเจ้าคะ” เสียงเรียกของฝู่อินทำให้นางหลุดออกจากภวังค์ของตนเอง
“ว่าอย่างไรหรือ”
“เอ่อเรื่องที่…” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังแสดงสีหน้าลำบากใจนางจึงนึกถึงเรื่องที่พูดค้างกันเอาไว้
“เรากลับไปคุยกันที่เรือนเถิด”
และหลังจากที่ฝู่อินได้ยินเรื่องราวทั้งหมดหญิงสาวก็แทบจะถลาออกจากห้องไปเพื่อไปจัดการใครบางคน แต่ก็ถูกผู้เป็นนายรั้งเอาไว้
“เรื่องนี้เดี๋ยวข้าจัดการเอง”
“แต่ฮูหยินน้อย เรื่องนี้บ่าวก็โดนนางหลอกเช่นกัน จึงทำให้ทำร้ายท่านไปอย่างไม่รู้ตัว ดีที่ท่านไม่เป็นอะไร” ฝู่อินพยายามจะกลั้นน้ำตาของตนเอาไว้เมื่อนึกถึงว่าผู้เป็นนายนั้นขาข้างหนึ่งเหยียบไปปรโลกแล้วยิ่งรู้สึกผิด แต่บ่าวรับใช้ตัวน้อยคงไม่รู้ว่าผู้เป็นนายที่แท้จริงของตนเองนั้นได้ไปปรโลกแล้วจริง ๆ
กู้ซูฉินเห็นเช่นนั้นจึงได้ดึงสาวรับใช้เข้ามาสวมกอดไว้
“เช่นนั้น เรื่องนี้เราค่อยวางแผนแล้วจัดการเรื่องราวด้วยกันดีหรือไม่”
ฝู่อินที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นนายก็ได้แต่พยักหน้ารัว ๆ สายตาที่กำลังแดงก่ำหวนนึกถึงสาวรับใช้อีกคนที่อยู่กับตนมาตลอดหลายปีอย่างหมายมาดบางอย่าง
ทางด้านเรือนใหญ่ตระกูลเหริน ที่ห้องทำงานของเหรินฮุน
“ท่านหมอว่าอย่างไรนะขอรับ!” เนื่องจากว่าท่านหมอตู้ผู้นี้คืออดีตหมอหลวงที่เป็นหมอประจำตระกูลเหรินมายาวนาน เหรินฮุนจึงให้ความเคารพอีกฝ่ายไม่น้อย
“ฮูหยินน้อยนางถูกวางยามานานหลายปี คราแรกข้าไม่แน่ใจนัก แต่ในตอนที่มาดูอาการของนางครั้งแรก นอกจากเรื่องที่นางศีรษะกระแทกจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ข้าเห็นว่าที่ผิวของนางมันมีลักษณะที่แปลก คล้ายคนโดนยาชนิดหนึ่งที่ข้าและเหล่าหมออีกคนได้กำลังศึกษาและหาต้นตอของมันอยู่”
“พิษอันใดหรือขอรับ” เหรินฮุนแทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน กู้ซูฉินน่ะหรือถูกพิษ นางที่ร้ายกาจกับผู้อื่นกลับเพลี่ยงพล้ำจนถูกพิษที่ร้ายแรงได้หรือ แต่ว่า…คืนวันนั้นเมื่อห้าปีที่แล้วนางก็ถูกผู้อื่นเล่นงานมิใช่หรือ
“พิษเรียกหา มันจะมีสารตั้งต้นและตัวกระตุ้นไม่ทราบว่าที่ผ่านมาฮูหยินน้อยมีอาการเช่นนี้หรือไม่…” จากนั้นท่านหมอตู้ก็ได้พูดถึงอาการของผู้ที่โดนพิษนั่นทำให้เหรินฮุนนั่นแน่นิ่งไป เพราะอาการหลายอย่างของกู้ซูฉินนั้นตรงกับที่ท่านหมอเอ่ยหลายข้อ
นั่นหมายถึงความร้ายกาจของนางที่กระทำโดยไม่มีสาเหตุหลายอย่างนั่นก็เป็นเพราะถูกพิษใช่หรือไม่ แต่ในหลายครั้งนางก็คล้ายกับคนปกติ แล้วที่นางทำร้ายบ่าวรับใช้คนสนิทเมื่อครู่นั่นก็เป็นเพราะพิษหรือ
เดี๋ยวนะ!! ท่านหมอบอกว่าหากถูกพิษชนิดนี้นั่นหมายถึงต้องมีคนคอยกระตุ้นอยู่ใกล้ ๆ แล้วหลายครั้งที่นางอาละวาดก็เป็นตอนอยู่ที่จวน นั่นหมายความว่า…
“ท่านหมอว่าตัวกระตุ้นคืออะไรนะขอรับ”
“คือ…”
เมื่อได้คำตอบแล้วจากนั้นเหรินฮุนจึงได้สั่งให้คนไปค้นเรือนของกู้ซูฉินรวมถึงจับคนที่เรือนมารวมกันที่ลานเล็กหน้าเรือนด้วย แม้กระทั่งฝู่อ้ายที่โดนจับขังเอาไว้ หลายคนเมื่อเห็นสภาพฝู่อ้ายก็ได้แต่ก่นด่ากู้ซูฉินในใจ คนของเหรินฮุนไม่ว่าจะค้นหาที่ใดก็ไม่พบของที่ต้องการจนกระทั่งชายหนุ่มนึกปะติดปะต่อเรื่องบางอย่าง สายตาจึงหันไปสบตากับภรรยาที่ยืนมองเขาอย่างไม่ทุกข์ร้อนรวมถึงไม่มีท่าทีเดือดดาลอันใด สายตาคมจึงหันไปมองฝู่อ้ายที่อยู่ในท่าทางที่น่าสงสาร
“ค้นตัวนาง”
“ท่านรองแม่ทัพ บ่าว…” ฝู่อ้ายไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเหล่าทหารจับขึงและค้นตัวโดยไม่สนใจเส้นกั้นระหว่างบุรุษและสตรี จนในที่สุดก็พบของที่ต้องการอยู่ในสาบเสื้อด้านหนึ่งของนาง
“นี่เจ้า!” เหรินฮุนกล่าวเพียงเท่านั้นก็มีการเคลื่อนไหวที่เร็วของคนผู้หนึ่งปราดไปที่ฝู่อ้าย
เพียะ!
“หญิงสารเลว!! ฝู่อ้ายเจ้าเลวนัก ลืมไปแล้วหรือว่าฮูหยินน้อยช่วยเจ้ามาจากที่ใด เหตุใดจึงทำร้ายนาง” สตรีผู้นี้ถูกผู้เป็นนายช่วยเอาไว้ตอนที่กำลังจะขายไปยังซ่องตั้งแต่เด็ก จากนั้นก็ได้รับความเมตตาและเอาใส่ใจจากผู้เป็นนายเป็นอย่างดี แม้กระทั่งตั้งชื่อให้ ทว่าคนผู้นี้กลับ…คิดฆ่าผู้มีพระคุณของตนเอง
เหตุการณ์ของผู้เป็นนายในตอนที่ล้มหัวฟาดฟื้นและจากไปรวมถึงสิ่งที่รายงานต่อท่านรองแม่ทัพ ล้วนแต่เป็นการพูดปดสร้างเรื่องของฝู่อ้ายแทบทั้งสิ้น!!
จากนั้นฝู่อินจึงกระหน่ำฝ่ามือไปไม่ยั้ง เหล่าบ่าวรับใช้ต่างมึนงงว่าเกิดอันใดขึ้น ก่อนจะได้ความเล็กน้อยว่าฝู่อ้ายวางยากู้ซูฉินมาหลายปี แม้ข้อมูลเพียงเล็กน้อยแค่นี้ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ วางยาพิษผู้เป็นนาย จนทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นสตรีร้ายกาจเช่นนั้นหรือ
“พวกเจ้าห้ามมีผู้ใดปริปากเรื่องนี้ออกไปนอกจวนเด็ดขาดมิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน!” ทว่าเมื่อได้ยินเสียงอันเด็ดขาดของผู้เป็นนายอย่างเหรินฮุน พวกเขาก็ต้องเงียบเสียงลง ก่อนที่จะแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนท่ามกลางความสงสัยหลายอย่าง ฝู่อ้ายในสภาพสะบักสะบอมก็ถูกจับกลับไปขังที่ห้องเดิมอีกครั้ง
หลังจากนั้นท่านหมอตู้จึงเข้ามาพูดคุยกับผู้เป็นเจ้าของเรือนในห้องส่วนตัวโดยที่เหรินฮุนก็ตามมาฟังด้วย
“ฮูหยินน้อยท่านถูกวางยาพิษมาหลายปี” จากนั้นสิ่งที่ท่านหมอได้รายงานให้กับเหรินฮุนก็ได้ถ่ายทอดให้กับภรรยาของเขาอีกครั้ง
นัยน์ตาของกู้ซูฉินมีประกายบางอย่างพาดผ่าน
เป็นอย่างที่นางคิดจริง ๆ ด้วย!
ถูกพิษ พิษหายากเสียด้วย ทว่า…น่าวิจัยนัก
เหรินฮุนเห็นท่าทางของภรรยาเขาก็คิดว่าอีกฝ่ายคงตกใจไม่น้อย สายตาที่ดุดันจึงอ่อนลงอย่างไม่รู้ตัว
“เรื่องการรักษาเนื่องจากพิษนี้ถูกใช้งานมาหลายปี การรักษาก็ต้องใช้เวลาด้วย ราว ๆ สามเดือนก็คงจะหายดี โชคดีที่ข้าได้สมุนไพรบางอย่างมา จึงเป็นข่าวดีว่าฮูหยินน้อยมีโอกาสที่จะหายดีแน่นอน” ตู้เหลียงพูดถึงเรื่องที่คิดว่ากู้ซูฉินจะต้องดีใจแน่ กู้ซูฉินจึงลุกขึ้นคำนับให้อีกฝ่าย
“รบกวนท่านหมอแล้วเจ้าค่ะ”
คล้อยหลังท่านหมอตู้จากไปโดยมีเหรินฮุนเดินไปส่ง กู้ซูฉินก็ได้ยินบ่าวมารายงานว่าผู้เป็นสามีเรียกให้นางไปพูดคุยกันที่ห้องทำงานของเขา
