บท
ตั้งค่า

ไม่มีวันยอม

“นางอยู่ด้วยแล้วอย่างไรล่ะขอรับ”

“เจ้าพูดเช่นนี้กับคนที่จะมาเป็นฮูหยินของเจ้าได้เช่นไร”

“ข้าไม่เคยพูดว่าจะแต่งนางมาเป็นฮูหยิน เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นท่านแม่ที่คิดเองฝ่ายเดียว”

“เฟยฉี!” นางเรียกชื่อบุตรชายเสียงดัง

“ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ”

เสิ่นเนี่ยนเจินถอนหายใจยาวเหยียดตามแผ่นหลังลูกชายที่ค่อย ๆ เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ บุตรชายคนนี้ของนางนอกจากความฉลาดเฉลียวและความสามารถในการสู้รบแล้ว ยังมีนิสัยดื้อดึงหัวแข็งที่ได้สามีของนางมาเต็ม ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว คงต้องรอให้บิดาของเฟยฉีกลับจวนมาก่อนคนที่สามารถกำราบแม่ทัพหนุ่มได้คงมีเพียงเฉินต้าจงผู้เป็นบิดาที่ชายหนุ่มเกรงกลัว

“ข้าขอโทษแทนลูกชายของข้าด้วย เป็นความผิดข้าเองที่ตามใจเขาจนเสียคนเช่นนี้”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพคงตกใจที่จู่ ๆ ต้องแต่งงานออกเรือนกับสตรีแปลกหน้าเช่นข้า”

“ตกใจหรือ หึ หาได้เป็นเช่นนั้น เรื่องเกี่ยวดองระหว่างตระกูลเฉินและตระกูลจินเขาล้วนรู้อยู่เต็มอก สิบกว่าปีได้แล้วกระมัง”

ซูซินไม่รู้ว่าจะพูดอะไรจึงไม่ได้ตอบอันใดกลับไป นางเอาแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อสิบปีก่อน เหตุใดพบกันครานี้เขาถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้ ต่างจากเมื่อก่อนราวคนละคน พี่เฟยฉีที่นางรู้จักเป็นคนอ่อนโยน ทว่าตอนนี้กลับแสดงท่าทีเย็นชาใส่นางเหมือนกับว่ารังเกียจเสียนักหนา

"ซูซิน" เสียงเรียกของฮูหยินเฉินปลูกนางตื่นจากภวังค์ความคิด

"เจ้าคะ"

"นี่ก็เริ่มดึกแล้ว รีบกลับเรือนเถิด"

"เช่นนั้น ซูซินขอตัวลา" ว่าพลางย่อตัวแสดงความเคารพ ก่อนเดินออกจากห้องไป

ตั้งแต่กลับมาจากเรือนมารดา เฉินเฟยฉีเอาแต่ขมวดคิ้วยุ่งในใจคิดไปต่าง ๆ นานา ว่าถ้าหากบิดาของเขากลับถึงจวนเมื่อใดคงมิพ้นที่ท่านแม่จะให้ท่านพ่อมาขู่เข็ญให้ตนเองแต่งงานกับจิน ซูซินแน่

"คิดอะไรอยู่หรือขอรับ"

"เฮ้อ ข้าไม่ได้ชอบหรือคิดพิศวาสกับคนที่ท่านแม่เลือกให้" เขาตอบบ่าวรับใช้คนสนิท ทั้งยังไม่ยอมเอ่ยชื่อหญิงสาวออกมาจากปาก เพราะรู้สึกกระดากอายที่จะเอ่ยชื่อของนาง

"รอดูไปก่อนเถิดขอรับ หากแม่นางจินมีข้อบกพร่องพอถึงตอนนั้นฮูหยินก็จะรู้เองว่าสตรีที่นางเลือกให้ท่าน ไม่เหมาะที่จะมาเป็นนายหญิงสกุลเฉิน"

"นางบกพร่องรึไม่ ไม่สำคัญ สำคัญที่ท่านแม่พึงใจนางยิ่งนัก ล้วนต้องมองข้ามเรื่องพวกนั้นไปอยู่แล้ว"

"เช่นนั้น ท่านแม่ทัพคิดจะทำเช่นไร"

"ข้าจะรอดูว่านางจะปิดบังธาตุแท้ของตัวเองได้นานสักเท่าใด แล้วค่อยคิดหาทางโน้มน้าวท่านพ่อ"

"แต่ท่านก็น่าจะรู้ดีมิใช่หรือขอรับ ว่าเรื่องในบ้านใต้เท้าเฉินล้วนเชื่อฟังฮูหยินเพียงผู้เดียว"

"ไม่หรอก ท่านพ่อเป็นคนมีเหตุผล ใช่ว่าท่านพ่อจะเชื่อคำพูดท่านแม่ทุกเรื่อง"

"หากท่านแม่ทัพคิดเห็นเช่นนั้น บ่าวก็ไม่มีอะไรจะพูดขอรับ"

นับตั้งแต่เขาอายุได้สิบขวบก็รู้ว่าตัวเองมีคู่หมั้น ยามนั้นเขายังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าใดนัก จนกระทั่งเริ่มเติบโตขึ้นถึงได้รู้ว่าตัวเองได้ถูกพันธนาการไว้กับสตรีนางหนึ่งที่เคยพบครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อน เขารู้สึกเหมือนถูกโซ่ตรวนจองจำเอาไว้ไม่ให้มีอิสระ แม้กระทั่งความรู้สึกรักใคร่ผู้ใดสักคนยังไม่สามารถทำได้ด้วยเพราะมีคู่หมั้นแล้ว และยิ่งรู้ว่าสตรีที่ตัวเองต้องแต่งงานด้วยมิใช่สตรีตามที่เขาใฝ่ฝันเอาไว้ เขาควรตัดไฟเสียแต่ต้นลม นางจะได้ไม่หวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าจะได้เขาไปเป็นสามี

ต่างคนต่างไม่ได้รู้สึกรักใคร่กันจะแต่งงานกันได้เช่นไร แม้ว่าจะเป็นธรรมเนียมที่บุตรจะต้องตบแต่งกับคนที่บิดาและมารดาหามาให้ แต่แล้วอย่างไรเล่าเขานี่แหละจะไม่มีวันยอมทำตาม...

หลายครั้งที่จินซูซินพยายามเข้าใกล้ชายหนุ่มคู่หมั้น ทว่าเขากลับยิ่งทำตัวห่างเหินไม่พูดไม่จามีเพียงสายตาเย็นชาที่เปรยมองนางเท่านั้น แต่คนอย่างนางน่ะหรือจะนำมาใส่ใจในเมื่ออีกไม่นานนางจะต้องแต่งให้เขาแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel