บท
ตั้งค่า

ตอกย้ำ

“ท่านพี่ ข้านำชาจากหนานจิงมาให้ท่านลองดื่มเจ้าค่ะ” นางว่า ก่อนวางถ้วยชาอุ่น ๆ ไว้ตรงหน้าเขา

เฉินเฟยฉีไม่ได้มีท่าทีสนใจหญิงสาวตรงหน้าแม้สักนิด จนซูซินยืนจนเมื่อยขาและชาที่นำมาเย็นชืดหมด เขาถึงได้เงยหน้าออกจากกองหนังสือแล้วทำท่ายกชาถ้วยนั้นขึ้นมาดื่ม แต่สุดท้ายก็วางลงที่เดิม

“ชาเย็นชืดเช่นนี้เจ้ากล้านำมาให้ข้าได้อย่างไร” เขาถามเชิงตำหนิ

“หากท่านรีบดื่มตั้งแต่แรกคงไม่เป็นเช่นนี้”

“เจ้าจะโทษว่าเป็นความผิดข้างั้นสิ”

“เปล่าเจ้าค่ะ เป็นความผิดข้าเอง” นางขี้คร้านจะโต้เถียงกับเขาจึงได้บอกปัด พร้อมกับนำชาถ้วยนั้นวางใส่ถาดดังเดิมแล้วให้สาวใช้นำกลับไปที่ครัว

“เดี๋ยว” เขาเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นนางกำลังจะหันหลังเดินออกไป

“มีอะไรหรือเจ้าคะ”

“เจ้าเรียกข้าว่าท่านพี่อย่างนั้นหรือ”

“เจ้าค่ะ”

“จากนี้ไปอย่าได้เรียกข้าเช่นนั้นอีก ข้าเป็นลูกคนเดียวมิได้มีพี่น้องที่ไหน”

“เช่นนั้นจะให้ข้าเรียกท่านว่าอะไรล่ะเจ้าคะ มารดาของท่านเป็นคนบอกให้ข้าเรียกท่านเช่นนี้เอง”

“เรียกว่าท่านแม่ทัพดังเดิม คนที่สามารถเรียกข้าว่าท่านพี่มีเพียงฮูหยินของข้าเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ” เขาจงใจพูดให้นางได้ยินว่าตัวนางนั้นมิควรอาจเอื้อมคิดมาเป็นฮูหยินของเขา

“เจ้าค่ะ แล้วถ้าหากมารดาของท่านได้ยินเข้าว่าข้าไม่ได้เรียกท่านว่าท่านพี่ นางจะรู้สึกเช่นไร”

“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ท่านแม่ย่อมรู้อยู่เต็มอก นางไม่รู้สึกอันใดหรอก ส่วนเจ้าในเมื่อมาอาศัยอยู่ที่จวนสกุลเฉินก็ทำตัวดี ๆ อย่าทำให้คนที่รับเจ้าเข้าจวนเสียหน้า โดยการทำเรื่องที่ไม่ควรกระทำ”

“เรื่องที่ไม่ควรกระทำอย่างนั้นหรือ”

“ใช่ ตราบใดที่เจ้ายังอยู่ที่นี่อย่าก่อเรื่องวุ่นวาย มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”

“คนเช่นข้าน่ะหรือจะทำเรื่องเช่นนั้น”

“ชื่อเสียงของเจ้าตอนอยู่ที่เมืองหนานจิงใช่ว่าจะดีนักหนา เรื่องนี้เจ้าย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ”

“ในสายตาท่านข้าคงเป็นสตรีที่ด่างพร้อยไม่คู่ควรมาเป็นฮูหยินของท่าน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นท่านก็หนีความจริงที่ว่าข้ากับท่านเป็นคู่หมั้นกันไม่พ้นหรอกเจ้าค่ะ”

“จินซูซิน!” เป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยเรียกชื่อนางออกมา มิใช่เพราะพิศวาสหรืออยากเรียก แต่เป็นเพราะความโมโหที่ถูกสตรีตรงหน้าต่อล้อต่อเถียงทุกคำ มีสตรีใดบ้างที่กล้าทำเช่นนี้เห็นทีคงมีเพียงคุณหนูสกุลจินผู้นี้ผู้เดียวกระมัง คนเช่นนี้น่ะหรือที่มารดาของเขาเลือกมาเป็นลูกสะใภ้ ในภายภาคหน้านางต้องทำให้สกุลเฉินอับอายแน่

“แม้ท่านจะไม่พึงใจข้า แต่ข้าก็จะเป็นฮูหยินของท่าน” ความอดทนเส้นสุดท้ายของนางขาดผึงไม่มีเหลือ เมื่อได้ยินชายหนุ่มตวาดเรียกชื่อตัวเองเสียงดัง พลันทำให้นางมองเห็นตัวเองในอดีตที่กว่าจะผ่านคืนวันแสนโหดร้ายมาได้ก็ทุกข์ทรมานมากพอสมควร

“ออกไป ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก” เขาพูดพร้อมกับถอนหายใจ ยามมองไปที่นัยน์แดงก่ำของนาง เขาไม่อาจทนมองสตรีใดในใต้หล้านี้ร้องไห้ได้ เพราะถ้าหากเกิดเรื่องเช่นนั้นตัวเขาเองคงไม่ต่างจากบุรุษชั่วช้าที่รังแกแม้กระทั่งสตรี

ฮูหยินเฉินทราบเรื่องทุกอย่างที่บุตรชายเอ่ยกับว่าที่ลูกสะใภ้ จินซูซินจะนำเรื่องนี้มาบอกแก่นางก็ย่อมได้ ทว่านางกลับไม่ได้ทำเช่นนั้น คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนอย่างนางย่อมดูออกว่าสตรีตรงหน้าเป็นคนเช่นไร อีกอย่างตระกูลเฉินเป็นตระกูลใหญ่ทั้งยังมีความสำคัญต่อราชสำนัก นางจะกล้าเลือกคนที่จะมาเป็นนายหญิงสกุลเฉินต่อจากนางแบบผิวเผินได้เช่นไร ใช่ว่านางไม่เคยพบปะพูดคุยกับคุณหนูสกุลต่าง ๆ เสียที่ไหน พวกนางเหล่านั้นต่างเป็นคนจำพวกหัวอ่อน เคร่งเรื่องขนบธรรมเนียมและมารยาท แต่สิ่งที่สตรีเหล่านั้นไม่มีคือความกล้าหาญ เด็ดขาดและกล้าที่จะโต้เถียงบุรุษ สตรีในใต้หล้านี้จินซูซินผู้นี้เหมาะสมที่สุดแล้ว หากจะกำราบบุตรชายหัวดื้อของนางจำต้องหาสตรีเช่นนี้มาอยู่ข้างกายเขา จะได้รู้ซึ้งเสียบ้างว่าแม้เป็นบุรุษก็ไม่อาจทำเรื่องใดตามอำเภอใจได้ทุกเรื่อง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel