เอาแต่ใจ
“ฉันยอมแล้ว นายอย่าทำอะไรพ่อกับแม่ของฉันเลยนะ ได้โปรด” น้ำตาของหญิงสาวไหลลงมาอาบแก้มนวลทั้งสองข้างอย่างคนหมดหนทาง เธอจะยอมทำทุกอย่างขอแค่ให้พ่อกับแม่ของเธอปลอดภัย
“ไปกับฉัน ถ้าไม่อยากให้คนรอบตัวของเธอฉิบหายกันหมด”
“ถ้าฉันไปกับนาย นายจะไม่ทำอะไรพวกเขาใช่มั้ย?” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงเสียงสะอื้น ถายในใจของเธอมันร้อนรุ่มคิดเป็นห่วงแต่พ่อกับแม่ ป่านนี้พวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง
“เธอมีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับฉัน หืม?”
สิ้นสุดประโยคคำพูด มือหนาของสงครามเลื่อนไปจับคางมนของหญิงสาวให้เชิดหน้าขึ้น ก่อนที่เขาจะมองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ใบหน้าคมคายของชายหนุ่มโน้มลงมาพลางบีบปลายคางของหญิงสาวแล้วสอดลิ้นลุกล้ำเข้ามาในโพรงปากหวานของเธอ ก่อนที่จะขบกัดริมฝีปากบางของฝ้ายอย่างแรงจนบวมเจ่อได้กลิ่นคาวเลือดของเธอคละคลุ้ง โดยที่ไม่สนว่าลูกน้องของเขาจะยืนมองอยู่รอบตัว
“ฉะ...ฉันขอแค่ให้พ่อกับแม่ของฉันปลอดภัย” ฝ้ายหลับตาลงอย่างช้า ๆ ยอมรับความเจ็บปวดและความอายที่เขากำลังมอบให้เธอ
“ถ้าเธอทำตัวดี ฉันจะยอมให้เธอได้เจอกับพวกเขา ตกลงมั้ย?” สงครามพูดออกมาพลางกดยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วร้าย ก่อนที่จะดึงหญิงสาวมากอดไว้อย่างแนบแน่น ใบหน้าแสนหวานถูกวางลงที่บ่าแกร่งของชายหนุ่ม
ก่อนที่สงครามจะใช้มือหนาสอดล้วงเข้ามาในกระโปรงนักศึกษาทรงเอของหญิงสาวต่อหน้าลูกน้องของเขา ฝ้ายได้แต่หลับตาลงให้เขากระทำหยาบช้าดังเช่นคนป่าเถื่อน
“......” หญิงสาวพยักหน้าอย่างไม่มีทางเลือกพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้น ถ้าเธอเลือกได้ เธออยากจะให้คนที่ตายเป็นชายหนุ่มตรงหน้า ตอนนี้ภายในใจของหญิงสาวได้แต่สาปแช่งให้สงครามนั้นตาย ๆ ไว ๆ เธอรังเกียจเขา เกลียดทุกอย่างที่เป็นเขา คนชั่ว ๆ อย่างสงครามไม่ควรที่จะได้แตะต้องเธอแม้แต่ปลายนิ้วซะด้วยซ้ำ
“สงครามอย่าทะ...ทำ” หญิงสาวร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่อสงครามเริ่มลูบไล้ตรงกลางกายของเธอต่อหน้าสาธารณะแบบนี้ ถึงมันจะไม่เห็นสัดส่วนเรือนร่างของเธอ แต่ลูกน้องของสงครามก็ต้องรู้อยู่ดีว่าเขากำลังทำอะไรกับเธอ
“อยู่นิ่ง ๆ” สงครามกระซิบข้างหูของหญิงสาวพลางล็อกคอเธอไว้ไม่ให้ดิ้นหนี จากนั้นเขาก็เริ่มบีบเคล้นตรงส่วนนั้นของหญิงสาวพร้อมใช้นิ้วร้ายของเขาสอดใส่เข้ามาในร่องของเธอด้วย
“ไม่นะ อย่าทำ”
“นี่คือการลงโทษที่เธอไปยุ่งกับมัน” ชายหนุ่มขบกรามแน่นก่อนที่จะกระแทกนิ้วเข้าไปในร่องของหญิงสาวอย่างแรง เมื่อเห็นภาพที่เธอเดินจูงมือถือแขนกับทิว ภาพที่หญิงสาวยอมให้ผู้ชายคนอื่นกอดยอมให้คนอื่นหอมเหมือนที่เขาเคยทำ มันยิ่งทำใจอารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านขึ้นไปอีก
“ขะ...ขอร้องนะสงคราม หยุดมันสักที” ฝ้ายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน พลางสอดส่องสายตามองไปรอบ ๆ
“จำไว้ว่าเธอเป็นของฉันแค่คนเดียว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์”
สงครามพูดแค่นั้นก่อนที่จะยอมถอนนิ้วออกจากร่องของหญิงสาว แล้วฉุดกระชากลากถูฝ้ายให้เดินออกจากบ้านมาเพื่อไปขึ้นรถของเขาที่จอดอยู่ โดยที่เธอไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะสงครามนั้นเหนือกว่าเธอทุกทางในตอนนี้ ชายหนุ่มหันไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พร้อมกดยิ้มที่มุมปากอย่างผู้ชนะ
เพราะบนโลกใบนี้มันไม่มีอะไรที่เขาอยากได้แล้วไม่ได้ ฝ้ายหารู้ไม่ว่าตอนนี้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะข้าง ๆ อย่างสงครามกำลังสะกดกลั้นอารมณ์อย่างเต็มที่ เพื่อที่ไม่ให้จับเธอขย่มคารถโง่ ๆ ต่อหน้าลูกน้องของเขา
“นายจะพาฉันไปไหน?” เธอถามขึ้นพลางเม้มปากแน่น สายตาของหญิงสาวสอดส่องพยายามหันซ้ายหันขวาเพื่อที่จะหลบหนี แต่เธอก็ต้องหมดหวัง
“......” สงครามเงียบไม่ตอบอะไร แต่เขาเลือกที่จะนั่งมองท่าทางกระวนกระวายของหญิงสาวแล้วแสยะยิ้มออกมาให้กับความโง่เขลาของหญิงสาวที่คิดจะหาวิธีหนีเขาไปทั้งทีมันไม่มีทางไหนเลยที่เธอจะหนีเงื้อมมือเขาไปได้
“ตอบมาสิว่าจะพาฉันไปไหน?” ฝ้ายพูดขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิมเมื่อไม่เห็นปฏิกิริยาโต้ตอบของสงคราม แต่เหมือนเดิมคือสงครามไม่ตอบอะไรกลับมา
ผ่านไปชั่วโมงกว่า ๆ รถหรูของสงครามก็แล่นเข้ามาจอดที่คฤหาสน์หรูแห่งนึงที่ตั้งอยู่ห่างจากชุมชนค่อนข้างไกลพอสมควร มองไปทางไหนก็เจอแต่ป่าเต็มไปหมด มันไม่ได้สวยงามเลยสักนิด บริเวณรอบ ๆ มันดูอึดอัด ดูเหมือนคุกใหญ่ ๆ ซะมากกว่า
ฝ้ายเดินตามสงครามเข้ามาในบ้าน พลางมองไปรอบ ๆ บริเวณบ้านก็เห็นลูกน้องชายฉกรรจ์ยืนอยู่ทุกมุมของบ้าน แล้วเธอรู้สึกกลัวทุกครั้งเวลาที่เห็นสายตาของลูกน้องสงครามที่กำลังมองมาทางเธอ ราวกับว่าเธอเป็นตัวประหลาด
“พาเธอไปพักที่ห้องใหญ่ แล้วเฝ้าให้ดี ๆ อย่าให้หนีไปไหนได้” สงครามเอ่ยคำสั่งบอกลูกน้องที่ยืนอยู่
“ครับนาย”
ลูกน้องโค้งคำนับรับคำสั่งก่อนที่จะเดินนำหญิงสาวขึ้นมาบนชั้นสามของบ้าน หญิงสาวในชุดนักศึกษาหลุดหลุ่ยได้แต่เดินตามลูกน้องของสงครามไปแบบเงียบ แต่ภายในสมองของเธอสอดส่องมองหาวิธีที่จะหนีออกไปจากที่นี่อยู่ตลอดเวลา
แกร่ก!! ประตูไม้สีขาวบานใหญ่ถูกเปิดออกก่อนที่เธอจะเดินตามเข้ามาในห้องที่สงครามต้องการ ห้องที่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูราคาแพง โทนห้องจะถูกตกแต่งด้วยโทนเทากับดำเกือบทั้งหมด
“นี่คือห้องพักของคุณครับ”
“......”
“ผมคริสเตียน เป็นคนสนิทของนายน้อยครับ” ลูกน้องของสงครามเอ่ยทักทายหญิงสาวอย่างเป็นมิตร
“นะ...นายรู้ไหม ว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะปล่อยฉันไป?” ฝ้ายถามขึ้นดังคนที่สติกำลังหลุดลอย ในสมองของเธอตอนนี้คิดถึงแต่พ่อกับแม่ ฝ้ายอยากเจอพวกท่าน
“ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมนายน้อยถึงจับคุณมาแบบนี้” คริสเตียนตอบไปตามความจริง เพราะเขาไม่รู้ว่าทำไมผู้เป็นนายถึงได้อุกอาจไปจับตัวเธอมาแบบโจ่งแจ้งขนาดนี้ แล้วสงครามก็ไม่เคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน บางทีฝ้ายอาจจะไปรู้ไปเห็นเรื่องของเจ้านายมากไปแล้วเอาเรื่องไปแจ้งตำรวจ สงครามก็เลยจับเธอมาแทนที่จะฆ่าเธอทิ้งซะ ฆ่าทิ้งเหมือนคนอื่น ๆ
“......” หญิงสาวไม่พูดอะไรแต่เลือกที่จะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า สองมือเรียวกำสายสะพายกระเป๋าไว้แน่น ตอนนี้เธอแค่กำลังรู้สึกเครียด
“คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เข้ามาเหยียบในบ้านหลังนี้ครับ”
“......” ฝ้ายนั่งก้มหน้าเม้มปากเงียบ เพราะเธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสงครามนั้นจะปล่อยเธอออกไปจากที่นี่ได้ตอนไหน หรือบางทีเธออาจจะได้ออกไปจากที่นี่แบบไม่มีลมหายใจก็เป็นได้
“ส่วนห้องของนายน้อยอยู่ชั้นสอง ถ้าคุณมีอะไรก็สามารถลงไปหานายน้อยได้เลยครับ”
“......”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวครับ”
คริสเตียนพูดขึ้นก่อนที่จะหันหลังเดินออกจากห้องไป พอเห็นดังนั้นหญิงสาวรีบดีดตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งไปล็อกกลอนประตูอย่างรวดเร็วเพราะเธอกลัวว่าสงครามจะบุกรุกเข้ามาหาเธอ
หญิงสาวทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ในห้องพลางค่อย ๆ หลับตาลงอย่างช้า ๆ เธอเป็นคนที่เข้มแข็งได้กับทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้เธอทำใจให้เข้มแข็งไม่ได้จริง ๆ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขามันไม่มีไม่ความทรงจำดี ๆ อะไรร่วมกันทั้งนั้น ทุกอย่างที่เธอต้องมันมีแต่ความโหดร้าย
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้หญิงสาวที่ผล็อยหลับไปต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เธอมองซ้ายมองขวาอย่างร้อนรนเพราะกลัวว่าคนที่จะมานั้นเป็นสงคราม
“นายน้อยให้มาตามไปทานข้าวครับ” เสียงของคริสเตียนดังขึ้นอยู่ภายนอกห้องทำให้ฝ้ายถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจที่คนมาใหม่ไม่ใช่สงคราม
“ฉันไม่กิน อย่ามายุ่งกับฉัน” ฝ้ายตอบกลับไป สถานการณ์ตอนนี้เธอกินอะไรไม่ลงทั้งนั้น
ปึง! ปึง! เสียงทุบประตูดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่กิน อย่ามายุ่งกับฉัน!!” หญิงสาวตะโกนกลับไป เพราะคิดว่าเป็นคริสเตียนที่มาเรียกเธอ ยังไงซะเธอก็ยืนยันว่าจะไม่ขอกินอาหารของเขา
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้” เสียงของสงครามดังขึ้นอยู่ภายนอกห้อง น้ำเสียงของชายบ่งบอกได้ว่าตอนนี้เขากำลังหงุดหงิด
“นายอย่ามายุ่งกับฉัน” ฝ้ายตะโกนกลับไปอย่างหวั่น ๆ เพราะคนที่มาใหม่ครั้งนี้คือสงคราม
“บอกว่าให้เปิดประตู”
“ไม่! ฉันเกลียดนาย” หญิงสาวพูดขึ้นทั้งน้ำตาก่อนที่จะทรุดตัวนั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมมืด ๆ ของห้อง
