เกิดเรื่อง
“กรี๊ดดดด” เสียงกรีดร้องของฝ้ายดังขึ้นเมื่อถูกชายหนุ่มตรงหน้ากดร่างของเธอให้นอนราบอยู่ที่เบาะหลังของรถ ก่อนที่เขาพยายามจะดันขาเธอให้แยกออกจากกัน แต่เธอไม่ยอม
“อ้าขาออก”
“ไม่นะ นายจะทำทำอะไรฉันฮึกกก” หญิงสาวส่ายหน้าร้องไห้ออกมาเมื่อเธอรู้ชะตากรรมว่ากำลังจะถูกทำอะไร ฝ้ายได้แต่ร้องไห้ออกมา เพราะไม่คิดว่าชีวิตนี้เธอจะต้องมาเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้
“จะอ้าออกเอง หรือจะให้ฉันเรียกพวกมันมาช่วยอ้า” สงครามพูดขึ้นก่อนที่จะหันไปมองลูกน้องที่ยืนรออยู่ภายนอกรถ
“ได้โปรดอย่าทำฉัน” สองมือเรียวยกขึ้นไหว้ชายหนุ่มทั้งน้ำตาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา ฝ้ายมองผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าด้วยความหวาดกลัว เขาเหมือนปีศาจร้ายที่สามารถทำลายทุกอย่างที่เขาไม่ต้องการได้อย่างเลือดเย็น
“......” สงครามเงียบก่อนที่จะดีดตัวลุกขึ้นจากหญิงสาว
“ฮึกกก ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันขอร้อง”
สิ้นสุดคำพูดของหญิงสาว สงครามก็เปิดประตูรถก่อนที่จะกระชากร่างบางให้ลงมา ชายหนุ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณก่อนที่จะผลักร่างบางอย่างแรงจนล้มลงที่พื้น สายตาที่เรียบนิ่งเย็นชาของเขาไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“จำไว้ อย่ามาสาระแนเรื่องของฉัน” สงครามพูดขึ้นพลางจ้องหน้าหญิงสาวที่นั่งร้องไห้ตัวสั่นอยู่ตอนนี้
“......” ฝ้ายนั่งปิดปากเงียบเพราะอย่างน้อยเขาก็ยังเลือกจะปล่อยเธอไป ไม่ได้ทำอะไรร้ายแรงเหมือนที่เธอคิด
ร่างบางได้แต่นั่งกอดตัวเองร้องไห้ มองรถของชายหนุ่มที่ขับออกไป เรือนร่างท่อนบนของเธอมีเพียงแค่เศษผ้าบางๆ ปกปิดไว้ เมื่อเห็นว่ารถของชายหนุ่มขับออกไปแล้ว ฝ้ายไม่รอช้ารีบดีดตัวลุกแล้ววิ่งกลับมาที่จุดเกิดเหตุ
“ฮึกกก คะ...คุณลุงคะ”
“คุณลุงอยู่ไหน นี่ฝ้ายเอง”
เสียงหญิงสาวตะโกนร้องเรียกพ่อของสงครามทั้งน้ำตา เธอตัดสินใจกลับมาตรงที่เกิดเหตุแต่หญิงสาวกลับไม่พบเจอใคร มีเพียงแค่รอยเลือดที่จะพอให้เห็นแต่กลับไม่พบเห็นบุคคลที่ต้องการ
“คุณลุง ได้ยินไหม” ร่างบางวิ่งไปโดยรอบก่อนที่จะตะโกนร้องหาอยู่แบบนั้น เธอไม่รู้ว่าพ่อสงครามจะเป็นอย่างไรบ้าง หรือบางทีพวกเขาอาจจะจัดการเก็บหลักฐานไปจนหมดแล้วหรือเปล่า
หญิงสาวรวบรวมสติอารมณ์ก่อนจะที่หาที่หลบภัยแล้วโทรหาตำรวจให้มาที่จุดเกิดเหตุ เพราะยังไงเธอก็ต้องแจ้งตำรวจ เหตุการณ์ที่ร่างบางเจอในวันนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ยังไงซะตำรวจก็ต้องจับคนผิดมาลงโทษ ถึงแม้บางทีกฏหมายอาจจะทำอะไรพวกเขาไม่ได้ แต่ดีกว่าให้เธออยู่เฉยๆ แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบบนั้นเธอทำไม่ได้
หลังจากที่ให้ปากคำเป็นพยานจนเสร็จ ฝ้ายก็กลับบ้านมาด้วยความรู้สึกที่อึดอัดเพราะพ่อของสงครามเป็นตายร้ายดียังไงไม่มีใครรู้ได้ หญิงสาวเอาแต่คิดไม่ตกทั้งเป็นห่วงทั้งกลัว แต่ความถูกต้องยังไงก็คือความถูกต้อง เพราะเธอมั่นใจว่ายังไงตำรวจก็ต้องลากคนชั่วแบบสงครามเข้าคุกได้แน่นอน
“แม่คะหนูกลัว” ร่างบางพูดออกไปก่อนที่จะกอดผู้เป็นแม่ไว้แน่น ทุกอย่างรอบตัวเธอตอนนี้มันดูอันตรายไปหมด
“ไม่เป็นไรนะฝ้าย ทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้น” ผู้เป็นแม่ปลอบลูกสาวที่เอาแต่ร้องไห้ตัวสั่น เพราะเธอก็ใจหายใจคว่ำไม่น้อยที่รู้ว่าลูกสาวไปโดนอะไรมา
หญิงสาวเดินเข้าห้องมาพร้อมทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดแรง ภาพทุกอย่างเหตุการณ์ทุกอย่างมันยังคงตราตรึงในใจของเธอไม่มีวันลืม มีเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่หญิงสาวรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว เพราะเธอเริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เธอทำคือแจ้งตำรวจนั้นมันถูกหรือผิด
หลายสัปดาห์ผ่านไป...
“ฮึกกก ฮือออ” เสียงร้องไห้ของอีเจ๊ลีฟดังขึ้นไม่หยุดเพราะตอนนี้มันกำลังนั่งโหยหาพรรณนาคิดถึงผัวเก่า
“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย” เจ๊ลีฟร้องไห้ตะโกนออกมาแบบไม่อายพร้อมกับความอัดอั้นตันใจ
“ใจเย็นๆ อีอ้อย ผู้ชายมันก็ไม่ได้มีคนเดียวปะวะ” ซอสพูดขึ้นพร้อมมองไปทางอีเจ๊อย่างเวทนา ก็พวกฉันน่ะรู้ว่าอีเจ๊มันรักเขามาก
“อึกกก ฮือออ กะ...กูไม่ดีตรงไหน?” อีเจ๊มันเอาแต่ร้องไห้ถามพวกฉันอยู่แบบนั้น
“เรื่องมันก็ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว มึงยังทำใจไม่ได้อีกเหรอวะ?” ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย แล้วที่มันนัดให้ฉันออกมาในวันนี้ก็เพื่อที่จะให้ฉันมานั่งฟังมันร้องไห้เศร้าโศกเสียใจอยู่แบบนี้ใช่มั้ย
“เอ้าาาโชนนนน” เสียงของเจ๊ลีฟดังขึ้น ก่อนที่พวกฉันจะยกแก้วที่มีน้ำสีอำพันอยู่ในนั้นกลืนลงคอจนหมด
“ฮึกกกก ฮืออออ” อีเจ๊ลีฟมันยังคงพร่ำเพ้อร้องไห้ก้มหน้าฟุบกับโต๊ะอยู่แบบนั้น หน้าตามันก็ไม่ได้แย่อะไร ทำไมไม่รู้จักหาผัวใหม่ก็ไม่รู้
“ดะ...เดี๋ยวกูมานะ กูขอไปข้างนอกแป๊บนึง” อีเจ๊ลีฟพูดขึ้นแค่นั้น ก่อนที่จะเดินออกไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้ในโต๊ะของฉันตอนนี้เหลือแค่ซอสกับฉัน
“แล้วเรื่องคดีมึงไปถึงไหนแล้ว” ซอสถามขึ้นพลางจ้องมองหน้าฉันที่ทรุดโทรมเต็มทน
ก็หลายอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันนอนไม่ค่อยหลับ อยู่ด้วยความหวาดระแวงเพราะข่าวคราวของสงครามนั้นหายไปเลย ฉันเลยไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรต่อ ฉันเอาแต่เก็บตัวอยู่ในบ้าน บางวันก็ไปนอนที่คอนโดบ้าง ไปนอนที่หอบ้างสลับกันไป
จะมีก็แต่ข่าวลือจากตำรวจที่ฉันบังเอิญไปได้ยิน บอกว่าสงครามนั้นได้หนีกลับรัซเซียตั้งแต่วันที่เกิดเหตุไปแล้ว มันก็ทำให้ฉันสบายใจได้ในระดับนึง เพราะในทางการของตำรวจสงครามเป็นบุคคลอันตรายอันดับต้นๆ ที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดตอนนี้ แล้วต้นเหตุก็ไม่ใช่ใคร! ก็มาจากฉันที่ไปรื้อฟื้นคดีเก่าๆ ของเขาขึ้นมา
“ยังไม่คืบหน้า เห็นบอกว่ามันหนีกลับรัซเซียไปแล้ว” ฉันตอบกลับพลางยกเหล้ากลืนลงคออึกใหญ่ ช่วงนี้ฉันเครียดมากๆ จริงๆ ภาวนาให้ตำรวจจับมันได้ไวๆ ชีวิตฉันถึงจะสงบสุขสักที
ตึกตัก! ตึกตัก! เสียงฝีเท้าของฉันดังขึ้นในขณะที่เดินมาขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดอยู่หน้าคลับ วันนี้ฉันขอตัวกลับก่อนเพราะรู้สึกอ่อนเพลียด้วยนิดหน่อย สายตาการทรงตัวของฉันมันเริ่มพล่ามัวจากการดื่มเหล้ามากเกินลิมิต ตอนนี้ฉันรู้สึกเมาและรู้สึกเวียนหัวอย่างหนัก แต่ฉันก็พอมีสติอยู่บ้าง
ผู้คนที่ยืนอยู่รอบข้างไม่ได้ให้ความสนใจอะไรฉันมากนัก ฉันพยายามพาตัวเองมาอยู่ในจุดที่คนค่อนข้างอยู่รวมกันเยอะ เพราะการที่ฉันยืนอยู่คนเดียวมันจะเสี่ยงเกินไป
ผ่านไปไม่กี่นาทีรถแท็กซี่ก็มาจอด ก่อนที่ฉันจะเดินขึ้นรถด้วยอาการเซเล็กน้อย ฉันส่งข้อความบอกเพื่อนๆ ทันทีที่ขึ้นรถมา ก่อนที่จะหลับตาลงเพื่อผ่อนคลาย
ผ่านไปราวเกือบชั่วโมงก็มาถึงที่คอนโดของฉัน วันนี้ฉันเลือกที่จะนอนที่คอนโดเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้วถ้ากลับบ้านไปในสภาพนี้มีหวังฉันต้องโดนแม่บ่นจนหูชาแน่นอน ฉันเปิดประตูห้องเข้ามาก่อนที่จะก้มลงถอดร้องเท้าส้นสูงด้วยความทุลักทุเล
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังลั่นทำให้หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้นในขณะที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องพักในยามวิกาล หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ฝ้ายหยุดชะงักไปพักนึงก่อนที่จะกดปิดทีวีแล้วทำเสียงให้เงียบที่สุด เพราะเธอรู้สึกถึงความผิดปกติที่กำลังจะเกิดขึ้น
สองขาเรียวเดินก้าวลงจากโซฟา ก่อนที่เธอจะเดินไปส่องที่ตาแมวเพื่อดูว่าใครที่มาหาเธอในยามวิกาลขนาดนี้ แต่ภาพที่เธอเห็นทำให้หัวใจของเธอแทบจะหยุดเต้นในเสี้ยววินาที เพราะคนที่ยืนอยู่หลังประตูคือสงครามกับลูกน้องของเขา
ปึง!! เสียงพังประตูดังขึ้นในวินาทีต่อมาก่อนที่คนพวกนั้นจะพังประตูเข้ามา ดวงตาคู่คมมองไปรอบๆ ห้อง แต่ก็ไม่พบใครอยู่ในห้องนี้ สงครามกวาดสายตามองก่อนที่จะขบกรามแน่นมองไปรอบๆ เมื่อไม่เจอบุคคลที่ต้องการเจอในตอนนี้
“ไปลากคอมันมาให้ได้”
สิ้นเสียงคำพูดของชายหนุ่ม หญิงสาวที่หลบอยู่ในใต้เตียงเนื้อตัวสั่นเทิ้มไปด้วยความกลัว แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นที่เธอตัดสินใจคลานเข้ามาหลบที่ใต้เตียง เธอสวดมนต์ภาวนาของให้ปีศาจร้ายอย่างเขาหาเธอไม่เจอ
ตึกตัก! เสียงฝีเท้าดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวใจของเธอที่เต้นระรัวคล้ายกำลังจะหลุดจากอก เมื่อเธอรู้สึกว่าฝีเท้านั้นดังเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นเรื่อย ๆ หญิงสาวได้แต่หลับตาภาวนาให้เธอรอดปลอดภัยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
“ชอบเล่นซ่อนหาก็ไม่บอก”
“สะ...สงครามอย่านะ กรี๊ดดดด”
